พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 12/2557 เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2557 ณ ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในประเด็นการเห็นชอบหลักเกณฑ์การสอบคัดเลือกบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค.(2)
เห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้ง ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค.(2) สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ
ที่ประชุมเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค.(2) สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
- ให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นผู้ดำเนินการคัดเลือก ให้เป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี โดยยึดถือระบบคุณธรรม ความเสมอภาค ความโปร่งใส และตรวจสอบได้
- ให้ส่วนราชการเป็นผู้พิจารณากำหนดสัดส่วนจำนวนตำแหน่งว่างเพื่อใช้ในการคัดเลือกและสอบแข่งขันได้ตามความเหมาะสม
- ผู้มีสิทธิ์สมัคร ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
1) ปัจจุบันเป็นพนักงานราชการ หรือลูกจ้างชั่วคราวจากเงินงบประมาณ หรือเงินรายได้ของหน่วยงานการศึกษา ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับลักษณะงานของตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) ของหน่วยงานการศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ตามคำสั่งหรือสัญญาจ้างหรือเอกสารอื่นที่ทางราชการออกให้ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี นับถึงวันรับสมัครคัดเลือกวันสุดท้าย ซึ่งเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกันหรือไม่ก็ได้
2) มีคุณสมบัติทั่วไปตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547
3) มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งตรงตามมาตรฐานตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2)
4) มีประสบการณ์ในตำแหน่งที่สมัครเข้ารับการคัดเลือกไม่น้อยกว่า 4 ปี
- การทดสอบ ให้ทดสอบ 3 ภาค คือ ภาค ก ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป ภาค ข ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง และภาค ค ภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง โดยให้ทดสอบภาค ก และภาค ข ก่อน แล้วจึงให้ผู้ที่ได้คะแนนผ่านเกณฑ์ เข้ารับการประเมิน ภาค ค ต่อไป
- เกณฑ์การตัดสิน ผู้ผ่านการคัดเลือกต้องได้คะแนนในแต่ละภาคไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60
- ให้บรรจุและแต่งตั้งผู้ได้รับการคัดเลือก ตามจำนวนตำแหน่งที่ประกาศรับสมัครโดยไม่มีการขึ้นบัญชี กรณีที่มีผู้ผ่านการคัดเลือกไม่ครบตามจำนวนตำแหน่งที่ประกาศรับสมัคร ให้บรรจุเท่าที่คัดเลือกได้
- ผู้ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งต้องปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานการศึกษาที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 4 ปี จึงจะมีสิทธิ์ขอย้าย
ที่มา ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ