การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบตามที่สำนักงานข้าราชการพลเรือน(ก.พ.)เสนอ มีรายละเอียดดังนี้
เพื่อให้การปรับบัญชีเงินเดือนของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐชั้นผู้น้อยมีผลในทางปฏิบัติโดยเร็วตามมติ คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 พ.ย.2557 ที่ให้การปรับบัญชีเงินเดือนมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2557 จึงควรนำเสนอคณะรัฐมนตรีเป็นเรื่องเร่งด่วน
สาระสำคัญ ข้อเท็จจริงและ ข้อกฎหมาย
การปรับบัญชีเงินเดือนของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ประกอบด้วย สาระสำคัญ3 ประการ
1. การปรับบัญชีเงินเดือนและการแก้ไข กฎหมาย ขยายเพดานเงินเดือนชั้นสูงของทุกระดับ หรือทุกอันดับ ของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภทเพิ่มขึ้น 3 ขั้น สำหรับ บัญชีเงินเดือนแบบขั้นหรือ ประมาณร้อยละ 10 สำหรับบัญชีเงินเดือนแบบช่วง รวมทั้งปรับปรุงบัญชีเงินเดือนข้าราชการให้สอดคล้องกับการดำรงตำแหน่ง
ในส่วนของข้าราชการพลเรือนสามัญ ปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับการได้รับเงินเดือนโดยแก้ไขชื่อระดับใน บัญชีเงินเดือนเพื่อให้ข้าราชการได้รับเงินเดือนในระดับที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าระดับตำแหน่งที่ดำรงได้ รวมทั้งปรับปรุงบทบัญญัติเพื่อให้ ก.พ. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเยียวยาให้ข้าราชการได้รับเงินเดือน และ/ หรือเงินประจำตำแหน่งได้ ข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ และนักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม ปรับปรุงจำนวนขั้นเงินเดือนของบางระดับ(ป.3และน.1-น.3) ให้สอดคล้องกับระดับชั้นยศ และข้าราชการตำรวจ ปรับปรุงจำนวนขั้นเงินเดือนของบางระดับ(ป.3และส.1-ส.3) ให้สอดคล้องกับระดับชั้นยศ และข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ปรับเงินเดือนขั้นสูงของอันดับครูผู้ช่วยมากกว่า 10% เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุของคุณวุฒิปริญญาเอก ทั้งนี้โดยการแก้ไขบัญชีเงินเดือนแนบท้ายพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการประเภทต่างๆ และให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2557
2. การปรับบัญชีเงินเดือนข้าราชการให้ข้าราชการได้รับ การปรับเงินเดือนเพิ่ม 1 ขั้น สำหรับระบบเงินเดือนแบบขั้น หรือ 4% ของอัตราเงินเดือน สำหรับระบบเงินเดือนแบบช่วง ณ วันที่ บัญชีเงินเดือนข้าราชการมีผลใช้บังคับ ในกรณีที่การปรับอัตราเงินเดือนดังกล่าว ทำให้อัตราใดมีเศษไม่ถึงสิบบาทให้ปัดเป็นสิบบาท โดยปรับเงินเดือนให้ข้าราชการ ดังต่อไปนี้
(1) ข้าราชการพลเรือนสามัญ ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการซึ่งรับเงินเดือน ระดับปฏิบัติการและระดับชำนาญการ และผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไป ซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติงานและระดับชำนาญงาน
(2) ข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ และนักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งรับเงินเดือนตั้งแต่ระดับ น.3 ลงมา
(3)ข้าราชการตำรวจ ซึ่งรับเงินเดือนตั้งแต่ระดับ ส.3 ลงมา
(4)ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งรับเงินเดือนตั้งแต่ระดับ คศ.2 ลงมา
(5) ข้าราชการพลเรือน ในสถาบันอุดมศึกษา ผู้ดำรงตำแหน่งวิชาการ ซึ่งรับเงินเดือนตำแหน่งอาจารย์ และ ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะหรือเชี่ยวชาญเฉพาะซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติการและระดับชำนาญการ ผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไป ซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติงานและระดับชำนาญงาน
(6) ข้าราชการรัฐสภาสามัญ ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติการและระดับชำนาญการ และผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไป ซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติงานและระดับชำนาญงาน
3. การได้รับเงินเดือน กรณีข้าราชการได้รับเงินเดือนขั้นสูง ให้ข้าราชการผู้ได้รับเงินเดือนขั้นสูง (เงินเดือนตัน)และได้รับค่าตอบแทนพิเศษตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการและลูกจ้างประจำ ผู้ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างขั้นสูงหรือใกล้เคียง ค่าจ้างขั้นสูงของอันดับหรือตำแหน่ง พ.ศ.2550และที่แก้ไขเพิ่มเติม นำค่าตอบแทนพิเศษตามผลการประเมินในรอบการประเมินผลการ ปฏิบัติราชการตั้งแต่ 1 เม.ย.2557 ถึงวันที่ 30 ก.ย.2557 มารวมเป็นเงินเดือนตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2557 ในกรณีที่อัตราค่าแทนพิเศษดังกล่าวรวมกับเงินเดือน มีเศษไม่ถึงสิบบาทให้ปัดเป็นสิบบาท
งบประมาณรายจ่ายและแหล่งที่มา
ค่าใช้จ่าย ในการปรับบัญชีเงินเดือนของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐจำนวนประมาณ 22,900ล้านบาท จะครอบคลุมข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ประเภทต่างๆ ประมาณ 1.98 ล้านคน
ประกอบด้วย ข้าราชการพลเรือนสามัญ ข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ และนักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการพลเรือน ในสถาบันอุดมศึกษา ข้าราชการรัฐสภาสามัญ พนักงานราชการ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในองค์กรอิสระ
องค์กรอื่นๆ ตามรัฐธรรมนูญ ได้แก่ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานศาลปกครองและ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
สำนักงบประมาณ ได้จัดเตรียมงบประมาณดังกล่าวเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการแล้วตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557
..................................................................
ปรับเงินเพิ่มค่าครองชีพ
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว ให้พนักงานราชการที่ได้รับการจ้างวุฒิการศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญาตรี ที่มีค่าตอบแทนไม่ถึง 13,285 บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเดือนละ 2,000 บาท แต่เมื่อรวมกับค่าตอบแทนแล้ว ต้องไม่เกินเดือนละ 13,285 บาท และกรณีที่รวมกันแล้ว ค่าตอบแทนไม่ถึง 10,000 บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว เพิ่มขึ้นจากค่าตอบแทนอีกจนถึงเดือนละ 10,000 บาท
พนักงานราชการที่จะได้รับเงินเพิ่มดังกล่าว จำนวน 35,500 คน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2557
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 10 ธันวาคม 2557
เจาะฐานรายได้ของคนไทย
การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2557 ซึ่งมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีการอนุมัติขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการและพนักงานราชการทุกประเภท ซึ่งเป็นไปตาม สำนักงาน ก.พ. เสนอ โดยจะมีการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการและพนักงานราชการทุกประเภท 1.98 ล้านคน ใช้งบ 22,900 ล้านบาท โดยปรับเพิ่มให้ 3 ขั้น หรือประมาณ 10% สำหรับบัญชีเงินเดือนแบบช่วง มีข้าราชการอีก 6 ประเภท ได้ขึ้นเงินเดือนเพิ่มเติมอีก 1 ขั้น หรือ 4% ส่วนกลุ่มข้าราชการที่อัตราเงินเดือนเต็มเพดานแล้ว ให้นำค่าตอบแทนพิเศษมารวมเป็นเงินเดือนได้
เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล แนวทางการยกระดับรายได้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐชั้นผู้น้อยโดยรวมตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้พิจารณาเห็นชอบ และหลักการกำหนดค่าตอบแทนของพนักงานราชการ ฝ่ายเลขานุการจึงได้เสนอแนวทางดำเนินการและวัตถุประสงค์ เพื่อปรับรายได้ของพนักงานราชการให้มีรายได้ที่เพียงพอต่อการดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรี เพื่อจะได้ปฏิบัติตนและอุทิศตัวเพื่อประโยชน์สุขของสังคม ทั้งนี้ การปรับเพิ่มรายได้ของพนักงานราชการควรสอดคล้องกับภาวการณ์ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น โดยไม่สร้างภาระงบประมาณมากจนเกินควร และคำนึงถึงผลกระทบต่อต้นทุนการจ้างงานภาคเอกชน
โดยมีการปรับบัญชีค่าตอบแทนให้กับพนักงานราชการกลุ่มงานบริการ กลุ่มงานเทคนิคทั่วไป กลุ่มงานบริหารทั่วไป และกลุ่มงานวิชาชีพเฉพาะ ซึ่งจะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2557 โดยเทียบเคียงกับข้าราชการประเภทวิชาการระดับตำแหน่งไม่เกินระดับชำนาญการ ทั้งนี้ ประมาณการพนักงานราชการที่จะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มมีจำนวน 126,200 คน
ให้มีการปรับเพดานบัญชีค่าตอบแทนขั้นสูงกลุ่มงานบริการ กลุ่มงานเทคนิคทั่วไป กลุ่มงานบริหารทั่วไป และกลุ่มงานวิชาชีพเฉพาะ อีกร้อยละ 4 เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับค่าตอบแทนของพนักงานราชการ เช่นเดียวกับการปรับบัญชีค่าตอบแทนของพนักงานราชการทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับวันเดียวกับการปรับเพิ่มเพดานเงินเดือนขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ
โดยการปรับบัญชีเงินเดือนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ประกอบด้วยสาระสำคัญ 3 ประการ คือ
1. การปรับบัญชีเงินเดือนและการแก้ไขกฎหมาย ขยายเพดานเงินเดือนขั้นสูงของทุกระดับหรือทุกอันดับของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภทเพิ่มขึ้น 3 ขั้น สำหรับบัญชีเงินเดือนแบบขั้น หรือประมาณร้อยละ 10 สำหรับบัญชีเงินเดือนแบบช่วง รวมทั้งปรับปรุงบัญชีเงินเดือนข้าราชการให้สอดคล้องกับการดำรงตำแหน่ง โดยในส่วนของข้าราชการพลเรือนสามัญ ปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับการได้รับเงินเดือนโดยแก้ไขชื่อระดับในบัญชีเงินเดือนเพื่อให้ข้าราชการได้รับเงินเดือนในระดับสูงกว่าหรือต่ำกว่าระดับตำแหน่งที่ดำรงได้
รวมทั้งปรับปรุงบทบัญญัติเพื่อให้ ก.พ. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเยียวยาให้ข้าราชการได้รับเงินเดือนและ/หรือเงินประจำตำแหน่งได้ ข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ และนักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม ปรับปรุงจำนวนขั้นเงินเดือนของบางระดับให้สอดคล้องกับระดับชั้นยศ ข้าราชการตำรวจปรับปรุงจำนวนขั้นเงินเดือนของบางระดับ ให้สอดคล้องกับระดับชั้นยศ และข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
และจะมีการปรับเงินเดือนขั้นสูงของอันดับครูผู้ช่วยมากกว่าร้อยละ 10 เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุของคุณวุฒิปริญญาเอก ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)
ปรับเงินเดือนข้าราชการ10%
2. การปรับเงินเดือนข้าราชการ ให้ข้าราชการได้รับการปรับเงินเดือนเพิ่ม 1 ขั้น สำหรับระบบเงินเดือนแบบขั้น หรือร้อยละ 4 ของอัตราเงินเดือน สำหรับระบบเงินเดือนแบบช่วง ณ วันที่บัญชีเงินเดือนข้าราชการมีผลใช้บังคับ ในกรณีที่การปรับอัตราเงินเดือนดังกล่าวทำให้อัตราใดมีเศษไม่ถึงสิบบาทให้ปัดเป็นสิบบาท โดยปรับเงินเดือนให้ข้าราชการ 6 ประเภท ดังนี้
1) ข้าราชการพลเรือนสามัญ ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติการและระดับชำนาญการ และผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไปซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติงานและระดับชำนาญงาน
2) ข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ และนักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งรับเงินเดือนตั้งแต่ระดับ น.3 ลงมา
3) ข้าราชการตำรวจ ซึ่งรับเงินเดือนตั้งแต่ระดับ ส.3 ลงมา
4) ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งรับเงินเดือนตั้งแต่อันดับ คศ.2 ลงมา
5) ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ผู้ดำรงตำแหน่งวิชาการซึ่งรับเงินเดือนตำแหน่งอาจารย์ และผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะหรือเชี่ยวชาญเฉพาะซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติการและระดับชำนาญการ ผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไปซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติงานและระดับชำนาญงาน
6) ข้าราชการรัฐสภาสามัญ ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติการและระดับชำนาญการ และผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไปซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติงานและระดับชำนาญงาน
3. กรณีการได้รับเงินเดือนกรณีข้าราชการได้รับเงินเดือนถึงขึ้นสูง ให้ข้าราชการผู้ได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูง (เงินเดือนตัน) และได้รับค่าตอบแทนพิเศษตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการและลูกจ้างประจำผู้ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างถึงขั้นสูงหรือใกล้ถึงขั้นสูงของอันดับหรือตำแหน่ง พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม นำค่าตอบแทนพิเศษตามผลการประเมินในรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2557 ถึง วันที่ 30 กันยายน 2557 มารวมเป็นเงินเดือนตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557 ในกรณีที่อัตราค่าตอบแทนพิเศษดังกล่าวรวมกับเงินเดือนแล้วมีเศษไม่ถึงสิบบาทให้ปัดเป็นสิบบาท
ทั้งนี้ การปรับเงินเดือนข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ จะครอบคลุมข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐประเภทต่าง ๆ รวมประมาณ 1.98 ล้านคน ประกอบด้วย ข้าราชการพลเรือนสามัญ ข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ และนักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ข้าราชการรัฐสภาสามัญ พนักงานราชการ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในองค์กรอิสระและองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ ได้แก่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานศาลปกครอง และสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยสำนักงบประมาณได้จัดเตรียมงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการแล้ว
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ คณะรัฐมนตรีได้อนุมติให้มีการปรับค่าครองชีพในส่วนของการปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว ให้พนักงานราชการที่ได้รับการจ้างวุฒิการศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญาตรีที่มีค่าตอบแทนไม่ถึง 13,285 บาท ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเดือนละ 2,000 บาท แต่เมื่อรวมกับค่าตอบแทนแล้วต้องไม่เกินเดือนละ 13,285 บาท และกรณีที่รวมกันแล้วมีค่าตอบแทนไม่ถึง 10,000 บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเพิ่มขึ้นจากค่าตอบแทนอีกจนถึงเดือนละ 10,000 บาท ประมาณการพนักงานราชการที่จะได้รับการเงินเพิ่มดังกล่าวจำนวน 35,500 คน โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2557
ที่มา ThaiPublica
Tags : ขึ้นเงินเดือน • ข้าราชการ • เจ้าหน้าที่ • พลเรือน • ค่าครองชีพ • พนักงาน