Advertisement
❝ ชื่อเรื่อง การพัฒนาบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Office PowerPoint 2007
ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์
ผู้วิจัย นายดุสิต มั่นคง ปีที่วิจัย 2551
ที่ปรึกษา นายสมบัติ คุ้มครอง (ผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ โรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร)
นายพงษ์ศักดิ์ ภูกาบขาว (ศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ สพท.ขก.1)
บทคัดย่อ
การใช้บทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ ในการจัดการเรียนการสอนปัจจุบันนิยมใช้กันมากในสถานศึกษาเพราะเป็นการนำเสนอข้อมูลในลักษณะสื่อหลายมิติ ที่มีประสิทธิภาพสามารถถ่ายทอดสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ ของบทเรียนได้เป็นอย่างดี การวิจัยครั้งนี้ มีจุดมุงหมาย 4 ประการ คือ
1) เพื่อพัฒนาบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ กลุ่ม สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Office PowerPoint 2007 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ ที่พัฒนาขึ้น 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนรู้และหลังเรียนรู้ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Office PowerPoint 2007 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Office PowerPoint 2007 ที่พัฒนาขึ้น
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 39 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน 1 ห้องเรียน คือ ห้อง ม.1/1 ระยะเวลาที่ใช้ในการทดลอง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2551 จำนวน 16 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1)บทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Office PowerPoint 2007 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนที่เรียนรู้จากบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ ที่พัฒนาขึ้นมา ซึ่งมีค่าความยากตั้งแต่ 0.37-0.74 และมีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.24-0.77 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.98 และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ ที่พัฒนาขึ้น สถิติที่ใช้ในการิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ(Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และ t-test (Dependent Samples)
ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้
1. บทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Office powerPoint 2007 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ 85.99/84.79 สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Office PowerPoint 2007 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 เท่ากับ 0.68 ซึ่งหมายความว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นจากก่อนเรียน คิดเป็นร้อยละ 71
3. นักเรียนที่เรียนรู้ด้วยบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Office PowerPoint 2007 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 มีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนรู้เพิ่มขึ้นจากก่อนเรียนรู้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .05 และนักเรียนมีความพึงพอใจที่มีต่อบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Office PowerPoint 2007 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยรวม อยู่ในระดับ พอใจมากที่สุด
โดยสรุป บทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Office PowerPoint 2007 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเป็นประโยชน์สำหรับนักเรียนและครู สามารถนำไปใช้ประกอบการเรียนการสอนให้บรรลุจุดมุ่งหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
❞
วันที่ 23 มี.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,128 ครั้ง เปิดอ่าน 7,129 ครั้ง เปิดอ่าน 7,132 ครั้ง เปิดอ่าน 7,129 ครั้ง เปิดอ่าน 7,127 ครั้ง เปิดอ่าน 7,130 ครั้ง เปิดอ่าน 7,131 ครั้ง เปิดอ่าน 7,132 ครั้ง เปิดอ่าน 7,129 ครั้ง เปิดอ่าน 7,131 ครั้ง เปิดอ่าน 7,128 ครั้ง เปิดอ่าน 7,128 ครั้ง เปิดอ่าน 7,127 ครั้ง เปิดอ่าน 7,128 ครั้ง เปิดอ่าน 7,130 ครั้ง เปิดอ่าน 7,131 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,128 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,132 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,136 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,130 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,131 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,128 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,132 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 13,290 ครั้ง |
เปิดอ่าน 4,287 ครั้ง |
เปิดอ่าน 36,765 ครั้ง |
เปิดอ่าน 13,018 ครั้ง |
เปิดอ่าน 13,812 ครั้ง |
|
|