โดยมติชนออนไลน์
เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ก็รู้จักไม้พะยูงกันทั้งนั้น เหตุผลที่ต้องสันนิษฐานไว้อย่างนี้ ก็เป็นเพราะข่าวภูมิภาคที่เราๆท่านๆอ่านและฟังจากโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ หรือช่องทางเข้าถึงข่าวสารใดๆก็ตาม ที่นำเสนอเรื่องราวการจับไม้พะยูงกันจนเป็นเรื่องปกติรายวันนั่นเอง
แต่ก็เชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้ว่าประโยชน์ของไม้พะยูงคืออะไร?? ทำไมคนมันถึงต้องลักลอบเข้าไปตัดกันถึงในเขตอุทยานเเห่งชาติไม่เกรงกลัวคุกกลัวตะราง บางคนลักลอบไปตัดในพื้นที่วัด ไม่กลัวบาปกลัวกรรม หนักกว่านั้น คือความพยายามในการขนไม้พะยูง ซึ่งข่าวบางข่าวอ่านแล้วก็แทบขำ เพราะผู้ต้องหาต้องพยายามหลบซ่อนสายตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อไม้ให้ถูกจับได้
เช่นที่เคยเห็นและเป็นข่าว ก็เช่นการใช้รถโฟล์คสวาเกน รถตู้ยี่ห้อหรูที่ระดับนายกรัฐมนตรีใช้ ในการไปขนไม้พะยูง หรือบางคนใช้รถเก๋งส่วนบุคคล ด้วยพื้นที่อันน้อยนิด ก็ก็ยังกล้าลงทุนยอมใช้ขนไม้พะยูง บางคนลงทุนใช้รถตำรวจ-ทหาร ปลอมไปขนก็มี...
เรื่องนี้น่าสนใจว่า ตกลงแล้วไม้พะยูงมันสำคัญยังไง ทำไมรอบตัวเราไม่เห็นจะมีใครใช้ไม้พะยูงไปทำอะไรเลย?
ผู้เขียนลงค้นหาประโยชน์ของไม้พะยูงในกูเกิ้ลก็ต้องดีใจ ที่พบเพื่อนเป็นจำนวนมาก หลายคนต้องเอาความสงสัยไปตั้งตามเว็บบอร์ดต่างๆ โดยเฉพาะ เว็บไซต์พันทิป ที่ต่างก็ถามกันว่าไม้พะยูงที่เห็นในข่าวบ่อยๆนี่ ตกลงมันมีประโยชน์อะไรกันแน่
ผู้เขียนติดต่อสอบถามไปยัง นายดำรงค์ พิเดช ที่ปรึกษาฝ่ายสังคมจิตวิทยา ในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และตำแหน่งปัจจุบันคือสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ที่สำคัญคือเคยเป็น อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่เคยต่อสู้เรื่องป่าไม้ และสิ่งเเวดล้อมมานาน
เมื่อถามไปสั้นๆง่ายว่า ทำไมจึงมีข่าวคนร้ายขนไม้พะยูงลักลอบไปขายบ่อยนัก มันสำคัญยังไง? นายดำรง ตอบกลับมาทันทีว่า เพราะมันแพงไง!! โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า
ราคาไม้พะยูงในเมืองไทยมันไม่เเพงหรอก แต่ปัญหาคือการรับซื้อเมื่อส่งออกไปเมืองนอกมันเเพงมาก โดยเฉพาะการส่งออกไปประเทศจีน
"ราคาในเมืองไทยมันไม่แพงหรอก แต่ถ้าส่งออกไปต่างประเทศเนี่ย แต่ก่อนเขาขายกันเป็นคิว คิวละ 3 - 4 แสน แต่ปัจจุบัน เศษเล็กเศษน้อยเขาก็ขายกัน เขาขายกันเป็นกิโลกรัมแล้ว กิโลนึงนี่ประมาณ 3,000" นายดำรงค์กล่าว
นายดำรงค์เล่าเพิ่มเติมอีกว่า ทั้งนี้เหตุที่ประเทศจีนมีการรับซื้อไม้ชนิดนี้เยอะ เริ่มจากการนำเข้าไม้ชนิดนี้ไปซ่อมแซมพระราชวังต้องห้าม ในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ในปี 2551 ซึ่งช่างที่ซ่อมพบว่าไม้ส่วนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับฮ่องเต้ (เช่น เก้าอี้ โต๊ะต่างๆ) ล้วนทำมาจากไม้พะยูง และยังมีสภาพสมบูรณ์ดีมาก ทั้งๆ ที่ผ่านมานานหลายร้อยปี จึงเกิดการเล่าขานและเป็นกระเเสในเมืองจีน ทำให้คนรวยๆ ซึ่งเกิดขึ้นจำนวนมากตามการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจีน ต้องการนำมันมาประดับบารมี เช่นการนำไปสลักมังกร หรือแม้กระทั่งการนำไปทำโรงศพของมหาเศรษฐี
ต่อมาก็มีความนิยมนำไม้พะยูงไปแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ แต่ระยะหลังไม้พะยูงมีราคาพุ่งสูงขึ้นมาก ทางนายทุนจึงหันมาทำเป็นวัตถุมงคล พระ หรือแกะสลักเป็นรูปสัตว์ต่างๆ ที่นำไปประดับบารมีคนรวย และเคารพบูชา
ต่างกับประเทศไทยที่เชื่อว่าไม้พะยูงเป็นของสูง ผู้ที่มีบารมีไม่ถึงไม่สมควรเอามาใช้ เพราะจะมีปัญหาภายหลัง (ยกเว้นเอามาทำเป็นหิ้งพระ) ด้วยเหตุนี้คนไทยจึงไม่นิยมนำไม้พะยูงมาทำเป็นไม้กระดาน บันไดบ้าน และเตียงนอน ใช้เพียงแต่ทำรั้วบ้านเท่านั้น
เมื่อเกิดความต้องการมาก ก็ทำให้เกิดปัญหาการลักลอบเข้าไปตัดโดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งปัญหารุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากมูลค่าที่สูงขึ้นเรื่อยๆของไม้พะยูง จนเจ้าหน้าที่รัฐเองบางส่วนยังเข้าร่วมขบวนการดังกล่าว รู้เห็นเป็นใจการค้าไม้พะยูงซะเองก็มี
ทั้งนี้อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เล่าเพิ่มเติมว่า ในยุคที่ตนดำรงตำแหน่ง เมื่อเทียบสถานการณ์การค้าขายไม้พะยูงในปัจจุบันยัง ไม่รุนแรงขนาดนี้ โดยตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เข้ามาแก้ไข โดยได้ประกาศ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 106/2557 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ เป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ก็ทำให้สถานการณ์เบาลง
โดยในส่วนจำนวนของไม้พะยูงนั้น เคยมีมากในประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนจะหมดไป การลักลอบตัดในไทยจึงทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยในส่วนขั้นตอนการกระทำผิดนั้น หลังจากการลักลอบตัวในประเทศ ก็จะมีการลำเลียงออกต่างประเทศ โดยขนส่งผ่านประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะผ่านลำน้ำโขง ไปยังประเทศลาว เพื่อส่งต่อไปยัง เวียดนามและจีน ขณะที่บางส่วนก็ส่งต่อผ่านชายแดนไทย-กัมพูชา
เมื่อขอให้เสนอเเนะแนวทางแก้ไข นายดำรง เห็นว่า การแก้ปัญหานอกจากเร่งปราบปรามในไทย ก็จะต้องมีการประสานไปยังทางการของจีน ให้การรับซื้อไม้พะยูงเป็นเรื่องที่ผิด โดยเฉพาะการออกกฏระเบียบห้ามรับซื้อไม้พะยูงที่ขโมยมา ซึ่งขณะนี้ ไม้ดังกล่าวใกล้สูญพันธุ์ เหลือเพียงบริเวณประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งในฐานะที่ตนเองเป็นสมาชิกสภาปฏฺิรูปแห่งชาติ เห็นว่าน่าจะมีการเพิ่มโทษผู้ที่กระทำความผิดลักลอบตัดไม้ดังกล่าว เช่นโทษจำคุก หรือการยึดทรัพย์ ก็จะทำให้นายทุนที่อยู่เบื้องหลังเกิดความหวาดกลัว
ทั้งนี้เนื้อไม้ที่มีสีสันและลวดลายสวยงาม จนถือได้ว่าเป็นไม้ที่มีราคาแพงที่สุดชนิดหนึ่งในตลาดโลก โดยเนื้อไม้พะยูงมีความละเอียด เหนียวแข็งทนทานและชักเงาได้ดี มีน้ำมันในตัวจึงมักใช้ทำเครื่อง เรือน เครื่องใช้ต่าง ๆ ใช้ในการแกะสลักและทำด้ามเครื่องมือต่าง ๆ ในกรณีของไทย ใช้ทำเกวียน เครื่องกลึงแกะสลัก ทำเครื่องดนตรี เช่น ซอ ขลุ่ย ลูกระนาด เป็นต้น
ทีนี้ก็พอเข้าใจกันบ้างแล้ว ว่าเขาขโมยไม้พะยูงกันเพราะอะไร เพราะมันคุ้มที่จะเสี่ยงนั่นแหละครับ ...
ขอบคุณที่มาจาก มติชนออนไลน์