พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เห็นชอบในหลักการ เกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement) โดยสาระสำคัญของหลักเกณฑ์ของคุณสมบัติผู้ขอรับการประเมิน คือ ผู้ยื่นคำขอต้องยื่นขอก่อนที่จะดำรงวิทยฐานะครบตามที่กำหนดในมาตรฐานวิทยฐานะ ได้ก่อนไม่เกิน 2 ปี โดยผู้ยื่นต้องมีภาระงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบตามที่ส่วนราชการกำหนด และผ่านการพัฒนาจากส่วนราชการ 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ความรู้ความสามารถเชิงทฤษฎี ส่วนที่ 2 ประสบการณ์วิชาชีพ โดยผลการพัฒนาฯ ให้ใช้เป็นคุณสมบัติในการขอเลื่อนวิทยฐานะไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันที่ประกาศผลการทดสอบ โดยที่มีข้อตกลงในการพัฒนางาน ไม่น้อยกว่า 2 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ที่สำคัญต้องได้รับการรับรองว่าเป็นผู้มีวินัย คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ จากผู้บังคับบัญชาชั้นต้น
ทั้งนี้ จะมีกรรมการพิจารณาตัดสินสองชุดคือคณะกรรมการชุดที่ 1 ทำหน้าที่พิจารณาข้อตกลงในการพัฒนางานและประเมินสรุปผลการพัฒนางานตามข้อตกลง เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่กำหนดตามข้อตกลง ส่วนคณะกรรมการชุดที่ 2 ทำหน้าที่ประเมินเพื่อพัฒนาเป็นระยะๆ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงตลอดระยะเวลาของการพัฒนางานตามข้อตกลง โดยผู้ผ่านเกณฑ์การตัดสิน ต้องได้คะแนนแต่ละด้าน ดังนี้คือ ด้านวินัย คุณธรรม ต้องได้คะแนนจากผู้บังคับบัญชาชั้นต้นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75, ส่วน ด้านการพัฒนางานตามข้อตกลง ต้องได้คะแนนจากกรรมการแต่ละชุด แต่ละคนดังนี้ วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75 ทั้งนี้กำหนดให้ยื่นคำขอได้ปีละ 1 ครั้ง 2 ช่วงเวลา คือ ก่อนภาคเรียนที่ 1 และก่อนภาคเรียนที่ 2 ก่อนเปิดภาคเรียนไม่น้อยกว่า90 วัน
ที่มา: http://www.naewna.com