"คิดนอกกรอบบ้างไหม"
"คิดนอกกรอบทุกวัน และบอกตัวเองเสมอว่าไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้"
ก็คงเป็นประชาชนคนไทยอีกคนหนึ่ง ที่ค่อนข้างตระหนักถึงวิกฤตปีหน้า เพราะเป็นคนธรรมดา เป็น
มนุษย์เงินเดือนที่ไม่มีทางรู้เช่นกัน ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เราก็ควรมีสติใช้ชีวิตอย่างมีความคิด มีนักธุรกิจคนหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า หลุมศพ มีสำหรับคนตาย ไม่ใช่คนแก่
ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ ก็ต้องสู้อย่างสุดชีวิต คนพิการ ก็ยังมีลมหายใจ ยังมีสมองที่จะใช้คิดเราลองทบทวนดูสิว่า มีอะไรที่เราสามารถทำได้อีกบ้าง มีอะไรที่เรายังไม่ได้ทำ หรือยังทำไม่เต็มความสามารถ
หลักการสำหรับการดำรงค์ชีวิตที่คิดว่าน่าจะมีประโยชน์
1. เคารพตัวเอง นับถือตัวเอง และมองตัวเองว่ามีคุณค่า มีความสามารถเสมอ ถ้าเมื่อไรเรา
ดูถูกตัวเอง นั่นก็คือไม่มีใครจะมาเชื่อมั่นในตัวคุณอีกแล้ว
2. ศึกษาหาความรู้ และพัฒนาความสามารถตัวเองเสมอ คนอยู่ที่สูงก็มีโอกาสตกลงที่ต่ำ
คนอยู่ที่ต่ำก็มีโอกาสขึ้นที่สูง แล้วโอกาสใดเล่าที่จะช่วยให้คุณขึ้นที่สูงได้ ความรู้ความสามารถ
ที่ติดตัวคุณเท่านั้นที่จะช่วยได้ เรียนทุกอย่างที่มีโอกาส เคารพคนที่เก่งกว่า แม้เค้าจะว่า ว่าเราโง่
ระลึกไว้ว่าอยู่กับคนที่เก่งกว่า เพื่อสักวันเราจะได้เก่งได้มากกว่าเค้า ยอมเป็นคนโง่ ก่อนจะเป็นคนฉลาด การเรียนรู้มันไม่ได้อยู่แค่ในมหาลัย หรือในห้องเรียน หรือในหนังสือ อีกหนึ่งการเรียนรู้
ที่มีคุณค่า คือการเรียนรู้จากคน จากการปฏิบัติจริง ถ้าเรามีความรู้ความสามารถที่หลากหลาย
เท่ากับเรามีอาวุธที่เหนือคู่ต่อสู้ สามารถเลือกหยิบอาวุธมาใช้ในวิกฤติต่างๆ กันได้ดีกว่า
3. ศักดิ์ศรี สำคัญกับชีวิต พอๆ กับการวางตัวและถ่อมตน ไม่ว่าคุณจะเป็นคนเก่งแค่ไหน อย่าทะนงตัวว่าตัวแก่กล้ามีความสามารถพอ ที่จะผงาดตัวอยู่ในสังคมนี้ได้แล้ว จึงเย่อหยิ่ง ทะเยอะทะยานไม่ ฟังใครทั้งสิ้น เพราะความเย่อหยิ่ง ไม่รับฟังคนอื่น หรือดูการใช้ชีวิตของคนอื่นบ้าง เท่ากับคุณประกาศตัวเองเป็นศัตรูกับความสำเร็จ จงพูดให้น้อยกว่าฟัง เมื่อเจอใครเป็นครั้งแรก และจงครุนคิดในสิ่งรอบตัว หรือสิ่งที่ได้จากเค้าพูด พูดให้น้อย ฟังให้เยอะ เรียนรู้ให้มาก และเมื่อถึงเวลาที่เรา ต้องพูด สิ่งที่เราพูดจะเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ น่าฟัง เพราะได้รวบรวมเอามาจากการครุ่นคิดได้ดีแล้ว ศักดิ์ศรี มิได้ตัดว่าเราต้องเป็นคนที่เก่งกว่าเค้า และยอมใครไม่ได้เสมอไป
4. อยู่กับสังคมให้มาก มีอัธยาศัยที่ดี และที่สำคัญทำทุกอย่างด้วยความจริงใจ
สังคมแม้อาจจะมีบางที่ ที่จอมปลอม แต่ภายใต้ความจอมปลอมก็ยังมีโอกาสที่ดีรออยู่
ในสังคมมีอะไร มีผู้คน มี Conection ให้เราติดต่อ จากเพื่อน ต่อเพื่อน ต่อไปอีกคนอื่น
ในเมื่อทุกสังคม มีคนที่มีความสามารถ และถนัดกันคนละด้าน การที่เรามีเพื่อนมีคนรู้จัก
ในทุกๆ สาขา ก็ย่อมทำให้เราใช้ชีวิตในการติดต่อ กับบุคคลอื่นๆ สายงานอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น
ท่องจำไว้ว่า ทำทุกอย่างด้วยความจริงใจ ให้ใจคนทุกคนที่เข้ามาในชีวิต ไม่ว่าเค้าจะอยู่
ในอาชีพใด หรือเป็นบุคคลที่ไม่มีอาชีพ เพียงแค่เค้าเป็นคนดี ถึงเราได้ได้ร่วมงานหรือ
ร่วมธุรกิจกัน แต่เราอาจจะได้เพื่อนแท้ เพื่อนที่เป็นผู้ฟังที่ดี ช่วยให้คุณสบายใจ เพื่อนแท้
ที่หายากเหลือเกิน
5. ถ้าคุณเป็นมนุษย์เงินเดือน ก็ขอให้ทำงานให้มากกว่าสิ่งที่คิดว่า ได้เงินเดือนเท่าไรก็ทำเท่านั้น หลายคนหลายบริษัท อาจจะไม่ได้ให้โบนัส หรือขึ้นเงินเดือน เพราะภาวะการขาดทุนของ
บริษัท คุณอย่ามองว่าบริษัทเอาเปรียบ เพราะถ้าเมื่อไหร่คุณเป็นเจ้าของบริษัทคุณก็จะทำอย่าง นั้นเช่นกัน สิ่งที่คุณทำได้ คือทำงานตามปกติแต่ทางที่ดีให้มากกว่าปกติ ทำให้เต็มที่หรือทำให้มากกว่าที่คุณเคยทำมา คิดไว้ว่า คุณไม่ได้ทำให้เพื่อบริษัทอย่างเดียว แต่คุณทำให้ตัวเองทำให้สวนกระแส คุณทำดี ความดีย่อมตกมาถึงตัวคุณ แม้เงินเดือนจะไม่เพิ่ม โบนัสจะไม่ได้ แต่สิ่งที่คุณจะได้กลับมาคือโอกาส โอกาสที่อาจจะมาเยือนคุณในวันข้างหน้า ทำให้มันสวนกระแสในวันที่ใครหลายๆ คนกำลังท้อคุณเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส สร้างความโดดเด่นขึ้นมาให้กับตัวเองเพราะตอนนี้คนทำงานกำลังหมดอะไรตายอยาก ไม่มีใครมาทำงานเต็มร้อย แต่คุณคนที่ต้องใช้ ชีวิตและคิดให้ไม่เหมือนคนอื่นเท่านั้น ที่จะประสบความสำเร็จ
6. สำหรับคนที่ตกงาน อย่าโทษชะตาชีวิต อย่าโทษการเมือง อย่าไปโทษเจ้าของบริษัท อย่าไปโทษชะตาชีวิตหรือดวงใดๆ ทั้งสิ้น คิดเสียว่ามันเป็นเหตุมาจากตัวเอง ถ้าคุณลองคิดดูดีๆว่า คุณเป็นคนที่เก่งมาก จนบริษัทไม่สามารถจะขาดคุณไปได้ เค้าคงไม่จ้างคุณออก แต่ที่เค้าจ้างคุณออกเพราะคุณยังสำคัญกับเค้าไม่พอ แล้วทำอย่างไรล่ะให้เรามีความสำคัญกับบริษัท ถ้าไม่ใช่พัฒนาตนเองให้มีเครื่องต่อรองกับงาน แต่คนส่วนมาก เมื่อโดนเอาออก มักคิดว่าไม่ยุติธรรม คิดว่าตัวเองทำเต็มที่แล้ว โทษคนนั้น โทษคนนี้ว่าเล่นพรรคเล่นพวก เข้าข้างกัน ต่างๆ นาๆ แต่ไม่เคยโทษตัวเอง แต่ก็มีบางคนที่ตกงาน แบบสุดวิสัยจริงๆ ไม่ใช่เพราะตัวเองไม่มีความสามารถ ต้องเห็นใจตัวเองและเห็นใจให้มากทีเดียว คิดในแง่บวก เราไม่ใช่คนเดียวที่ตกงาน เพราะอย่างน้อยคนในแผนกเราก็ตกงานกันหมด อย่างน้อยเราก็ไม่ได้เป็นลูกชัง ในอีกด้านที่คนอื่นเป็นลูกรัก เพราะเราโดนออกเหมือนกัน และหลังจากนี้เราจะทำอะไรล่ะ งานก็หายาก เพราะเศษฐกิจไม่ดี อย่างแรกที่ต้องทำคงหนีไม่พ้น ทำใจ ทำสมาธิ ตั้งสติ และรวบรวมความคิดว่าเราทำอะไรเป็นอีกบ้าง เพราะตอนนี้ใครๆ ก็ดิ้นรนหางานใหม่ทำ คู่แข่งในการสมัครงานก็จะเพิ่มขึ้น แต่อย่างไร คุณก็ต้องไม่ท้อ ลองคิดต่าง ถ้าเราจะไปทำในสิ่งที่ต้องการไม่ได้ ลองปรับมุมมองลงทำงานแบบอื่นดูไหม ไม่เกี่ยงงานดีไหม แต่บางคนก็ติดอีกแล้วภาระล่ะ บางทีงานที่ไม่ต้องการเงินเดือนก็ไม่พอกับภาระทุกๆ เดือน
แต่ปัญหาทุกอย่างมีทางออก เมื่องานเดียวไม่ได้ ก็ทำสองงาน 3 งาน ขยันเพิ่ม หาหนทางเพิ่ม ธุรกิจมีหลากหลายแต่ธุรกิจอะไรบ้างละที่เป็นสิ่งแปลกใหม่ สิ่งของใดบ้างล่ะที่ยังไม่มีคนทำ
ลองเพิ่มให้ทางให้ตัวเองดู ใช้สมองให้มากขึ้น ดิ้นรนให้สุดชีวิต
เพราะหลักการสำคัญที่สุดเหนืออื่นใด ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จมันยังรอเรา
อยู่ที่นั่นเสมอ เพียงแต่เราต้องเพิ่มความอนทน เพิ่มการเรียนรู้ เพิ่มความสามารถตัวเอง
เข้าไปด้วย คิดอะไรให้แตกต่าง อย่าเพิ่งบอกว่าไม่ได้ หรือเป็นไปไม่ได้ ถ้ายังไม่เคยลองทำ
คนที่คิดนอกกรอบเสมอ ย่อมคิดแง่บวก และจะไม่ทำตัวเองให้ติดลบทางความคิดมันสมอง ไม่ได้วัดกันที่ปริญญาเสมอไป แต่บางครั้งความพยายามกำลังใจก็เป็นสิ่งสำคัญทำซะทุกอย่าง และท่องไว้ว่า ทุกธุรกิจไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไร "ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้"
ที่มาoknation.com