ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ความหมายของ"เพลงเพื่อชีวิต"


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,292 ครั้ง
Advertisement

ความหมายของ"เพลงเพื่อชีวิต"

Advertisement

ตำนานเพลงเพื่อชีวิต

 

ตำนานเพลงเพื่อชีวิต เสรีภาพจากบทเพลง

                ในวันที่ท้องฟ้ามัวหมอง แผ่นดินลุกร้อนเป็นไฟ ประชาชนคนไทยแร้นแค้นทุกข์ยาก หนุ่มสาวเดือนตุลาครั้งอดีต รวมพลังแข็งขันด้วยความหวังอันแรงกล้า ดุจดั่งกำแพงหินอันยิ่งใหญ่ ร่วมต่อสู้เพื่อเสรีภาพและประชาธิปไตย คืนอำนาจการปกครองสู่ประชาชน ณ บัดนี้ ผ่านมาแล้วหลายสิบปีที่ชอกช้ำ เก็บเรื่องราวในคืนวันอันขมขื่น ถ่ายทอดไว้เป็นความความทรงจำอันเจ็บปวดผ่านบทเพลงเพื่อชีวิต
               
ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2480 จุดเริ่มต้นของแนวเพลงชีวิตยุคบุกเบิกได้ถือกำเนิดขึ้น รวมทั้งเพลงเสียดสียั่วล้อสังคม นับได้ว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่ศิลปินมีบทบาทสะท้อนความทุกข์ยากของผู้คน รวมถึงการโกงกินของผู้แทนและนักการเมือง ออกมาในบทเพลงของพวกเขา โดยมีสภาพที่เป็นปัจจัยเกื้อหนุนในช่วงระหว่างสงครามและหลังสงคราม
               
ผู้บุกเบิกแนวเพลงชีวิตเป็นคนแรกนี้ นั่นก็คือ อาจารย์ แสงนภา บุญราศรี เป็นผู้ร้องเพลงที่สะท้อนภาพปัญหาของชีวิต และปัญหาของสังคมอยู่ในยุคแรกๆนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวความทุกข์ยากของคนปาดตาลในเพลงที่มีชื่อว่า คนปาดตาลในอดีต คนปาดตาลเป็นอาชีพหนึ่งที่ทุกข์ยาก มีหน้าที่ปีนต้นตาลขึ้นไปปาดเอาน้ำตาลลงมาแล้วมาทำน้ำตาล และอีกหลายๆบทเพลง ที่ไม่สามารถฟังได้ด้วยเทคโนโลยีการบันทึกเสียงใดๆ หรือจะกล่าวอีกนัยนึงได้ว่าเราจะฟังเพลงของอาจารย์แสงนภาได้จากผู้อาวุโสอายุ 60 ปีขึ้นไป บางท่านที่ยังพอจดจำเพลงชีวิตของนักเพลงผู้นี้เท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างมากสำหรับบทเพลงที่มีความหมายและทรงคุณค่าอย่างนี้ ที่ปราศจากการเหลียวแลของคนยุคนั้น
               
ในช่วงทศวรรษ 2490 ความตื่นตัวของวงการเพลงที่มีสถานีวิทยุและธุรกิจแผ่นเสียงเป็นแรงกระตุ้นสำคัญ ที่ทำให้รูปแบบและเนื้อ หาเพลงชีวิต พัฒนาไปในทิศทางที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น มวลชนมีการรับรู้กันอย่างกว้างขวางมากขึ้น จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงทศวรรษ 2500 เป็นช่วงที่เพลงชีวิตซบเซาถึงขีดสุด แต่ได้เกิดเพลงชีวิตอีกแนวหนึ่งโดยนักเขียนนาม จิตร ภูมิศักดิ์ ขึ้นภายในกำแพงคุก ในช่วงที่ถูกจองจำเป็นนักโทษการเมือง และพัฒนาเป็นต้นแบบของเพลงเพื่อชีวิตภายหลังเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 โดยนิสิตนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย
               
ท่ามกลางความมืดมิดในยุคเผด็จการครองเมืองก่อน 14 ตุลา 2516 ณ ห้วงเวลานั้น จิตร ภูมิศักดิ์ เขียนบทความที่เสนอแนวคิดเรื่อง ศิลปะเพื่อชีวิต ศิลปะเพื่อประชาชน ขึ้นมา และเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดแนวเพลงใหม่หลังเหตุการณ์ 14 ตุลา นั่นก็คือเพลงเพื่อชีวิต กล่าวได้ว่าเพลงเพื่อชีวิตคือ เพชรเม็ดงามทางด้านวัฒนธรรม อันเกิดจากเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516

                เมื่อเอ่ยถึง เพลงเพื่อชีวิต เรามักจะนึกถึงเหตุการณ์บ้านเมืองสมัย 14 ตุลาคม 2516 ถึง 6 ตุลาคม 2519 เป็นช่วงที่บทเพลงเพื่อชีวิตทำหน้าที่ของมันจนถึงขีดสุด กระทั่งสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญๆ ทางการเมืองในยุคสมัยนั้น

สู้เข้าไปอย่าได้ถอย
มวลชนคอยเอาใจช่วยอยู่
รวมพลังทำลายเหล่าศัตรู
พวกเราสู้เพื่อความยุติธรรม
เราเดินเคียงบ่าเคียงไหล่
สู้ต่อไปด้วยใจมุ่งมั่น
เขาจะฟาดเขาจะฟัน
เราไม่พรั่นพวกเราสู้ตาย
สู้เข้าไปอย่าได้หนี
เพื่อเสรีภาพอันยิ่งใหญ่
รวมพลังผองเราเหล่าชาวไทย
สู้เข้าไปพวกเราเสรีชน

                บทเพลงข้างต้นเป็นบทเพลงที่มีชื่อว่าสู้ไม่ถอย เป็นบทเพลงแรกของแนวเพลงเพื่อชีวิต แต่งขึ้นจากเหตุการณ์เรียกร้องให้รับนักศึกษา 9 คนในมหาวิทยาลัยรามคำแหง กลับเข้าเรียนหนังสือต่อ เพราะว่ามีคำสั่งของอธิการบดีปลดนักศึกษา 9 คนออกจากมหาวิทยาลัย เนื่องจากนักศึกษา 9 คนนี้ ไปเอาเรื่องราวของรัฐบาล โดยให้คำจำกัดความว่าเป็น รัฐบาลสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย ตีแผ่ลงหนังสือของรามคำแหงในขณะนั้นแล้วตีพิมพ์ออกมา สืบเนื่องมาด้วยว่า อยู่ๆมาวันหนึ่งมีเฮลิคอปเตอร์ตกในทุ่งใหญ่นเรศวร แล้วพบว่าในซากของเครื่องที่ตกนั้น มีซากสัตว์เต็มไปหมดเลย รัฐบาลในขณะนั้นมีการล่าสัตว์ มีการทำร้ายทารุณสัตว์ป่ามากมายเหลือเกิน เป็นเรื่องหน้าเศร้าใจยิ่งนักของคนยุคนั้นจนถึงปัจจุบัน
               
เป็นผลให้สื่อมวลชนและนักศึกษาร่วมมือกันตีแผ่เปิดโปงการกระทำผิดกฎหมายของฝ่ายราชการ และได้รับความสนใจจากประชาชน ทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลได้รับความกระทบ กระเทือนอย่างหนัก นักศึกษาทั้ง 9 คนนี้ ในฐานะคนทำหนังสือก็ตีแผ่ เลยโดนอาจารย์ ดอกเตอร์ ศักดิ์ ซึ่งเป็นอธิการบดีในขณะนั้น ปลดออกจากการเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง นักศึกษาและประชา ชนจำนวนมากเห็นว่าไม่ยุติธรรม จึงรวมตัวกันประท้วงที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ที่มีการชุมนุมประท้วงข้ามวันข้ามคืน ทั้งยังมีการแต่งเพลง สู้ไม่ถอยโดย .เสกสรรค์ ประเสริฐกุล อีกด้วย หลังจากทางมหาวิทยาลัยรามคำแหงรับตัวนักศึกษาทั้ง 9 คนแล้ว ขบวนประท้วงก็เลยแปรขบวนไปเป็นการเรียกร้องรัฐธรรมนูญต่อไป
               
สุรชัย จันทิมาธรหรือที่รู้จักกันในนามหงา คาราวาน ศิลปินเพลงเพื่อชีวิตผู้ยิ่งใหญ่ ก็ถือกำเนิดบทบาทของการเป็นศิลปินเพื่อชีวิตขึ้นมาในเหตุการณ์ครั้งนั้น เป็นผู้หนึ่งที่อยู่ร่วมในการประท้วง และคอยแต่งบทกลอนต่างๆส่งให้โฆษกบนเวทีอ่านให้ประชา ชนฟัง เพื่อปลุกเร้าขวัญกำลังใจและรวบรวมความคิดให้เป็นหนึ่งเดียวกัน และยังได้แต่งเพลงสานแสงทอง มีเนื้อร้องอยู่ว่า

ขอผองเราจงมาร่วมกัน ผูกสัมพันธ์ยิ่งใหญ่
สานแสงทองของความเป็นไทย ด้วยหัวใจบริสุทธิ์

                บทเพลง สู้ไม่ถอย และ สานแสงทองเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน ในส่วนของบทเพลงสู้ไม่ถอยนั้นเป็นเพลงมาร์ชปลุกใจที่ใช้ในการรวมพลังประท้วง ส่วนเพลงสานแสงทองเกิดจากความคำนึงถึงเสรีภาพของประชาชน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สองบทเพลงนี้ก็คือจุดกำเนิดของบทเพลงเพื่อชีวิตนั่นเอง

               
หลังจากนั้นไม่นาน มีนักศึกษาและประชาชนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันโดยเรียกตัวเองว่ากลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญได้มีการแจกใบปลิวและหนังสือเรียกร้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน จนในที่สุด พวกเขาก็ถูกจับกุมตัวในข้อหาว่าเป็นกบฏและมีพฤติกรรมเป็นคอมมิวนิสต์ ทำให้องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆ ร่วมมือผนึกกำลังกันเคลื่อนไหว โดยใช้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นศูนย์กลางการชุมนุม และได้รับความร่วมมือจากประชาชนทุกฝ่ายซึ่งเล็งเห็นว่ารัฐบาลทำเกินกว่าเหตุ ในที่สุด ศูนย์กลางนักศึกษาแห่งประเทศไทย (ศนท.) ได้ยื่นคำขาดให้รัฐบาลปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งหมดภายในเที่ยงวันที่ 13 ตุลาคม 2516 แต่ก็ได้รับคำตอบปฏิเสธจากรัฐบาล ต่อจากนั้นเอง คลื่นนักศึกษาประชาชนนับแสนๆ จึงเคลื่อนตัวออกจากมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ มุ่งตรงไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและลานพระบรมรูปทรงม้า
               
ที่สุดแล้วในวันที่ 14 ตุลาคม 2516 ก็เกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจทหารกับ ประชาชน มีการยิงก๊าซน้ำตาเข้าใส่ผู้ชุมนุมประท้วงจากเจ้าหน้าที่ สถานการณ์เริ่มลุกลามขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นสงครามกลางเมือง ชีวิตเลือดเนื้อของผู้คนจำนวนมากต้องถูกเข่นฆ่า สถานที่ราชการหลายแห่งถูกประชาชนเผาทำลาย เป็นความเสียหายร้ายแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติไทย ด้วยเหตุที่ว่าคนไทยเข่นฆ่าคนไทยด้วยกันเอง
               
ในสมัยนั้น วงดนตรีเพื่อชีวิตวงแรกที่สร้างความประทับใจให้แก่คนรุ่นนั้นเป็นอย่างมาก ก็คือวงดนตรีคาราวานถือได้ว่าเป็นวงดนตรีเพื่อชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอดีต วงดนตรีคาราวานเป็นจุดเริ่มต้นการขยายตัวของดนตรีเพื่อชีวิต ได้มีการสร้างสรรค์ผลงานเพลงมากมาย โดยการเข้าร่วมกับขบวนการนักศึกษา ความโด่งดัง และความสามารถในเชิงดนตรีของพวกเขาส่งผลให้บทเพลงเพื่อชีวิตสามารถเปิดการแสดงร่วมกับวงดนตรีในเชิงธุรกิจได้ ผลงานชุดแรกของวงคาราวานมีชื่อว่าคนกับควาย ซึ่งปัจจุบันนี้หาฟังต้นฉบับจริงๆที่บันทึกเสียงไว้ในยุคนั้นได้ยากมาก มีเนื้อหาสาระสะท้อนความทุกข์ยากของชาวนา และชุดที่สองในชื่ออเมริกันอันตรายเป็นบทเพลงที่ต่อต้านจักรวรรดินิยมอเมริกา
               
เพลงเพื่อชีวิตได้รับความนิยมสูงสุดในแวดวงนิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ในปี ..2517-2519 วงดนตรีเพื่อชีวิตหลายวงเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ มีเพลงเพื่อชีวิตมากกว่า

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1756 วันที่ 21 มี.ค. 2552


ความหมายของ"เพลงเพื่อชีวิต"ความหมายของเพลงเพื่อชีวิต

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

 Matsuri - KITARO

Matsuri - KITARO


เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง
ยินยอม ต้องผูกพัน

ยินยอม ต้องผูกพัน


เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง
รับสมัครคนที่มีจิตอาสา

รับสมัครคนที่มีจิตอาสา


เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง
ศิลปะแห่งการเอาชนะใจคน

ศิลปะแห่งการเอาชนะใจคน


เปิดอ่าน 7,135 ครั้ง
*3 สิ่งในชีวิตเรา*

*3 สิ่งในชีวิตเรา*


เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง
ใจ 5 ประการ.....ที่ควรเลี่ยง

ใจ 5 ประการ.....ที่ควรเลี่ยง


เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง
..คลิป..บทเพลงแห่งความดี..

..คลิป..บทเพลงแห่งความดี..


เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

วิธีจัดคน.....ให้ถูกกับงาน‏

วิธีจัดคน.....ให้ถูกกับงาน‏

เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
สาวญี่ปุ่น..มีวิธีลดความอ้วนอย่างไร?
สาวญี่ปุ่น..มีวิธีลดความอ้วนอย่างไร?
เปิดอ่าน 7,145 ☕ คลิกอ่านเลย

เผยแพร่ผลงานวิชาการ
เผยแพร่ผลงานวิชาการ
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย

:: อย่าพูดอะไรออกมาโพล่งๆ (ควรให้เวลาทำใจบ้าง )
:: อย่าพูดอะไรออกมาโพล่งๆ (ควรให้เวลาทำใจบ้าง )
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย

รู้หรือยัง....6 กฎใหม่เพื่อสุขภาพ
รู้หรือยัง....6 กฎใหม่เพื่อสุขภาพ
เปิดอ่าน 7,147 ☕ คลิกอ่านเลย

...ที่มาบทเพลง ครูบ้านป่า...สลา คุณวุฒิ.....
...ที่มาบทเพลง ครูบ้านป่า...สลา คุณวุฒิ.....
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย

ฝรั่งหัวใจพอเพียง วิธีคิดไม่ธรรมดา
ฝรั่งหัวใจพอเพียง วิธีคิดไม่ธรรมดา
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

น้ำผึ้ง ชะลอริ้วรอย
น้ำผึ้ง ชะลอริ้วรอย
เปิดอ่าน 15,190 ครั้ง

เทคนิคดูแลเด็กให้สนุกกับการเรียน
เทคนิคดูแลเด็กให้สนุกกับการเรียน
เปิดอ่าน 8,830 ครั้ง

ความเสียหายจากมหาวิทยาลัยไทยปิดเปิดเทอมตามอาเซียน
ความเสียหายจากมหาวิทยาลัยไทยปิดเปิดเทอมตามอาเซียน
เปิดอ่าน 12,626 ครั้ง

คณิตศาสตร์ไขปริศนาฟองเบียร์แฟบ
คณิตศาสตร์ไขปริศนาฟองเบียร์แฟบ
เปิดอ่าน 24,745 ครั้ง

ดาวน์โหลด แบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการคิดเลขเร็ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6
ดาวน์โหลด แบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการคิดเลขเร็ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6
เปิดอ่าน 405,972 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ