สวัสดีค่ะ เพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน สถานี ก.ค.ศ.จันทร์นี้ ขอเสนอกรณีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากระทำอนาจารหรือล่วงละเมิดทางเพศศิษย์หรือผู้เยาว์ การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดวินัยตามมาตรา 94 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ส่วนระดับโทษนั้นขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของพฤติการณ์แห่งคดี นอกจากจะเป็นความผิดวินัยแล้ว ยังส่งผลให้เกิดอะไรขึ้นกับผู้กระทำบ้าง ขอยกตัวอย่างข้อเท็จจริงดังนี้
นาย ก. ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาแห่งหนึ่ง ถูกนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4-6 จำนวน 17 คน ร้องเรียนกล่าวหาว่าถูกนาย ก. กระทำอนาจาร และบางรายถูกล่วงละเมิดทางเพศ ผลการสืบสวนข้อเท็จจริงของผู้บังคับบัญชาพบว่า กรณีมีมูลเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ผู้บังคับบัญชาของนาย ก. มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง และในขณะเดียวกัน นาย ก. ก็ถูกดำเนินคดีอาญาด้วย ในการดำเนินการทางวินัยผลการสอบสวนได้ความว่า นาย ก. กระทำอนาจารโดยการกอด จับหน้าอก และจับของสงวนของนักเรียน และถูกลงโทษปลดออกจากราชการ กรณีกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงในเรื่อง กระทำอนาจารนักเรียนและกระทำการล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เรียนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของตน ตามมาตรา 94 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ส่วนคดีอาญา นาย ก. ถูกฟ้องเป็นจำเลยในข้อหากระทำอนาจาร คดีถึงที่สุดในชั้นศาลอุทธรณ์ โดยศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ที่พิพากษาว่านาย ก. มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279 วรรคสอง ประกอบมาตรา 285 (ฐานกระทำอนาจารเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งเป็นศิษย์ที่อยู่ในความดูแล) เป็นความผิดสองกรรม รวมจำคุก 4 ปี
บทสรุปเรื่องนี้ นอกจากนาย ก. ต้องจบชีวิตการเป็นข้าราชการแล้ว ยังต้องสูญเสียอิสรภาพรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาคดีอาญาอีกด้วย เรื่องที่นำมาบอกเล่ากันในวันนี้นับว่าให้แง่คิดได้เป็นอย่างดีสำหรับเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาท่านใดที่กำลังกระทำ เคยกระทำ หรือคิดที่จะกระทำการอนาจารหรือล่วงละเมิดทางเพศเด็กนักเรียน ขอให้พึงระลึกไว้เสมอว่า การกระทำของท่านนอกจากจะเป็นความผิดทั้งทางวินัยและทางอาญาแล้ว ยังเป็นการสร้างตราบาปให้กับเด็กนักเรียนอีกด้วย ซึ่งผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น "ครู" ที่สังคมยกย่องว่าเป็นปูชนียบุคคลไม่สมควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง ขอฝากไว้เป็นข้อคิดเตือนใจนะคะ แล้วพบกันใหม่วันจันทร์หน้าค่ะ
ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ที่มา : มติชน ฉบับวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2557