ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ยันแก๊สโซฮอล์ ไม่ได้ก่อมลพิษฯ ทำให้เกิดมะเร็ง


ความรู้ทั่วไป เปิดอ่าน : 8,546 ครั้ง
Advertisement

ยันแก๊สโซฮอล์ ไม่ได้ก่อมลพิษฯ ทำให้เกิดมะเร็ง

Advertisement

หลังจากที่นักวิชาการด้านอากาศ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำเสนอผลวิจัยปริมาณการแพร่กระจายของสารประกอบคาร์บอนิลในอากาศในเขตกรุงเทพมหานคร ระหว่างปี 2549-2551 แล้วพบสารก่อมะเร็งในกลุ่มคาร์บอนิล 2 ตัว คือ ฟอร์มาลดีไฮด์ และอะเซทัลดีไฮด์ ใน ปริมาณสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจุดที่มีการจราจรหนาแน่น ซึ่งมีการโยงไปถึงการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ที่เพิ่มมากขึ้นจนอาจสร้างความไขว้เขวและวิตกให้กับผู้ใช้รถที่เติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์นั้น


ต่อมาเมื่อช่วงสายวันที่ 23 มี.ค. นายเมตตา บันเทิง�สุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าว โดยปฏิเสธว่า สารกลุ่มคาร์บอนิลไม่ได้มีอยู่ในแก๊สโซฮอล์ หรือเอทานอล แต่ในการเผาไหม้ของเครื่องยนต์และท่อ ไอเสียอาจเกิดสารดังกล่าวขึ้นได้ และปะปนออกมาพร้อมกับไอเสียของรถยนต์


นายบันเทิงกล่าวอีกว่า นโยบายของกระทรวงพลังงานที่รณรงค์ให้มีการใช้แก๊สโซฮอล์ ก็เพื่อต้องการลดปริมาณสารเบนซีนและสารอะโรเมติกส์ ที่มีอยู่ในเนื้อน้ำมันเบนซิน ซึ่งหากมีการใช้แก๊สโซฮอล์ 91 ก็เท่ากับว่าจะช่วยลดปริมาณของสารเบนซีนและอะโรเมติกส์ลงได้ร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันเบนซินปกติ ขณะที่หากใช้แก๊สโซฮอล์อี 20 ที่มีส่วนผสมของเอทานอล ร้อยละ 20 ก็จะลดลงได้ร้อยละ 20 หรือหากใช้แก๊สโซฮอล์อี 85 ที่มีส่วนผสมของเอทานอล ร้อยละ 85 ก็จะลดลงได้ถึงร้อยละ 85 จึงจะเห็นได้ว่าแก๊สโซฮอล์มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนน้อยกว่า น้ำมันเบนซิน เพราะการนำแก๊สโซฮอล์มาใช้เป็นการช่วยลดปริมาณเบนซีนและอะโรเมติกส์ ที่จะออกมากับท่อไอเสียให้ลดลงตามสัดส่วนของเอทานอลที่ใช้เป็นส่วนผสม รวมทั้งลดการเกิดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่เป็นมลพิษอีกชนิดหนึ่งด้วย

สำหรับสารกลุ่มคาร์บอนิล ที่ถูกระบุว่ามีการระเหยออกมาในอากาศหากใช้แก๊สโซฮอล์นั้น นายบันเทิง กล่าวว่า ขอยืนยันว่าการใช้น้ำมันเบนซินหรือแก๊สโซฮอล์ ไม่ได้มีส่วนทำให้เกิดการระเหยของสารกลุ่มคาร์บอนิล แต่สารคาร์บอนิลเกิดขึ้นจากขั้นตอนการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ และออกมาจากท่อไอเสียของรถยนต์ ซึ่งหากเป็นรถยนต์ ทั้งรถยนต์เก่า หรือรถยนต์ใหม่ก็จะไม่เกิดการระเหยขึ้น เพราะจะถูกเผาไหม้จนหมด เพราะโรงงานผลิตรถยนต์ทุกยี่ห้อมีเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ปัจจุบัน ที่มีอุปกรณ์ฟอกไอเสีย ที่สามารถกำจัดสารดังกล่าวได้ อยู่แล้ว แต่สาเหตุที่ยังมีสารคาร์บอนิลเกิดขึ้นตามผลการวิจัยอาจจะมาจากสภาพของเครื่องยนต์ที่ผ่านการใช้งานมานาน แต่ไม่ได้รับการดูแลรักษา หรือจูนอัพเครื่องยนต์ ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในคู่มือการใช้รถยนต์แต่ละคัน


อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานกล่าวอีกว่า ธพ.จะประสานไปยังนักวิชาการที่ให้ข้อมูลดังกล่าวว่าใช้ฐานข้อมูลในการตรวจสอบในจุดใดเป็นหลัก เพื่อหามาตรการแก้ไข เช่น หากพบว่าเป็นเพราะเครื่องยนต์ของรถยนต์คันที่ตรวจสอบพบสารคาร์บอนิล ก็ต้องดูว่ารถยนต์คันนั้นมี การตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์อย่างไร ใช้งานมานานกี่ปี หากไม่มีการปรับแต่งเครื่อง หรือหากอุปกรณ์ฟอกไอเสียไม่ทำงาน หรือทำงานไม่เต็มร้อย ไม่ว่าจะใช้น้ำมันเบนซิน หรือแก๊สโซฮอล์ก็ย่อมจะพบสารคาร์บอนิลระเหยออกมาในอากาศเช่นกัน


ด้านนายพานิช พงศ์พิโรดม อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กล่าวว่า พพ. ได้ศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้แก๊สโซฮอล์ ในรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เช่น ตรวจวัดมลพิษจากรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ใช้แก๊สโซฮอล์อี 20 โดยตรวจวัดสารพิษที่สำคัญ เช่น ไฮโดรคาร์บอนทั้งหมด (THC) คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) ไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ปรากฏว่าค่า THC ลดลงร้อยละ 5-25 ค่า CO ลดลงร้อยละ 15-30 สำหรับค่า NOx เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของประเทศบราซิลที่ระบุว่าค่า THC ลดลงร้อยละ 12 ค่า CO ลดลงร้อยละ 32 สำหรับค่า NOx เพิ่มขึ้นเล็กน้อย


“ดังนั้น การจะเฝ้าระวังมิให้สารพิษเพิ่มมากขึ้น ในชั้นบรรยากาศจากการใช้แก๊สโซฮอล์จะต้องควบคุมไม่ให้เกิดการระบายสารพิษจากตัวรถ โดยเฉพาะในรถเก่า ต้องตรวจสอบให้เครื่องยนต์มีสภาพที่สมบูรณ์และให้อุปกรณ์ ลดมลพิษสามารถทำงานได้ตามปกติ” นายพานิชกล่าว


วันเดียวกันนางอรพินท์ ชุมพิศ อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีงานวิจัยของนางเดซี่ หมอกน้อย นักวิจัยจากศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม ที่ได้นำเสนอผลงานวิจัยว่าแก๊สโซฮอล์มีสารก่อมะเร็ง ซึ่งเป็นข่าวที่ครึกโครมในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และอาจสร้างความสับสนต่อประชาชนว่า รายงานวิจัยดังกล่าวถือเป็นผลงานของนางเดซี่เท่านั้น ยังไม่ถือเป็นงานวิจัยที่ออกโดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ซึ่งจากการพูดคุยกับนักวิจัยก็รู้สึกตกใจ และยอมรับว่าเป็น การทำสำรวจเบื้องต้น หากจะให้ได้ผลงานวิจัยที่ชัดเจนกว่านี้ จำเป็นต้องตรวจสอบและวิจัยซ้ำ ก่อนที่จะนำไปเผยแพร่ และเป็นที่ยอมรับได้ ทั้งนี้ ตนยังเตรียมจะหารือกับนายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เพื่อร่วมกันทำวิจัยซ้ำใหม่อีกรอบหนึ่ง โดยจะดึงนักวิจัยของกรมควบคุมมลพิษและกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมมาทำงานวิจัยเรื่องนี้ต่อไป


เมื่อถามว่าการที่กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมไม่การันตีผลงานของนักวิจัย เป็นเพราะเป็นห่วงว่าจะกระทบต่อนโยบายส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล์ของรัฐบาลหรือไม่ นางอรพินท์กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะผลงานแต่ละชิ้นกว่าจะออกมาและสามารถนำไปใช้อ้างอิงเชิงนโยบายได้ ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดก่อน ดังนั้น ในกรณีนี้หากพบว่ายังมีแง่มุมที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่ามีการวิจัยทางวิชาการหรือไม่ ก็สามารถวิจัยซ้ำได้ แต่อาจมีวิธีการใหม่ที่ทุกฝ่ายยอมรับ

 

ที่มา ไทยรัฐ 24 มี.ค. 52

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แก๊สโซฮอล์ปล่อยสารก่อมะเร็ง


ยันแก๊สโซฮอล์ ไม่ได้ก่อมลพิษฯ ทำให้เกิดมะเร็ง ยันแก๊สโซฮอล์ไม่ได้ก่อมลพิษฯทำให้เกิดมะเร็ง

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ทำไมต้องอ้วนเพราะเบียร์ ?

ทำไมต้องอ้วนเพราะเบียร์ ?


เปิดอ่าน 12,422 ครั้ง
ปีชง 2567 มีปีนักษัตรใดบ้าง

ปีชง 2567 มีปีนักษัตรใดบ้าง


เปิดอ่าน 1,228 ครั้ง
วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้

วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้


เปิดอ่าน 10,642 ครั้ง
การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์

การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์


เปิดอ่าน 18,704 ครั้ง
รสชาติแบบไหนดีต่อสุขภาพ

รสชาติแบบไหนดีต่อสุขภาพ


เปิดอ่าน 12,161 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

จริงไหม? ...กินไก่แล้วทำให้ลูกเป็นสาวเร็ว หรือทำให้หน้าอกใหญ่จริงหรือ?

จริงไหม? ...กินไก่แล้วทำให้ลูกเป็นสาวเร็ว หรือทำให้หน้าอกใหญ่จริงหรือ?

เปิดอ่าน 17,064 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
สอนลูกให้เป็น “ดิน” เพื่อจะเป็น “ดาว” / ดร.แพง ชินพงศ์
สอนลูกให้เป็น “ดิน” เพื่อจะเป็น “ดาว” / ดร.แพง ชินพงศ์
เปิดอ่าน 29,344 ☕ คลิกอ่านเลย

เลเซอร์รักแร้ IPL vs YAG เลือกยังไงให้เหมาะกับผิวและได้ผลดีในระยาว
เลเซอร์รักแร้ IPL vs YAG เลือกยังไงให้เหมาะกับผิวและได้ผลดีในระยาว
เปิดอ่าน 2,372 ☕ คลิกอ่านเลย

งานหนักมาก เหนื่อย ทำอย่างไรดี
งานหนักมาก เหนื่อย ทำอย่างไรดี
เปิดอ่าน 10,432 ☕ คลิกอ่านเลย

กินอย่างไรไม่ให้อ้วน
กินอย่างไรไม่ให้อ้วน
เปิดอ่าน 2,219 ☕ คลิกอ่านเลย

พบสัตว์ประหลาดทะเลลึกเฉียด 2 หมื่นสายพันธุ์
พบสัตว์ประหลาดทะเลลึกเฉียด 2 หมื่นสายพันธุ์
เปิดอ่าน 12,149 ☕ คลิกอ่านเลย

พระประจำวันเกิด
พระประจำวันเกิด
เปิดอ่าน 41,724 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

คนจีนบ้าเรียน"ภาษาอังกฤษ" ขณะที่ไทยติดหล่มอยู่รั้งท้าย!
คนจีนบ้าเรียน"ภาษาอังกฤษ" ขณะที่ไทยติดหล่มอยู่รั้งท้าย!
เปิดอ่าน 23,638 ครั้ง

ต้นสาคู
ต้นสาคู
เปิดอ่าน 52,655 ครั้ง

พัฒนาการทางเทคโนโลยีการศึกษา
พัฒนาการทางเทคโนโลยีการศึกษา
เปิดอ่าน 37,322 ครั้ง

เทคนิคการพับกล่องแบบมีฝา จากกระดาษไว้สอนนักเรียนครับ
เทคนิคการพับกล่องแบบมีฝา จากกระดาษไว้สอนนักเรียนครับ
เปิดอ่าน 43,106 ครั้ง

เอกภพสัมพัทธ์ (Relative Universe)
เอกภพสัมพัทธ์ (Relative Universe)
เปิดอ่าน 36,608 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ