เหตุผลที่คนหันมาใช้ภาษา"วิบัติ"
เดี๋ยวนี้ ภาษวิบัติชักจะครองโลกอินเทอร์เน็ต หลายคนหันมาใช้ภาษาวิบัติกัน ซึ่งภาษาวิบัตินี้จะนิยมมากในหมู่คนใช้อินเทอร์เน็ต คนใช้ส่วนมากจะเป็นพวกวัยรุ่นหรืออาจจะเป็นพวกเด็กๆ(ที่มีคอมพิวเตอร์) อาจจะ กล่าวได้ว่า ภาษาวิบัตินี้ต้นกำเนิดมาจาก อินเทอร์เน็ตก็ได้
ถ้าไปถามหลายๆคนเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลายคนอาจจะให้เหตุผลที่ต่างๆกันไป ดังที่จะรวบรวมไว้ในนี้..........
๑.เพราะว่าคำพวกนี้พิมพ์ได้ง่าย เข้าใจนะว่า คำภาษาไทยหลายๆคำอาจจะพิมพ์ยุ่งยากมากเรื่อง ดังเช่น คำว่า เดี๋ยว ก็เปลี่ยนเป็น เด๋ว และคำว่า ก็ ก็เปลี่ยนเป็น ก้อ เหตุผลเหรอ มันพิมพ์ง่ายไงล่ะ แต่คุณอาจจะไม่รู้หรอกนะว่า คุณกำลังทำลายภาษาไทย โดยไม่รู้ตัว
๒.เคยมีวัยรุ่นคนหนึ่ง เคยให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับภาษาวิบัติว่า ที่หันมาใช้ก็เพราะมันดูแนวๆดี ทันสมัย ถูกใจวัยรุ่น ก็เลยถามว่ามันแนวตรงไหน คำตอบที่ได้มาคือ "ก็มันดูเหมือนว่าเด็กไทยมีความคิดสร้างสรรค์ สามารถคิดค้นคำใหม่ๆได้ขึ้นมาใช้ โดยไม่ต้องเขียนของเก่าให้มันเปลืองหมึก หรือ พิมพ์ให้มันเมื่อย" ก็ฟังแล้วคิดว่า มันก็สะดวกสบายแต่ว่า ความสะดวกสบายของคุณกำลัง เป็นความกลุ้มใจของ พ่อขุนรามคำแหง อยู่ เพราะว่า พ่อขุนรามคำแหง ท่านอุตส่าห์คิดค้นภาษาไทยขึ้นมา แต่รุ่นหลังมาทำลาย อย่างที่เค้ากล่าวน่ะแหล่ะว่า "ผู้ใหญ่สร้าง วัยรุ่นทำลาย"
๓.เพื่อแสดงอารมณ์ ว่าตอนนี้กำลัง ผิดหวังหรือเบื่อหน่าย อย่างที่วัยรุ่นเค้าเรียกกันว่า"เซ็ง"น่ะแหล่ะ เพราะบางทีถ้าผิดหวังก็อาจจะลากเสียงคำว่า "ไม่" เป็น "ม่าย..ย..." ถ้าอารมณ์ดีก็อาจจะสั้นหน่อยเป็น "มั่ย" พี่ปัดไปเจอบทความของน้อง Kwanrapee_The_Artist ในบอร์ดนักเขียนเห็นว่าเป็นเรื่องที่สำคัญและดีต่อน้องๆชาวเด็กดีมากๆก็เลยอยากที่จะเอามาให้อ่านกันจ๊ะ ซึ่งจริงๆเรื่องนี้เป็นเรื่องน้องๆชาวเด็กดีให้ความร่วมมือกันอยู่แล้วจ๊ะ
๔."ก็มันขำๆดีนี่" เหตุผลนี้ฉันก็ไม่รู้หรอกนะไอ้ที่ว่า"ขำๆ"น่ะหมายความว่าอะไร แหม...พวกคุณนี่ ถ้าจะอารมณ์ดีเหลือเกิน คิดคำที่เป็นภาษาวิบัติมาใช้กันเนี่ย ป่านนี้พ่อขุนรามคำแหงคงนั่งขำไม่ออกแล้วล่ะ
๕."ไม่เห็นเป็นไรเลย มันก็อ่านเหมือนๆกันแหละ"ฉันอยากจะบอกพวกคุณว่ามันอ่านเหมือนกันก็จริงนะ แต่คอมพิวเตอร์มันต้องใช้ตาอ่านไม่ใช่หูฟังนะ ถ้าเกิดมีเด็กมาอ่านและนำไปใช้เนี่ย นำไปเขียนเนี่ย ถ้าเป็นยังงี้จริงๆนะ ภาษาไทยจะเพี้ยนไปหมดแน่ๆ เชื่อพี่เถอะ
๖."ก็มันเผลอนี่นา"หลายคนอาจพูดยังงี้ อยากถามว่า ถ้าคุณไม่คิดค้นมันมาและใช้มัน คุณจะเผลอได้เหรอ?
๗."ก็คำมันดูน่ารักนี่คะ"อยากรู้ว่ามันน่ารักตรงไหนคะเนี่ย?ตายๆๆ...ถ้าคนมองเป็นภาษาที่น่ารักหมดเนี่ย สงสัยว่าคงต้องร้องเพลง"ไปน่ารักไกลๆหน่อย"ซะแล้ว
๘."ก็เวลาเล่นMSNมันพิมพ์เร็วทันใจนี่คะ"รู้แล้วค่ะมันเร็วแต่ว่า...ถ้ามันไม่ใช่ภาษาวิบัติมันก็ไม่เสียเวลาเป็นชั่วโมงหรอกค่ะ แค่เสียเวลาเล็กๆน้อยๆเพื่ออณุรักษ์แค่นี้ถึงกับทำไม่ได้เลยเหรอคะ?
๙."ก็มันเพิ่งหัดพิมพ์ยังพิมพ์ไม่คล่องนี่"อันนี้ไม่ว่านะคะ แต่ถ้าคล่องแล้ว ควรจะพิมพ์คำให้ถูกนะ บางคนไม่คล่อง ก็ไม่คล่องตลอดกาล ใช้ไม่ได้
๑๐.พิมพ์ให้มันดูสั้นลงเพราะเปลืองเนื้อที่ อยากถามอีกว่าคุณซื้อเนื้อที่ในการพิมพ์หรือไงถึงต้องประหยัดเนื้อที่?
๑๑."ทันสมัยดีนี่...คนที่เขาใช้คำเป็นคงไม่วิปริตมาใช้หรอก บางทีพวกคนที่ใช้คำเป็นคงเล่นแชทไม่เป็นหรอก"อันนี้มาจากความคิดเห็นชาวYenta4เลยค่ะ ข้อนี้ลองคิดเองนะคะ เพราะมันไม่มีอะไรจะพูดแล้ว
๑๒."มันดูสบายๆไม่เป็นทางการดีนี่"อยากถามว่ามันสบายตรงไหนคะ อ๋อ...รู้แล้วๆ...มันสื่ออารมณ์สบายๆเหรอคะ...พวกคุณคงคิดนะว่าภาษาทางการนี้คงเครียดมากเลยใช่ไหม?ถามตัวเองดูนะคะ
๑๓."ก็พอใจนี่/ก็จะพิมพ์ยังงี้พวกเธอมีสิทธิ์ห้ามเหรอ"ค่ะ...ไม่มีสิทธิ์ห้ามใดๆหรอกสิ่งพวกนี้มันอยู่ที่ตัวคุณค่ะ กิริยาส่อภาษา วาจาส่อนิสัย
เฮ้อ...พอๆเลยค่ะ ฟังๆแล้วเครียด วัยรุ่นไทยใช้ภาษาวิบัติไม่คิดถึงบรรพบุรุษเค้าสร้างมาเหรอคะ บรรพบุรุษคงนั่งเสียใจไปเรียบร้อย คุณไม่อายเด็ก12ปีเหรอคะ ที่พวกเขามาตั้งกระทู้อณุรักษ์กันอยู่ฉอดๆๆ...แล้วคุณอายุเท่าไรกันล่ะ...ไม่มีอะไรจะพูดค่ะ แต่ก็เข้าใจนะคะว่าพวกคุณคงไม่ใช้ในชีวิตประจำวันหรอกนะ ขอแค่ให้แยกให้ถูกค่ะ แค่นี้ก็พอแล้ว แต่ทางที่ดีใช้ภาษาที่ถูกต้องกันดีกว่านะ
ให้อ่านความคิดเห็นที่ของชาว Yenta4 ที่แสงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาษาวิบัติที่รวบรวมมาให้อ่านกันนะคะ
** มานผิดตรงไหนรึป่าวที่เขียนแบบนี้อ่ะ **
** ที่เขียนแบบนี้แล้วคนเราจะมีคุณธรรมมากขึ้นป่ะ **
** เขียนแบบนี้ทามหั้ยน้อยมานแพงขึ้นเก่วม่ะหละ **
** ม่ายเหงเก่วเลยเอาเวลาไปคิดอย่างอื่นดีกว่าป่ะหละ**
** คิดว่าทามงัยหั้ยทุกคนมีคุณธรรมมากขึ้นดีกว่าป่ะ **
** คิดว่าทามงัยหั้ยม่ายมีคนโกงดิงชาติบ้านเมืองดีกว่าป่ะ **
** ถ้าคนที่เขียนงี้ปัญญาอ่อนเค้าก้อคง Ent กานม่ายติดหรอก **
++++++++++++++
มันแค่ภาษาแชท ทำเปงโด่.....
แยกออกด้วยไม่ใช่ ปัญญาอ่อน
+++++++++++++++
แค่คุยกานหนุกๆ จาซีเรียสทามมายล่ะคร้า หนูเขียนแบบนี้แล้วจาทำให้ภาคใต้สงบสุขไหม? หนูเขียนแบบนี้จาทำให้น้ำมันลดราคาหรือเปล่า? เฮ้อๆๆเซ็งๆพวกผู้ใหญ่ไม่เข้าใจเด็ก เอาเวลามาว่าเด็ก... ไปทามมาหากินดีม้ายคร้า (จาบอกห้ายเรื่องอย่างนี้มานห้ามกานได้ที่หนาย)ก้อมานแค่ความสุขบนตัวหนังสือ คิดอารายมากอ่ะคร้า
++++++++++++++++++++++++++
โอ๊ย!!!คิดไรมากจ๊ะ เราแค่ใช้เวลาเล่นเอ็มเท่านั้นหล่ะ แล้วก้อเวลาแสดงความคิดเห็นก้อเท่านั้น ส่วนคำว่า "ภาษาวิบัติ"อะพอรับได้ เพราะมันก้อผิดเพี้ยนไปจากเดิม แต่คำว่า "ภาษาปัญญาอ่อนน่ะ" เกินไปอ๊ะป่าว บางคน(เช่นเรา)ก้อใช้แบบพอเหมาะนะ จะแย่ถึงกะเรียกว่า"ภาษาปัญญา"อ่อนเชียวเหรอ ถ้ายกตัวอย่างเช่นคำข้างบนอ่ะนะ "เหนด้วยมั่กๆ เรยคร่า พาสาวิบัดพวกเน้ เหนทีรายก้องุงิ อ่านม่ะรุเรื่อง ม่ายรุชั้ยกานปัยดั้ยงัย" คำนี้อ่ะที่เรียกว่า"ภาษาปัญญาอ่อน" เพราะมันวิบัติทุกคำพูด แต่บางคนที่เค้าใช้น้อยๆก้อมีนะ(เช่นเราอีกน้ะแหละ) ไอ้ใช้น้อยๆอย่างงี้เค้าเรียกว่า"ภาษาปัญญาอ่อน"ได้ด้วยหรือไงจ๊ะ อยากจะทราบจากผู้ที่อ่านความคิดเห็นนี้เลยนะ ถ้าแบบใช้น้อยๆก้อพอรับได้อะนะกับคำว่า "ภาษาวิบัติ" แต่คำว่า "ภาษาปัญญาอ่อน"อ่ะ คนที่เค้าใช้น้อยๆรับไม่ได้จิงๆ บางคนเค้าก้อขี้เกียจกด Shift มันก้อเลยเพี้ยน (และอย่างเช่นเรา) ทีหลังหัดคิดไรให้มันกว้างๆมั่งนะ
++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++
เรื่องแค่นี้ก็มาพูดกัน คิกมากป่าย ด้าย พวกเราก็ใช้ กานแบบเล่นๆ มะคิกมากอาราย นี่นา ถ้าแค่ใช้ภาษาพวกนี้ แล้วมะมีคนคุยด้วย
มานก็คงเกินปายมั้ง
++++++++++++++++++++++++
ดีมาก ที่มีการพูดกันเรื่องนี้ ไม่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องเล็ก
คนรุ่นใหม่ไม่แค่ใช้ภาษาวิบัติ แต่ยังพูดจากันหยาบคาย เห็นแล้วสลด กลายเป็นว่าเอาคำที่ใช้ด่ากันมาเป็นคำพูด
หากเป็นอย่างนี้ต่อไป การพัฒนาทางด้านจิตใจ คงเสื่อมลง ในอนาคตกาลคงเละแน่ะๆ รอดูกันต่อไป
ใจคอเมื่อ100ปีก่อนเคยใช้ยังไงจะให้ใช้แบบนั้นไปตลอดเลยรึไง ครับ อะไรๆมันก็ต้องเปลี่ยนไปมั้งสิ ทำไมต้องเรียกว่า วิบัติ ด้วยล่ะครับ อะไร ที่เปลี่ยนแบบนี้เรียกว่าวิบัติกันเลยเหรอครับ งั้น อะไรที่ออกมาใหม่ๆไม่เหมือนเก่าก็วิบัติหมดบ้าน หมดเมืองกันเลย สินะ......
ที่มา : Kwanrapee_The_Artist < My.iD >
เอารายงานเก่ามาให้อ่านกัน เห็นมีประเด็นเรื่องภาษาวิบัติน่าสนใจ
ประเด็นคล้ายๆ นี่คือคำตอบอย่างหนึ่งเท่าที่ศึกษาค้นคว้าว่า ทำไมวัยรุ่นจึงใช้ภาษาวิบัติ
ทำเป็นบทคัดย่อมาสั้นๆ (สั้นเรอะ) ลองอ่านกันดู
รายงานเรื่องการเปลี่ยนแปลงการใช้ภาษาในเว็บบอร์ด ส่งในรายวิชาลักษณะภาษาไทยค่ะ
การเปลี่ยนแปลงการใช้ภาษาในเว็บบอร์ด
บทนำ
เว็บบอร์ด หรือ กระดานสนทนาในอินเตอร์เน็ต คือหน้าเว็บเพจที่ผู้ใช้สามารถเขียนหรือตอบกระทู้เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข่าวสารต่าง ๆ กับผู้ใช้คนอื่น ๆ ได้ เว็บบอร์ดในแต่ละเว็บไซต์ต่างก็มีการใช้ภาษาที่แตกต่างกันออกไปตามเนื้อหาและกลุ่มสังคมของเว็บบอร์ดนั้น ๆ การใช้คำในเว็บบอร์ดในบางครั้งอาจมีการผิดเพี้ยนไปจากภาษาไทยเดิม เนื่องด้วยสาเหตุต่าง ๆกัน เช่น ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการพิมพ์ จึงตัดพยัญชนะบางตัวออก หรือไม่ใช้ปุ่ม Shift เช่น รำคาญ พิมพ์เป็น รำคาน เพราะการพิมพ์ตัว ญ ทำให้การพิมพ์ยุ่งยากขึ้น รายงานฉบับนี้จึงต้องการศึกษาความเปลี่ยนแปลงในการใช้คำดังกล่าว
ลักษณะการใช้ภาษาของเว็บบอร์ดตัวอย่าง
ดังที่กล่าวมาแล้วว่า เว็บบอร์ดของแต่ละเว็บไซต์มีการใช้ภาษาที่แตกต่างกันออกไปตามเนื้อหาของเว็บไซต์และกลุ่มสังคมในเว็บบอร์ด จึงต้องมีการศึกษาการใช้ภาษา เพื่อโยงไปถึงการวิเคราะห์การใช้คำ
ลักษณะการใช้ภาษาของเว็บบอร์ดในเว็บไซต์ www.pramool.com
เว็บไซต์ประมูลเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายออนไลน์ต่าง ๆการซื้อขายของออนไลน์ และมีการเปิดเว็บบอร์ดไว้บริการจำนวนหลายสิบห้อง เช่น หาเพื่อน การ์ตูน นิยาย ฯลฯ ซึ่งผู้ใช้เว็บบอร์ดของเว็บไซต์ประมูลมักเป็นเด็กวัยรุ่นชายระดับชั้นมัธยมศึกษา ที่มีการใช้ถ้อยคำรุนแรงและหยาบคาย มีการด่าทอกันเป็นปกติแม้ว่าไม่มีเรื่องขุ่นข้องหมองใจกันเลยก็ตาม ลักษณะการใช้ภาษาไม่ถูกอักขรวิธี และบางครั้งก็ไม่สามารถเข้าใจได้ในสิ่งที่ต้องการจะสื่อ นอกจากนี้เว็บบอร์ดประมูลยังมีระบบเซ็นเซอร์คำหยาบ ผู้ใช้เว็บบอร์ดจึงต้องเลี่ยงการใช้คำหยาบที่สะกดถูกต้อง และหันมาใช้ตัวสะกดที่ไม่เหมือนกันแต่สามารถอนุมานว่าให้ความหมายเดียวกัน เช่น กู เป็น กุ หรือ สัตว์ เป็น หรือตรัส เป็นต้น
ลักษณะการใช้ภาษาของเว็บบอร์ดในเว็บไซต์ พันธุ์ทิพย์ www.pantip.com
เว็บไซต์พันธุ์ทิพย์เป็นเว็บไซต์ที่เปิดเป็นเว็บบอร์ดโดยเฉพาะ มีการพูดคุยเรื่องต่าง ๆจัดออกเป็นห้อง ๆ เป็นระเบียบ เช่น เฉลิมไทย เฉลิมกรุง โต๊ะเครื่องแป้ง และมีห้องแยกย่อยเป็นชั้น ๆออกไปอีก ผู้ใช้เว็บบอร์ดมักเป็นผู้ใหญ่ วัยรุ่นตอนปลาย นิสิต นักศึกษา คนที่ทำงานแล้ว ดังนั้นการใช้ภาษาจึงมีความถูกต้องตามอักขรวิธี และมีการตักเตือนกันเองในเว็บบอร์ดให้สะกดคำถูกต้องด้วย
ลักษณะการใช้ภาษาของเว็บบอร์ดในเว็บไซต์เด็กดี www.dek-d.com
เว็บไซต์เด็กดีดอทคอมเป็นเว็บไวต์ที่มีข้อมูลต่าง ๆ เช่นการเรียนพิเศษ สาระความรู้สำหรับวัยรุ่น และมีการเปิดเว็บบอร์ดจำนวน 4 หมวด ได้แก่ มีสาระ ตามใจฉัน มีรูปเด็ด และนักเขียน ผุ้ใช้เว็บบอร์ดในเว็บไซต์เด็กดีนี้มักเป็นวัยรุ่นที่มีความหลากหลาย หากเป็น 3 ห้องแรกที่กล่าวมาแล้วมักใช้ภาษาสะกดไม่ถูกต้องตามอักขรวิธี ส่วนเว็บบอร์ดนักเขียนนั้นใช้ภาษาสะกดถูกต้องและมีการรณรงค์ให้ใช้ภาษาไทยถูกต้องอยู่เนือง ๆ
การเปลี่ยนแปลงการใช้คำในเว็บบอร์ด
1.ด้านความหมาย พบว่ามีการใช้คำเดิมที่มีความหมายกว้างขึ้นได้แก่
เกรียน คำว่าเกรียน ตามความหมายของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พุทธศักราช 2542 เป็นคำวิเศษณ์หมายถึง "สั้นเกือบติดหนังหัว ผิวหนัง หรือพื้นที่" และเป็นคำนาม หมายถึง "แป้งซึ่งนวดด้วยน้ำร้อนแล้วเป็นเม็ดปนอยู่" แต่คำว่าเกรียนในเว็บบอร์ดหมายถึง ใครก็ตามที่มีพฤติกรรมเขียนกระทู้ก่อกวนผู้ใช้เว็บบอร์ดคนอื่นๆ โดยมากมักใช้กับผู้ชาย มีที่มาจากเด็กผู้ชายระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่ตัดผมทรงนักเรียนซึ่งมีลักษณะสั้นเกรียนติดหนังหัว มีพฤติกรรมก้าวร้าว ทำเสียงดังเอะอะรบกวนผู้อื่นตามร้านอินเตอร์เน็ตสาธารณะ การใช้คำว่าเกรียนจึงมีความหมายกว้างขึ้น ทำหน้าที่เป็นคำกริยา
ชั้นเทพ คำว่าเทพ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พุทธศักราช 2542 ได้ให้ความหมายไว้ว่า เทวดา เป็นคำนาม แต่ในเว็บบอร์ดนั้นคำว่าเทพ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึงเก่งมากหรือสุดยอดมาก นับว่ามีความหมายกว้างขึ้นอีกเช่นเดียวกัน
2.ด้านการสร้างคำขึ้นมาใหม่ พบว่ามีจำนวน 2 คำ ได้แก่ ดักควาย และ สุดยิด
ดักควาย เป็นคำประสม ทำหน้าที่เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึงกระทู้ที่มีหัวข้อหวือหวาน่าสนใจเพื่อที่จะหลอกให้กดเข้าไปอ่านเนื้อหากระทู้ที่ไม่มีอะไรเลย ดังนั้นใครที่เข้าไปอ่านกระทู้จะถูกเยาะเย้ยว่าเป็นควายที่ถูกกระทู้ดักเข้า ตัวอย่างเช่น กระทู้ที่ตั้งชื่อหัวข้อว่า "ภาพหลุดดาราสาว" ซึ่งผู้อ่านหัวข้อกระทู้อาจเข้าใจว่าเป็นภาพโป๊ที่บังเอิญหลุดออกมาซึ่งเป็นความหมายนัยประหวัด แต่เมื่อกดเข้าไปอ่านเนื้อหากระทู้แล้วกลับเป็นภาพติดผนังของดาราสาวกำลังจะหลุดออกมา ซึ่งเล่นความหมายนัยตรง เป็นต้น
สุดยิด สุดยิดเป็นการผสมคำระหว่างสุดยอด กับสุดฮิต โดยการนำพยัญชนะต้นของคำแรก และสระ พยัญชนะท้าย และวรรณยุกต์ของคำที่สองมารวมกัน มีความหมายว่า สุดยอดมาก
3.ด้านการสะกดคำ การเปลี่ยนแปลงด้านการสะกดคำนั้นพบมากที่สุด คือ 45 คำ บางคำได้มีการเปลี่ยนแปลงมากกว่า 1 อย่าง ดังจะกล่าวต่อไป
เปลี่ยนแปลงรูปพยัญชนะต้น ได้แก่ เกียจ(เกลียด) ฟาย (ควาย) กัว (กลัว) แร้ว (แล้ว) งัฟ (ครับ)
เปลี่ยนแปลงรูปสระ ได้แก่ เป็น เปง (เป็น) เสด (เสร็จ) เด๋ว (เดี๋ยว) เมิง () แสด (สัตว์) ร๊าก (รัก) มั่ก (มาก) ทาม (ทำ) มาน (มัน) น้าม (น้ำ) จา (จะ) เหง (เห็น)
เปลี่ยนแปลงรูปพยัญชนะท้าย ได้แก่ รำคาน (รำคาญ) เหง (เห็น) เขิล (เขิน) นิส (นิด) ขอบคุน (ขอบคุณ) งัฟ (ครับ)
เปลี่ยนแปลงรูปวรรณยุกต์ ได้แก่ ไอ () จา (จะ)
ตัดพยางค์หน้าออก ได้แก่ ทู้ (กระทู้) รัย (อะไร)
เปลี่ยนแปลงรูปคำโดยยึดเอาเสียงที่อ่านเหมือนกันมาสะกด ได้แก่ ก้อ (ก็) จัย (ใจ) จิง (จริง) โกด (โกรธ) ครัย (ใคร) ทัมมัย (ทำไม) นู๋ (หนู) หั้ย (ให้) โคด (โคตร)
แผลงให้เกิดคำแปลกๆ ได้แก่ ไร้ซาร่า (ไร้สาระ) รูปปลากรอบ (รูปประกอบ) มะรุ (ไม่รู้)
เพิ่มพยัญชนะเข้าไปใหม่ เช่น สุดตรีน (สุดตีน) กรู (กู) จร้า (จ้า) คร่ะ (ค่ะ) กร๊าก (ก๊าก) เรยส์ (เลย)
สาเหตุการเปลี่ยนแปลงการใช้คำในเว็บบอร์ด
จากการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงการใช้คำในเว็บบอร์ด พบว่ามีสาเหตุดังนี้
-เพื่อหลีกเลี่ยงระบบเซ็นเซอร์คำหยาบในเว็บบอร์ด โดยเฉพาะเว็บบอร์ดของเว็บไซต์ประมูล ผู้ใช้เว็บบอร์ดต้องการสื่อความหมายแต่ใช้คำตรงๆไม่ได้เพราะจะถูกเซ็นเซอร์ จึงเลี่ยงโดยการเปลี่ยนรูปคำแทนโดยยังคงสื่อความหมายได้ เช่น กู เป็น กรู เป็น เมิง สัตว์ เป็น สาด หรือ แสด หรือ ตรัส
-เพื่อให้สื่อสารได้อารมณ์มากขึ้นและต้องการความแปลกใหม่ ได้แก่การต้องการให้ตลกขบขัน หรือดูน่ารัก มีการเปลี่ยนรูปคำโดยการเปลี่ยนหรือเพิ่มพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์เข้าไป อาจเปลี่ยนรูปคำแต่อ่านได้เหมือนเดิม เช่น รัก เป็น ร๊าก ให้ เป็น หั้ย ค่ะ เป็น คร่ะ หนู เป็น นู๋ รูปประกอบ เป็นรูปปลากรอบ สุดตีนเป็นสุดตรีน เป็นต้น
-เพื่อให้มีความสะดวกรวดเร็วในการพิมพ์โต้ตอบ อินเตอร์เน็ตเป็นสื่อที่สามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วและโต้ตอบได้ มีโปรแกรมสนทนาในอินเตอร์เน็ตหรือ MSN ซึ่งต้องอาศัยความเร็วในการพิมพ์ สำหรับเว็บบอร์ดแล้วอาจไม่ใช่การโต้ตอบกันโดยทันที แต่ผู้ใช้เว็บบอร์ดอาจอาศัยความเคยชินจากการเล่น MSN ด้วย คือตัดพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ออก เช่น เดี๋ยว เป็น เด๋ว เป็น เป็น เปง หรือคำที่พิมพ์ยากๆต้องกดปุ่ม Shift ก็มักจะหาพยัญชนะอื่นที่มีเสียงเหมือนกันมาแทนเพื่อให้สื่อความหมายได้เหมือนเดิม เช่น รำคาญ เป็น รำคาน ขอบคุณ เป็น ขอบคุน
คิดเห็นอย่างไรมาถกกันค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างจ๊ะ พี่ปัดคิดว่าบทความนี้เป็นบทความที่ดีและต้องขอขอบคุณน้อง Kwanrapee_The_Artist ที่นำเรื่องดีๆแบบนี้มาให้เพื่อนชาวเด็กดีคนอื่นได้อ่าน น้องๆชาวเด็กดีก็อย่าลืมรณรงค์การใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง