ประเด็นการศึกษา ในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ
ศึกษาธิการ - สรุปคำกล่าวของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ได้กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เมื่อค่ำวันที่ 15 สิงหาคม 2557 เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
• การจัดทำงบประมาณปี พ.ศ. 2558
“ต้องพร้อมเบิกจ่ายโดยเร็วตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ ฉะนั้นงบที่ผมคิดว่าจะสร้างงานให้ได้มากคือ งบการซ่อมแซม การก่อสร้างสถานที่ราชการ โรงพยาบาล และอุปกรณ์ต่างๆ ให้เร่งรัดทำในปี 2558 ตั้งแต่ต้นปีไป
• เน้นให้มีแนวทางการจ้างงานบัณฑิตจบใหม่
"มีโครงการจ้างงานบัณฑิตจบใหม่ ให้ทั่วถึงหรือช่างวิชาชีพจบใหม่ให้มาก เพื่อลดการว่างงาน ให้มีการฝึกงาน นิสิต นักศึกษา แต่ก่อนก็มีนักศึกษาไปฝึกสอนหนังสือ เพราะฉะนั้นถ้าเราทำได้อย่างนี้จะมีงาน มีเงิน เข้ามาไปเรียนหนังสือต่อได้อะไรก็แล้วแต่ มีการฝึกความชำนาญทักษะเพิ่มเติม Training Skill มีเบี้ยเลี้ยงนิดหน่อย มีเงินเดือน หรือเงินค่าตอบแทนอะไรก็ได้ ที่จะให้กับเด็กเขา"
• สนับสนุนทุนการศึกษา เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษา
"ขอให้กระจายไปถึงคนที่ลำบากจริงๆ คนที่ไม่มีทุนการศึกษา ยากจนอะไรอย่างนี้ ไม่ใช่คนรวยไปเอาทุนมา คนจนไม่ได้ทุน ผมยังไม่เคยไปลดอะไรเลย มีบางคนบอกว่า ผมจะไปลดเงินกู้ยืม ผมเพียงแต่ว่า จะหาทางอย่างไรให้ทั่วถึง ทำอย่างไรจะเป็นไปได้หรือไม่ วันหน้าในอนาคตก็ไม่ต้องกู้ยืม นี้เป็นปัญหา เพราะถ้าเราใช้เงินไปอีกทางมากเกินไป ทางนี้ก็ไม่ได้สาธารณูปโภค สาธารณสุขพื้นฐานก็ไปดูแลเขาไม่ได้อีก ฉะนั้นถ้าทุกคนเอาทุกอย่างพร้อมๆ กัน ไม่มีทางได้ รัฐทำไม่ได้แน่นอน ฉะนั้นต้องมากำหนดให้ชัดเจนขึ้นว่าแต่ละอันเราต้องการอะไร"
• การรับน้อง
"ในเรื่องของการรับน้อง สถาบันการศึกษากลางเดือนสิงหาคม ขอให้อยู่ในกรอบกติกาที่กำหนด ข้อสำคัญคือไม่เป็นอันตราย ไม่โลดโผน หรือเป็นการบีบบังคับรุ่นน้อง ท่านไม่ใช่หลักสูตรทหาร แม้กระทั่งหลักสูตรวันนี้ ทหารผมยังให้ปรับปรุงไปแล้ว ให้ลดระดับลง ท่านต้องให้รุ่นน้องเคารพรักรุ่นพี่ด้วยความศรัทธาในการกระทำที่ดีงาม เป็นตัวอย่างให้เขา อะไรที่ไม่ดี อะไรที่เราเคยถูกกระทำมาสมัยเราเรียน รุ่นพี่เคยทำไว้เราก็ไม่ชอบ ฉะนั้นอะไรที่เราไม่ชอบ อะไรที่ไม่ดีเราก็อย่าทำอีก อย่าไปทำอีก
รุ่นน้องทำให้เขามีความอบอุ่น พี่รักน้องนะ การทำร้ายร่างกาย การทำให้เกิดความเสี่ยงอันตรายต่อการบาดเจ็บสูญเสีย และเขาก็กลัวไปหมด เรียนหนังสือก็เรียนไม่ได้ ไม่เห็นเกิดประโยชน์อะไรเลย ทหารก็ดีอีกอย่างหนึ่งเป็นเรื่องของหลักสูตรทางทหารก็ต้องฝึกให้เข้มแข็งทั้งร่างกาย จิตใจ เรายังคงต้องลดระดับลงให้อยู่ในกรอบไม่เกิดอันตราย ขอท่านอย่าทำเลยคนละแบบกัน
การนำรุ่นน้องดื่มสุราจนเมามาย หรือหัดยาเสพติด โดยเฉพาะบังคับทั้งนักศึกษารุ่นน้องชายหญิง ไม่สมควร ห้ามกระทำโดยเด็ดขาดและถ้าหากมีเรื่องมีราวขึ้นมา ก็ต้องถูกลงโทษ"
• เด็กแว้น เด็กซิ่ง
"ในเรื่องเด็กแว้น รถซิ่ง ผมเคยพูดไปแล้ว เริ่มได้รับรายงานเข้ามาอีกแล้ว มีการแข่งขันกันอีกบนถนนหลายสายสายใหญ่ๆ ในช่วงกลางดึก แม้แต่ถนนกลางเมือง เช่น พระราม 4 คลองเตย ก็ยังมีกลุ่มเด็กแว้น ออกซิ่งอยู่บ่อยครั้ง ชีวิตมีค่า ผมไม่เห็นประโยชน์ที่มาแข่งกัน วิ่งกัน และเป็นบ่อเกิดหลายอย่าง เป็นภาระเจ้าหน้าที่ สนุกแป๊บเดียว เดี๋ยวก็ต้องไปโรงพักหรือไม่ก็ตาย ได้รับบาดเจ็บ
ฉะนั้นผมจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องกำกับดูแล ตรวจตราเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังในบุคคลเหล่านี้"
• ให้ทุกหน่วยงานร่วมพิจารณาวางระบบการศึกษาให้ต่อเนื่องกันทุกระดับ เพื่อให้คนเข้าสู่ระบบการศึกษามากขึ้น จบไปแล้วเกิดการจ้างงานมากขึ้น
"การศึกษา ผมพยายามพูดหลายครั้ง ไม่ใช่ไปละเมิดท่าน ไม่ได้ไปละเมิดกระทรวงศึกษาธิการ หรือทุกคนในบุคลากรทางการศึกษา คุณแม่ผมเป็นครู แต่ครูวันนั้นกับครูวันนี้อาจจะคนละสมัยกัน ผมก็เป็นห่วง อนาคตของชาติอยู่ที่การศึกษา ผมคิดว่าคนทั้งประเทศเข้าใจ แต่ท่านจะทำอย่างไร เราจะดูได้ทั้งระบบอย่างไร ตั้งแต่เล็กจนโตให้ต่อเนื่องกัน ทั้งการศึกษาพื้นฐาน การศึกษาต่อ อาชีพ รายได้
ทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวง ทบวง กรม ต้องช่วยกระทรวงศึกษาธิการด้วยว่า เขาผลิตออกมาแล้วจะทำอย่างไร จะรับเขาไปทำงานอย่างไร มีความร่วมมือระหว่างกัน มีโครงการร่วมกัน และบรรจุเข้าเป็นข้าราชการ หรืออะไรก็แล้วแต่ หางานให้เขาทำ ไม่ใช่ที่เขาเรียนมาเขาจบมาไม่จ้าง ไปจ้างใครก็ไม่รู้มา คนจะได้เข้าสู่ระบบการศึกษามากขึ้น เพราะมีงานทำ แต่ถ้าไปจ้างคนที่ไม่มีงานทำ ไม่ได้เรียนหนังสือ ก็ได้อย่างเสียอย่าง ผมไม่ได้ต้องการให้ไปยกเลิกตรงโน้น ก็ลำบากเหมือนกัน แต่ทำอย่างไรให้เกิดความสมดุลกันระหว่างนี้ คนที่ไม่ได้เรียนหนังสือ คนที่เรียนหนังสือ จะทำอย่างไรให้ทั้งสองฝ่ายได้รับการดูแลจากพวกเรา"
• ฝากพิจารณาทบทวนหนังสือเรียนของนักเรียน ว่ามีเนื้อหาที่ยากและเหมาะสมสำหรับเด็กนักเรียนหรือไม่ พร้อมสร้างแรงจูงใจให้เด็กอยากเรียนหนังสือ
"เรื่องตำราเด็กเหมือนกัน วันนี้มีความทันสมัยผมก็เข้าใจ วันนั้นเห็นตำราเด็ก ป.1 นำมาให้อ่าน ผมว่ายากไป บางอันผมตอบไม่ได้เหมือนกัน เด็ก ป.1 วิชาสังคมอะไรสักอย่าง จะต้องเขียนคำตอบยาวๆ เด็ก ป.1 ผมว่ายังเขียนหนังสือไม่เก่ง ถ้าต้องเขียนคำยาวๆ ผมว่าลำบาก ต้องบูชาพระรัตนตรัยก่อนนอน ผมยังเขียนไม่ได้ ป.1 ผมว่าผมยังไม่รู้เรื่องเลยตอนเด็กๆ ยากไปหรือไม่ ไปทบทวนดู ตำราที่นำมาให้ต้องเขียนลงไป ตอบลงไปในนั้น แล้วลายมือเด็กๆ เขียนยังไม่เป็นตัวอะไรทั้งนั้น นั่นคือตำราที่เขาส่งมาให้ผมดู คือลูกเขาเขียนมา ยังไม่ได้ตัว เขียนหนังสือยังไม่เป็นตัวเลย แต่ตอบคำถามต้องเขียนยาวอย่างนี้ ต้องมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บางทีก็เป็นชื่อในวรรคดีไทย จำได้เด็กๆ กว่าจะได้เรียนเรื่องนี้ ผมก็โตแล้วนะ ยังพอจำได้อยู่บ้าง
ลองไปทบทวนดูแล้วกัน แต่ถ้าทำดีแล้ว ผมก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร ถ้ายากเกินไปเด็กก็จะไม่ต้องการเรียนหนังสือ เพราะกลัว ตอบไม่ได้ สอบไม่ได้ ก็ไม่อยากเรียนหนังสือ นี่คือสิ่งหนึ่ง ท่านต้องสร้างแรงจูงใจให้เด็กอยากเรียนหนังสือ เพราะเข้าใจง่าย จำง่าย ท่องง่าย แล้วค่อยไปเพิ่มระดับความยากขึ้นไปเรื่อยๆ ทีละขั้นๆ ไป คนเราถูกแยกอยู่แล้ว ระดับมันสมองไม่เท่ากัน คนหนึ่งเรียนต่อได้ ไปต่างประเทศได้ เป็นด็อกเตอร์ได้ อีกพวกยังเป็นด็อกเตอร์ไม่ได้ ท่านจะทำอย่างไรให้พื้นฐานคนเท่ากันก่อน แล้วถึงเวลาเขาจะรู้ตัวเขาเองว่าเขาจะไปไหน ใครจะเลิกไม่เรียนต่อ ใครจะไปทำงาน ใครจะไปเรียนหนังสือ ขึ้นอยู่กับฐานะพ่อแม่ด้วย
ฉะนั้นดูให้ครบทั้งระบบ ให้ดูถึงข้างล่าง ผู้บังคับบัญชาลงไปดูถึงข้างล่างถึงตำรา เอกสาร หลักสูตร กำกับดูแล"
• ฝากให้พิจารณาการศึกษาทั้งระบบ ทั้งครู เด็ก ผู้ปกครอง
"ครูทุกคนเสียสละอยู่แล้ว ผมก็เป็นห่วงครู เรื่องหนี้สินครู เรื่องอะไรอีกมาก ให้หมด ก็กำลังช่วยกันปรับแก้ในระยะที่ 2 การปฏิรูป ไม่ลืมครู ครูเป็นข้าราชการเป็นแม่พิมพ์ของชาติ เป็นผู้เสียสละ ลำบากยากเข็ญอย่างไรก็อดทน วันนี้ถ้าท่านปรับวิธีการสอนของท่านให้ง่ายขึ้น เบาลง จะได้ดูแลเด็กได้มากขึ้น มีเวลาไปทำอะไรได้บ้าง เพราะท่านก็มีลูกเหมือนกัน ไม่ใช่สั่งสอนเด็กอย่างเดียว ถึงบ้านท่านก็ไม่ไหวแล้วเหนื่อย หงุดหงิด เดี๋ยวต้องไปสอนพิเศษอีกเพื่อหารายได้มาเลี้ยงลูก มันพันกันไปหมด
ฉะนั้นดูให้ครบระบบ ทั้ง ครู เด็ก ผู้ปกครอง ถ้าสามคนพอใจกันทั้งหมด ประเทศก็จะไปได้ การศึกษาก็ดีขึ้นตามลำดับ ทำอย่างไร ให้คนจนเข้าระบบการศึกษาให้มากขึ้น ไม่ใช่ผลักให้คนออกไปนอกระบบการศึกษา เลิกเรียน เพราะว่าเรียนไม่ไหว ไปดูใหม่
• ให้ช่วยกันแชร์เรื่องดีๆ ใน Social Network เพื่อลดความขัดแย้งกัน
โซเชียลเน็ตเวิร์ค วันนี้ขอความร่วมมือ ช่วยกันแชร์ในเรื่องที่ดีๆ บ้าง ช่วยกันขจัดขยะต่างๆ คำพูด ที่เรียกว่า Hate Speech ซึ่งสร้างความเกลียดชัง หยาบคาย ดูหมิ่นดูถูกกัน หมิ่นสถาบันอะไรต่างๆ ออกไปให้ได้ ถ้าท่านเป็นคนไทยต้องช่วยกันขจัด ไม่อย่างนั้นอันตรายมากในวันข้างหน้า ในเฟซบุ๊ก แอพพลิเคชั่นต่างๆ อันตรายต่อเด็กๆ ด้วย สังคมโดยรวมก็กระทบกระทั่งมาโดยตลอด เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง ส่วนใหญ่จะเชื่อ เขียนเรื่องจริงๆ ก็ไม่เชื่อ เขียนเรื่องไม่จริงนี่แชร์กันใหญ่ ต้องดูด้วยว่าที่เขาแชร์ไปแล้วนี้ผิดหรือถูก ใช่หรือไม่ ตรวจสอบหรือยัง ถ้าไม่ใช่กรุณาอย่าพึ่งแชร์เลย บางทีก็โกรธแค้นเกลียดชังตามเขาไปหมด ปลุกปั่นง่ายเหลือเกินประเทศไทย
วันข้างหน้าจะทำอย่างไร การติดต่อสื่อสารโทรคมนาคม การให้บริการมากขึ้นๆ แล้วเราควบคุมไม่ได้ ประเทศชาติจะเสียหาย ความมั่นคงจะไม่เกิด สังคมก็เสียหายเสื่อมโทรม การท่องเที่ยวก็เสียหายไปหมด เพราะคนจะมาทำไม ประเทศไทยเป็นแบบนี้ ทะเลาะกันแบบนี้ เกลียดกันทั้งประเทศ ไม่ได้
ขอร้องทุกคนที่เกี่ยวข้อง ทุกคนที่ชอบทำ ผมรู้ว่าเด็กสมัยใหม่ชอบเล่นแอพพลิเคชั่น เล่นอะไรต่างๆ ผมก็ไม่เก่ง แต่อ่านแล้วไม่สบายใจมากเลย ต้องช่วยกัน"
ขอบคุณที่มาจาก ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
