สปช.ร้อยเอ็ดแฉเรียกรับเงิน 5 แสนบาท ย้าย ผอ.รร.แถบอีสาน ระบุผู้ร้องมีหลักฐานคลิปเสียง ประธาน อ.ก.ค.ศ.และผู้ทรงคุณวุฒิใน อ.ก.ค.ศ. เผยส่งเรื่องร้องเรียนไปที่ ศธ.แล้วแต่เรื่องเงียบจนต้องเปิดเผยในสภาฯ พล.ท.นคร สุขประเสริฐ กรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จ.ร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนเป็นเอกสารและหลักฐาน เป็นคลิปบันทึกเสียงการเจรจาเกี่ยวกับการทุจริตเพื่อเรียกรับผลประโยชน์ในการย้ายข้าราชการครู จากกลุ่มผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมศึกษาหลายแห่งในเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 27 จ.ร้อยเอ็ด ผู้ร้องเรียน ได้แก่ นายพชรกฤต เพ็งเหมือน ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดอนแคน สพป.รอ.2 นายธานินทร์ เห็มชนาน ผอ.โรงเรียนบ้านเล้าข้าว สพป.รอ.2 นายตระการเกียรติ ปากเสนาะ ผอ.โรงเรียนบ้านยางเครือ สพป.รอ.1 และนายเสนอ แก้วนาคูณ ผอ.โรงเรียนบ้านดอนสำราญ สพป.รอ.1 ถึงพฤติการณ์ของนายวินัย แสนมณี ประธานคณะกรรมการตรวจสอบบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) และนางจารุวรรณ ศรีลาภ ผู้ทรงคุณวุฒิ อ.ก.ค.ศ. ประจำ สพม.เขต 27
พล.ท.นครกล่าวว่า ในเอกสารการร้องเรียนได้ระบุถ้อยคำสนทนาระหว่างนางจารุวรรณกับกลุ่มผู้ร้อง มีเนื้อหาการพูดคุยแสดงให้เห็นว่านางจารุวรรณเป็นผู้ประเมินผลงานและรวบรวมรายชื่อของ ผอ.โรงเรียนที่จะขอย้ายไปเป็นผู้บริหารโรงเรียนมัธยมที่ดีกว่า ซึ่งมีว่างอยู่ 8 ตำแหน่ง พร้อมทั้งได้เปิดเผยรายชื่อของ ผอ.โรงเรียนอื่นที่ได้วิ่งเต้นขอย้าย และจ่ายเงินเป็นค่าโยกย้าย จำนวน 5 แสนบาทต่อราย ซึ่งมีการระบุว่ามีผู้จ่าย และตกลงว่าจะจ่ายเงินแล้วรวม 3 ราย โดยนางจารุวรรณใช้คำว่า "สู้หรือไม่สู้ โดยในคลิประบุว่า "ต้องเป็นเงินครึ่งหนึ่งของเงินจำนวน 7 หลัก"
พล.ท.นครกล่าวอีกว่า ส่วนอีกคลิปหนึ่งเป็นเสียงของนายวินัย ที่ได้มีการพูดคุยกับ ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งว่า "หากมีอะไรให้ประสานกับนางจารุวรรณ เพราะบางเรื่องไม่สามารถคุยทางโทรศัพท์ แต่ให้บอกนางจารุวรรณไว้ว่า ได้คุยกับ ผอ.วินัยไว้แล้ว" ซึ่งข้อมูลทั้งหมดอ่านแล้วจะให้เข้าใจเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากการเสนอผลประโยชน์เพื่อแลกกับการโยกย้ายตำแหน่งเพื่อไปสู่โรงเรียนที่ดีกว่าโดยผ่าน อ.ก.ค.ศ. ทั้งนี้ กลุ่มผู้ร้องได้มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ไว้เป็นหลักฐาน และได้ร้องทุกข์ต่อ ป.ป.ช.จ.ร้อยเอ็ด เป็นที่เรียบร้อยถึงพฤติกรรมของบุคลากรใน อ.ก.ค.ศ. และผู้บริหารสถานศึกษาบางแห่งที่มีการวิ่งเต้นโยกย้ายไปเป็นผู้บริหารโรงเรียนมัธยมที่ดีกว่า ซึ่งเป็นการทำความผิดต่อนโยบายทั้งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการปราบปรามการทุจริต และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
"ทั้งนี้ แม้จะมีการร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้วตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าเรื่องดังกล่าวยังไม่มีความคืบหน้า กลุ่ม ผอ.โรงเรียนเหล่านี้จึงทำเรื่องร้องเรียนถึงผม ซึ่งตนได้ทำเรื่องส่งสำเนาเอกสารคำร้องเรียนพร้อมคลิปเสียงให้ ดร.ประภาภัทร นิยม สปช. และเป็นที่ปรึกษาของ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาฯ และได้ส่งเรื่องผ่านกลุ่มงานสารบัญ สนช. เพื่อส่งเรื่องไปยังนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค.57 แต่เรื่องผ่านไป 1 สัปดาห์ เมื่อไปตามเรื่องหนังสือก็ยังอยู่บนโต๊ะเจ้าหน้าที่ จึงได้ถอนเรื่องดังกล่าวกลับ และนำมาเปิดเผยต่อสื่อ เพื่อให้ผู้มีอำนาจหน้าที่ได้เร่งรัดแก้ไขปัญหานี้โดยเร็ว เพราะเป็นปัญหาหลักที่กระทบต่อการศึกษาชาติ" พล.ท.นครกล่าว
สมาชิก สปช.รายนี้กล่าวอีกว่า หนังสือร้องเรียนดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าทุกพื้นที่จังหวัดที่มีการโยกย้ายครูเพื่อเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น จะต้องมีการเสียเงินให้กับ อ.ก.ค.ศ.จึงจะได้ตามต้องการ และแต่ละพื้นที่ทั้งประถมและมัธยมศึกษามีผู้เรียกรับผลประโยชน์ ตนไม่เข้าใจว่า อ.ก.ค.ศ.ที่เลือกตั้งเข้ามา บางแห่งมีการใช้เงินซื้อเสียง ทั้งที่ครูซึ่งเป็นบุคลากรพื้นที่ฐานของชาติในการสร้างเด็กและเยาวชน ยังต้องผจญวิบากกรรมเยี่ยงนี้ มองไปอนาคตของชาติคงมืดมน ดังนั้น จำเป็นต้องปฏิรูประบบการศึกษาของไทยและกระทรวงศึกษาธิการโดยด่วน เพราะเรื่องเรียกรับผลประโยชน์ในการโยกย้ายครูน่าจะทำได้เร็ว ไม่ต้องรอการปฏิรูปแล้วเสร็จ เพราะมีบุคลากรเกี่ยวกับการศึกษาหลายคนที่ร่วมเป็น สปช.อยู่ด้วย อาทิ นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จึงน่าช่วยบำบัดทุกข์ของข้าราชการครูดีๆ และมั่นใจว่า สปช.หลายจังหวัดมีข้อมูลพร้อมสนับสนุนในการแก้ไขปัญหานี้
ที่มา ไทยโพสต์ วันที่ 27 มกราคม 2558