คอลัมน์สรรหามาขยาย
นิตยสาร Hospital & Healthcare มติชน
นอกจากสูตร “กินให้น้อยกว่าใช้” พร้อมออกกำลังกายสมํ่าเสมอ จะช่วยกำจัดห่วงยางและรูปร่างที่อุดมไปด้วยไขมันได้ผลแล้ว ยังมีข้อมูลน่ารู้เหล่านี้ประกอบไปด้วยนะ
1) อดมื้อเช้าเสี่ยงฉุ
การอดมื้อเช้าบ่อยๆ จนติดเป็นนิสัยจะทำให้การทำงานของร่างกายเปลี่ยนไปแทนที่จะผอมกลับจะยิ่งทำให้อ้วนมากกว่าเดิม ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะร่างกายคนเราต้องใช้พลังงานส่วนหนึ่งในการย่อยและดูดซึมอาหารที่กินเข้าไปเพื่อนำสารอาหารที่ได้ไปใช้ประโยชน์
ฉะนั้นถ้าเราไม่กินอาหารเช้าบ่อยๆ พลังงานที่ถูกขับออกมาเพื่อย่อยอาหารในตอนเช้าไม่ได้ถูกนำไปใช้ ร่างกายก็จะปรับระบบการทำงานโดยอัตโนมัติ ด้วยการลดระดับการเผาผลาญลง เมื่อระดับการเผาผลาญตํ่าจึงทำให้กลายเป็นคนอ้วนง่าย เพราะอาหารถูกเผาผลาญออกไปไม่หมดนั่นเอง
2) กินมื้อดึกทำให้อ้วนจริงหรือ?
งานวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้ แสดงให้เห็นว่าร่างกายคนเราไม่ได้จัดการกับอาหารที่เรากินเข้าไปใน
ตอนกลางคืนแตกต่างไปจากกลางวัน แม้ขณะนอนหลับ ร่างกายก็ยังคงเผาผลาญอาหารเพื่อ
สร้างพลังงาน ให้ระบบของร่างกายทำงานได้
3) นอนให้พอช่วยลดอ้วนได้
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชิคาโก วิจัยพบว่า การนอนหลับที่เพียงพอนั้นจะปรับสมดุลของ
ฮอร์โมนในร่างกาย ปรับระบบการเผาผลาญในร่างกายให้เป็นปกติ ต่างจากคนนอนน้อยที่นอกจากจะทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวนแล้ว การนอนดึกยังทำให้เราหิวได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
4) ซีโร “0%” ก็อ้วนนะ
สารอาหารที่ให้พลังงานหลักมีอยู่ 3 ชนิด คือคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน การบริโภคสาร
อาหารทั้งสามมากเกินกว่าที่ร่างกายนำไปเผาผลาญได้ จะถูกเก็บสะสมเป็นไขมันทั้งหมด ดังนั้นถึงแม้ขนมนํ้าอัดลม โยเกิร์ต ที่เขียนติดไว้ว่า ไขมัน 0% ถ้ายังมีน้ำตาลอยู่ก็ทำให้อ้วนได้จึงควรสังเกตจากแคลอรีรวมที่ฉลากเป็นหลักว่าแคลอรีมากน้อยเท่าไร
5) เอฟเฟกต์จากยาลดอ้วน
การลดความอ้วนด้วยยากดประสาทจะทำให้ไม่อยากอาหาร หรืออิ่มเร็วขึ้น แต่จะรบกวนระบบการนอนและการขับถ่าย ส่วนอาหารเสริมอย่างแอลคาร์นิทีน แม้ว่าจะช่วยเร่งการเผาผลาญขณะการออกกำลังกายช่วยเบิร์นแคลอรีได้มากแต่ร่างกายจะเสียสมดุลเมื่ออายุมากขึ้น นอกจากนี้ ยาลดการดูดซึมอาหาร “แฟตบล็อก” ไขมันและแป้งจะถูกขับออกทางของเสียทั้งหมด แต่สำคัญตรงที่เมื่อหยุดยาโยโย่ เอฟเฟ็กต์หรืออ้วนยกกำลังสองจะถามหาทันที
6) น้ำหนักลดเร็วในช่วงแรกแต่ต่อไปทำไมไม่ลด?
แปลกแต่จริง ขณะที่คุณพยายามลดนํ้าหนักในช่วงแรกด้วยการควบคุมการกินอาหารให้อยู่วันละ 1,600 - 2,000 แคลอรี (หรือน้อยกว่านํ้าหนักจะลดลงอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งนํ้าหนักจะเริ่มหยุดนิ่งหรือเด้งกลับขึ้นมา
นั่นก็เพราะร่างกายเรามีกลไกปกป้องตนเอง เมื่อคุณกินน้อยกว่าต้องการมันจะปรับให้คุณใช้เท่าที่กิน เหตุนี้ ใน 1 สัปดาห์หาเวลาจัดหนัก 1 วัน เพื่อหลอกร่างกายว่าฉันกินเยอะขึ้นแล้วเพื่อบอกระบบเผาผลาญว่า “ฉันกินเท่าเดิมแล้วใช้พลังงานให้มากๆ หน่อย”
7) 10 อันดับอาหารควรเลี่ยง
สำหรับคนที่กำลังลดความอ้วนควรเลี่ยงสุดยอดอาหารที่คนนิยม 10 อย่างต่อไปนี้
1) นํ้าอัดลม 240 กิโลแคลอรี
2) มันฝรั่งทอดกรอบ (100กรัม) 547 กิโลแคลอรี
3) ขนมอบ เบเกอรี่ (100 กรัม) 376 กิโลแคลอรี
4) เฟรนช์ฟราย (100 กรัม) 319 กิโลแคลอรี
5) ลูกอม ลูกกวาด (1 เม็ด) 30 กิโลแคลอรี
6) นํ้าหวาน ชา กาแฟ (20 ออนส์) 330 กิโลแคลอรี
7) ไอศกรีม 1 สกู๊ป 280 กิโลแคลอรี
8) ไก่ทอด (90 กรัม) 155 กิโลแคลอรี
9) ผัดไทย 1 จาน 800 กิโลแคลอรี
10) ข้าวมันไก่ 600 กิโลแคลอรี
สุดท้ายท่องไว้ว่า ยิ่งอ้วนยิ่งอายุสั้น เพราะคนอ้วนจะเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ประมาณ 30 ชนิด น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจากที่ควรจะเป็นเมื่อเปรียบเทียบระหว่างความสูงกับน้ำหนัก ทุก 10% จะบั่นทอนชีวิตให้สั้นลงไป 13%
จากสถิติพบว่า สาเหตุการเสียชีวิตของคนอ้วนนั้นมาจากโรคต่างๆ โดยมีเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับคนทั่วไป โรคหัวใจ 42% เส้นเลือดในสมองแตก 59% โรคไต 90%นิ่วในถุงน้ําดี 106% และเบาหวาน 283%