"กระเทียม" พืชสมุนไพรที่ถูกนำมาใช้เป็นทั้งอาหารและยากันมานานนับเป็นพันปี แน่นอนว่าเมื่อแต่ละคนเกิดมา ก็จะได้รู้ว่า กระเทียมถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบอาหารกันแล้ว
ในปัจจุบันนี้ กระเทียมถูกนำมาใช้ในการป้องกันโรคหลายอย่างด้วยกัน ช่วยลดระดับไขมัน คอเลสเตอรอล ลดความดันโลหิตสูง และส่งเสริมให้ระบบภุมิคุ้มกันให้ดีขึ้น
กระเทียมมีสารที่ต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ซึ่งอนุมูลอิสระ (free radicals) อาจมีบทบาทสำคัญต่อการทำให้คน "แก่" เร็วขึ้น ตลอดรวมไปถึงการทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้มากมาย รวมถึงโรคหัวใจ และมะเร็ง และเจ้ากระเทียมนี้ก็สามารถทำลายอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวที่สามารถทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ (cell membranes) และ DNA ได้ดี
โรคต่าง ๆ ที่กระเทียมสามารถป้องกันได้
1. โรคหัวใจ (Heart disease)
มีหลักฐานบางอย่างสนับสนุนว่า กระเทียมอาจป้องกันไมเกิดโรคหัวใจได้ โดยอาจลดการเกิดเส้นเลือดแข็ง (artherosclerosis) และสามารถลดระดับความดันลงได้เล็กน้อย (ระหว่าง 7% ถึง 8%)
การศึกษาชิ้นหนึ่งเป็นเวลานานถึง 4 ปี ใช้กระเทียม 900 มิลลิกรัมทุกวัน ปรากฏว่า มันสามารถลดการเกิดเส้นเลือดแข็งลงได้
นอกจากนั้น กระเทียมยังเป็นสารต้านการจับตัวเป็นก้อนของเลือด ด้วยการทำให้เกล็ดเลือดบางลง ซึ่งอาจป้องกันไม่เกิดภาวะหัวใจขาดเลือด (heart attack) หรือ สมองขาดเลือด (stroke)
ส่วนผลที่มีต่อไขมันคอเลสเตอรอลนั้น จากการศีกษาในตอนแรกพบว่า มันสามารถลดระดับของคอเลสเตอรอลในกระแสเลือดได้ แต่ผลจากการศึกษาระยะเร็ว ๆ นี้ ปรากฏว่า กระเทียมไม่ผลต่อการลดระดับไขมันดังกล่าวเลย
2. โรคหวัด (Common cold)
จากผลการศึกษาในระยะแรก พบว่า กระเทียมสามารถช่วยป้องกันโรคหวัด (common cold) ได้ โดยมีการศึกษาเปรียบเทียบการใช้กระเทียม ในระยะที่มีโรคหวัดระบาด (common cold) ผลปรากฏว่า คนที่รับประทานกระเทียมจะเป็นโรคหวัดได้น้อยกว่าคนที่ไม่รับประทานกระเทียมเลย นอกจากนั้น ในระหว่างเป็นหวัด กระทียมสามารถทำให้อาการของหวัดหายเร็วด้วย
3. โรคมะเร็ง (Cancer)
กระเทียมอาจเสริมให้ระบบภูมิต้านทานให้แข็งแรงขึ้น สามารถช่วยร่างกายให้ต่อสู้กับโรคมะเร็งได้ โดยผลจากห้องทดลองดูเหมือนว่า กระเทียมมีฤทธิ์ในการต่อต้านมะเร็ง
ผลจากการศึกษาในกลุ่มชนเป็นระยะเวลานาน พบว่า กลุ่มคนที่รับประทานกระเทียมสด หรือกระเทียมที่ปรุงในอาหาร ทำให้มีแนวโน้มที่จะไม่เกิดเป็นมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งของลำไส้ใหญ่ (colon) และมะเร็งกระเพาะ (CA stomach)
ผลจากการศึกษา (จำนวน 7 ชิ้น) พบว่า คนที่กินกระเทียมสด หรือกระเทียมปรุงแล้ว สามารถลดการเกิดมะเร็งในลำไส้ใหญ่และทวารหนักได้ถึง 30%
สิ่งที่ต้องระวังสำหรับกระเทียม
แม้ว่ากระเทียมจะเป็นพืชที่มีสรรพคุณอยู่มากมาย แต่กระเทียมผลอันไม่พึงประสงค์ของกระเทียมอยู่มากเหมือนกัน เช่น ทำให้ปวดท้อง ท้องอืดเฟ้อ มีกลิ่นปาก ออกแสบร้อนที่มือ (เมื่อสัมผัสถูก)
นอกเหนือไปจากนั้น กระเทียมยังทำให้เกิดมีอาการวิงเวียน ปวดศีรษะ เหนื่อยหล้า ปวดเมื่อกล้ามเนื้อ และอาจแพ้กระเทียม ทำให้เกิดมีลักษณะหืดหอบ และเป็นผื่นคัน
นอกจากนี้กระเทียมสามารถทำให้ฤทธิ์ของยาบางอย่างเปลี่ยนไปได้ ยกตัวอย่าง
- Isoniazid เป็นยาที่ใช้ในการรักษาวัณโรค กระเทียมสามารถลดการดูดซึมยาตัวนี้ได้ เป็นเหตุให้ใช้ยาดังกล่าวมีปริมาณไม่พอต่อการรักษาโรค
- ยาคุมกำเนิด กระเทียมอาจลดประสิทธิภาพของยาลงได้
- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด กระเทียมอาจทำให้ฤทธิของยาต้านการจับตัวเป็นก้อนเลือดได้ ทำให้เกิดมีเลือดออกได้
- Medications for HIV/AIDs กระเทียมสามารถลดระดับของสาร Protease inhibitors ซึ่งเป็นยาที่ใช้ในการรักษาโรค HIV
- Non-steroidal anti-inflammatory drugs (NSAIDs) ทั้ง NSAIDs และกระเทียมสามารถทำให้เกิดมีเลือดออก (bleeding)
ปัจจุบันในบ้านเรายังไม่มีการรับรองว่ากระเทียมนั้นจะสามารถรักษาโรคได้จริง คงเป็นได้เพียงแต่สมุนไพรทางเลือกในการรักษาและสมุนไพรเสริมสุขภาพเท่านั้น และแม้ว่ากระเทียมจะเป็นพืชที่มีสรรพคุณอยู่มากมาย แต่คุณก็ไม่ควรที่จะเลือกใช้กระเทียมเพื่อหวังผลในการรักษาอาการหรือโรคใดโรคหนึ่ง อีกทั้งผลลัพธ์ที่ได้ในแต่ละบุคคลก็อาจจะแตกต่างกันออกไป
ดังนั้นคุณควรเลือกรับประทานให้หลากหลายและครบ 5 หมู่ จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะพืชผักสมุนไพรทั่ว ๆ ไป ถ้าศึกษากันจริง ๆ แล้ว มันก็มีประโยชน์ไม่น้อยไปกว่ากันเลย
ขอบคุณที่มาจาก e-magazine