Advertisement
1. หันเหความหิวด้วยรูปสวย ๆ
บ่อยครั้งที่เราเกิดความรู้สึกอยากกินอาหารหลายชนิด (โดยเฉพาะของหวาน และขนมขบเคี้ยว) ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่ได้รู้สึกหิวเลย ซึ่งนั่นก็แปลว่า คุณอยากกินอาหารเพื่อแก้อาการเบื่อ หรืออารมณ์เหนื่อย ๆ ของตัวเองเท่านั้น แต่คงดีกว่าถ้าจะหากิจกรรมอย่างอื่นทำแก้เบื่อ โดยการทดสอบผู้หญิงจำนวนหนึ่งก็พบว่า การดูรูปภาพสวย ๆ แฟชั่นเสื้อผ้า การแต่งกาย และรูปสวย ๆ งาม ๆ ทุกประเภท จะช่วยให้คุณเลิกสนใจอาหาร แล้วรู้สึกดีขึ้นได้โดยไม่ต้องกินอะไรสักอย่างเลยล่ะ
2. ดื่มชาร้อน
ในวันที่อะไรก็ไม่ได้ดั่งใจไปซะทุกอย่าง แน่นอนว่าคุณจะรู้สึกเครียด เหนื่อยหน่าย หรืออาจจะหมดอาลัยตายอยากไปเลย และอารมณ์เหล่านี้จะกระตุ้นฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ในร่างกายให้เพิ่มสูงขึ้น ทำให้คุณนึกอยากกินอะไรหวาน ๆ หรืออะไรก็ตามที่เป็นช็อกโกแลต เพื่อกระตุ้นร่างกายให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า แต่นอกจากช็อกโกแลตแล้ว คุณยังสามารถดื่มชาดำอุ่น ๆ หรือจิบชาเขียวอุ่นช่วยกระตุ้นความคึกคักให้ตัวเองได้ด้วยนะคะ เพราะชาเหล่านี้มีส่วนเพิ่มระดับฮอร์โมนโดพามีน (Dopamine) ฮอร์โมนช่วยเพิ่มพลังให้ร่างกาย นอกจากนี้การได้ดื่มอะไรอุ่น ๆ ยังช่วยคลายความตึงเครียดให้คุณรู้สึกสงบลงอีกด้วย
3. โยคะคืนความสงบ
หากคุณรู้สึกพลุ่งพล่าน กังวล และเครียดจนไม่เป็นอันทำอะไร ลองฝึกเล่นโยคะสักคอร์สเพื่อปรับสมดุลอารมณ์ และฮอร์โมนในร่างกายให้สงบลงดีกว่า อีกทั้งการได้ออกกำลังกาย ยืดเส้นยืดสายแบบนี้ ยังช่วยหันเหความสนใจของคุณ ไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับอาหารอุดมแคลอรี่ และอาหารน้ำตาลสูงได้อีกด้วยนะ แถมยังได้หุ่นกระชับเป๊ะมาเป็นของปลอบใจแจ่ม ๆ อีกต่างหาก
4. ฝังเข็มกำจัดความอยาก
พฤติกรรมกินอาหารตามความอยากเป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้คุณอ้วน น้ำหนักเกิน และมีไขมันสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย แต่เบื้องหลังความอยากนั้น หลายคนทราบดีว่า เกิดมาจากอารมณ์ที่ผลักดันให้คุณรู้สึกอยากกินอาหารเป็นส่วนใหญ่ น้อยครั้งนักที่จะกินเพราะหิวจัดจริง ๆ แต่ทางแก้ไขสภาวะกินอาหารตามอารมณ์แบบนี้ก็ทำได้ไม่ยาก โดยการฝังเข็ม บริเวณเส้นประสาทที่มีผลต่อความคิด และสมอง เพื่อลดความเครียด ความวิตกกังวล สาเหตุที่ทำให้คุณกิบจุบจิบไม่หยุดนั่นเอง เพียงแต่วิธีอาจจะต้องอดทนฝังเข็มไปเรื่อย ๆ ตลอด 6 เดือนเป็นอย่างต่ำถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนนะจ๊ะ
5. กินถั่วพิตาชิโอเพลิน ๆ
ถ้าคุณรู้สึกว่าอารมณ์นี้ต้องหาอะไรมาเคี้ยวเล่นจริง ๆ ไม่อย่างนั้นคงปรี๊ดแตกแน่ ๆ แนะนำให้กินถั่วพิตาชิโอเป็นของขบเคี้ยวแก้อารมณ์บ่จอยแทนอาหารชนิดอื่น เพราะถั่วพิตาชิโอมีประโยชน์กับร่างกายสูงมาก ทั้งไฟเบอร์เยอะ แคลอรี่น้อย มีส่วนช่วยปรับสมดุลระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้ร่างกายรู้สึกสงบขึ้น อีกทั้งเปลือกที่แข็งและหนาของถั่วพิตาชิโอ จะช่วยฝึกให้คุณมีสมาธิอยู่กับมัน จนลืมเรื่องเครียด ๆ ที่เคยเกิดขึ้นไปโดยปริยายเลยล่ะ
6. น้ำมะพร้าวช่วยได้
น้ำมะพร้าวอุดมไปด้วยโพแทสเซียม แถมยังมีรสชาติหวานชื่นใจ ดังนั้นเมื่อคุณดื่มน้ำมะพร้าว แทนอาหารอย่างอื่นเมื่อรู้สึกไม่สบายใจ โพแทสเซียมในน้ำมะพร้าวก็จะเข้าไปช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดที่พลุ่งพล่าน และน้ำตาลในน้ำมะพร้าวก็จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นผ่อนคลายได้ง่าย ๆ หมดปัญหาอยากกินเค้ก หรือขนมหวานอีกต่อไป
7. พักผ่อนให้เพียงพอ
นอกจากการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจะดีต่อสุขภาพโดยรวมของคุณแล้ว ยังสามารถช่วยลดความเครียดความวิตกกังวล และสภาวะอยากกินแป้ง และของหวานได้อีกด้วยนะ
อธิบายง่าย ๆ ก็คือ เมื่อเราพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะกระตุ้นฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ทำให้เรารู้สึกหิวโหยมากกว่าปกติ รวมทั้งระดับน้ำตาลให้เลือดก็จะลดต่ำลง ก่อให้เกิดความรู้สึกอยากดื่มน้ำหวานเพื่อกำจัดอาการเหนื่อยล้าอ่อนแรงที่เป็นอยู่ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกที่ความยับยั้งชั่งใจต่ออาหารแคลอรี่สูงของคุณจะลดต่ำลง เป็นผลให้วันนั้นกินจุอย่างไม่แคร์เรื่องรูปร่าง และน้ำหนักเลยทีเดียว ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมพาอ้วนแบบนี้ เราก็ควรนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 8 ชั่วโมงนะคะ
8. ทำสมาธิ เพื่อผ่อนคลาย
พอเอ่ยถึงการทำสมาธิ หลายคนก็เบือนหน้าหนีแล้วใช่ไหมล่ะ เพราะดูเป็นกิจกรรมที่น่าเบื่อซะจริง ๆ แต่เชื่อไหมคะว่า แค่คุณตัดความวุ่นวายจากโลกภายนอก ปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ หลับตาลง และสูดลมหายใจเข้า-ออกอย่างเต็มปอด เพียงแค่ 2 นาทีสั้น ๆ จะช่วยให้จิตใจที่ไม่ผ่องใส รวมทั้งอารมณ์ที่ขุ่นมัวสงบลงได้อย่างน่าประหลาด และเมื่อร่างกายรู้สึกสงบขึ้นแล้ว คราวนี้ก็จะไม่รู้สึกหิวพร่ำเพรื่อ หรือต้องการอาหารมาปลอบประโลมหัวใจอีกต่อไปแล้วจ้า
ขอบคุณที่มาจาก กระปุก.คอม
หน้าหนาวแล้ว คุณครูสนใจไหม DoDo เก้าอี้แคมป์ปิ้ง รับน้ำหนักได้เยอะ พร้อมกระเป๋าจัดเก็บ โครงอลูมิเนียมรับน้ำหนักได้200KG ในราคา ฿189 - ฿509 ที่ Shopeehttps://s.shopee.co.th/9pNuttuIUm?share_channel_code=6
Advertisement
เปิดอ่าน 12,295 ครั้ง เปิดอ่าน 50,852 ครั้ง เปิดอ่าน 3,046 ครั้ง เปิดอ่าน 13,696 ครั้ง เปิดอ่าน 17,829 ครั้ง เปิดอ่าน 8,977 ครั้ง เปิดอ่าน 20,035 ครั้ง เปิดอ่าน 14,127 ครั้ง เปิดอ่าน 11,529 ครั้ง เปิดอ่าน 9,068 ครั้ง เปิดอ่าน 220,219 ครั้ง เปิดอ่าน 9,763 ครั้ง เปิดอ่าน 9,810 ครั้ง เปิดอ่าน 12,880 ครั้ง เปิดอ่าน 21,494 ครั้ง เปิดอ่าน 19,944 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 2,048 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 11,803 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 13,873 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 738 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 13,942 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 14,393 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 5,281 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 9,578 ครั้ง |
เปิดอ่าน 17,007 ครั้ง |
เปิดอ่าน 304,091 ครั้ง |
เปิดอ่าน 55,223 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,829 ครั้ง |
|
|