Yes Man
เยสแมน คนมันรุ่งเพราะมุ่งเซย์เยส
คนที่ปฏิเสธทุกเรื่องราวที่เข้ามาในชีวิต
คงหาความสุขได้ยาก
คนที่รับทุกเรื่องราวเข้ามาในชีวิต
ต้องมีบ้างแหละที่จะพบกับความทุกข์
ก็เหมือนกับคาร์ล อัลเลน (จิม แคร์รี่) พนักงานธนาคารที่ไม่ได้รับโปรโมทให้ก้าวหน้าสักที เพราะใช้ชีวิตอย่างหดหู่เดียวดายหลังจากล้มเหลวกับชีวิตแต่งงาน
คาร์ลเก็บตัวอยู่แต่ในห้องพัก ดูหนังแผ่นคนเดียวอย่างเหงาๆ และ "ไม่" คือคำพูดติดปากของเขาต่อทุกๆ คำขอร้อง ทุกๆ คำชักชวน
แล้ววันหนึ่งคาร์ลได้พบกับเพื่อนเขาที่แนะนำให้เขาเข้าร่วมโครงการ "YES" ซึ่งคาร์ลตีความว่าเขาจะต้องตอบรับกับทุกคนและทุกอย่าง
เขาเริ่มออกพบปะสังสรรค์กับเพื่อน เขาไปเรียนกีตาร์ ไปหัดขับเครื่องบิน ไปเรียนภาษาเกาหลี ไปตอบรับการหาคู่ทางออนไลน์ ซึ่งทุกๆ เรื่องที่เขาตอบรับ ส่งผลดีกับหน้าที่การงานของเขา ส่งผลดีกับชีวิตความเป็นอยู่ของเขา
แม้กระทั่งเรื่องความรัก การตอบรับของเขาก็ทำให้ได้พบกับอัลลิสัน (ซูอี เดสชาเนล) ซึ่งทำให้วันเวลาของเขามีชีวิตชีวามากขึ้น และถ้าเมื่อไรที่เขาไม่ตอบรับโชคร้ายมักจะมาเยือนเสมอ
แต่...เหมือนกับเหรียญที่มีสองด้าน ดาบที่มีสองคม
การตอบรับทุกเรื่องราว ทุกโอกาส โดยไม่ไตร่ตรอง ก็เหมือนสายพิณที่ตึงหรือหย่อนเกินไป ในที่สุดความทุกข์ก็เข้ามาเยือน เมื่ออัลลิสันเข้าใจว่าคาร์ลสานความสัมพันธ์กับเธอ เพียงเพราะเขาไม่อาจปฏิเสธได้เท่านั้น จากนั้นชีวิตของคาร์ลก็กลับกลายเป็นยุ่งเหยิงขึ้นเรื่อยๆ จนเขาต้องทำความเข้าใจเสียใหม่ ว่าเขาควรจะใช้คำว่า "No" และ "Yes" อย่างไรดี
ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ขำๆ สไตล์จิม แคร์รี่นั่นแหละ ถ้าไม่เอียนกับมุขตลกแบบตีสีหน้า แบบทรมานสังขาร ก็ยังพอจะหาข้อคิดดีๆ ให้กับชีวิตได้
แต่มีสิ่งที่อยากทำที่สุดหลังจากดูภาพยนตร์เรื่องนี้...อยากซื้อตั๋วเครื่องบินเที่ยวที่กำลังจะออก...โดยไม่ต้องวางแผนล่วงหน้าเรื่องปลายทาง เรื่องที่เที่ยว ที่พัก...ที่กิน...(อยากรู้ก็ไปดูเรื่องนี้ซะ อิอิ)
ดูหนังดูละครแล้วย้อนมาดูตัว
ถ้าบอกว่า Change เป็นคำที่ดังที่สุดเมื่อปีที่แล้ว
คำว่า Yes ก็คงเป็นธารเล็กๆ ที่เกิดมาก่อน Change
...เพราะแดนนี่ วอลเลซ เขียน Yes Man เป็นหนังสือขายดีตั้งแต่ปี 2005
...เพราะก่อนที่จะ "Change" บางครั้งต้องยอมรับก่อนว่า "Yes"
'I, Danny Wallace, being of sound mind and body, do hereby write this manifesto for my life.
I swear I will be more open to opportunity.
I swear I will live my life taking every available chance.
I will say Yes to every favour, request, suggestion and invitation.
I Will Swear To Say Yes.
..........หลายครั้งที่เราตอบรับที่จะให้ความช่วยเหลือโดยไม่ลังเล เพียงเพราะว่าเขาเป็นน้อง เป็นเพื่อน เป็นญาติ แม้ในบางครั้งรู้อยู่แก่ใจว่าผู้มาขอความช่วยเหลือเป็นฝ่ายผิดก็ยังช่วยเหลือ ซึ่งในบางความช่วยเหลือจำเป็นที่จะต้องเอาตัวเข้าไปผูกพัน แล้วท้ายที่สุดความสัมพันธ์กับคนเหล่านั้นก็เสียไปเหมือนกับที่คาร์ลและอัลลิสันได้พบแล้วยังอาจจะต้องเสียความสัมพันธ์กับคู่กรณีในเรื่องดังกล่าวอีกด้วย
..........กรณีข้างบนนั้นไม่ใช่เรื่องปฏิเสธไม่เป็น แต่เป็นการตอบรับด้วยความเต็มใจ หรือหลายๆ เรื่อง ก็เป็นการเดินเข้าไปหาปัญหาเหล่านั้นเอง..........
..........แต่ถึงที่สุดแล้ว เมื่อย้อนกลับมาคิด หากเราบอกว่า "ไม่" (หรือหาทางปฏิเสธด้วยถ้อยคำนุ่มนวล) ความสัมพันธ์กับคนเหล่านั้นก็อาจจะสะบั้นไปตั้งแต่วันนั้นเลยก็เป็นได้