ผลการประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ. เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2557 - ดร.สุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก ครั้งที่ 21/2557 เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2557 ในประเด็นต่างๆ ดังนี้
● การดำเนินการตามข้อสั่งการของ หน.คสช. เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2557
- การเบิกจ่ายงบประมาณ ปลัด ศธ.กล่าวว่า ที่ประุชุมรับทราบข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (หน.คสช.) เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2557 ที่ให้ส่วนราชการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 โดยให้เบิกจ่ายหรือให้ก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณนี้ ส่วนการดำเนินการโครงการลงทุนที่มีวงเงินเกิน 1,000 ล้านบาท ที่ คสช.เห็นชอบให้ดำเนินการต่อไปได้ ให้ส่วนราชการเจ้าของโครงการเร่งรัดดำเนินการเพื่อขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันงบประมาณข้ามปี เพื่อให้สามารถดำเนินงานหรือทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันภายในวันที่ 30 กันยายน 2557 สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2558 ให้ทุกหน่วยงานเตรียมการให้พร้อมเพื่อให้เบิกจ่ายได้ตั้งแต่เริ่มปีงบประมาณ
- การเร่งรัดติดตามผลการดำเนินการเรื่องต่างๆ โดยให้ทุกฝ่ายเร่งติดตามส่วนราชการในกำกับ ให้ดำเนินการเรื่องต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายให้แล้วเสร็จและเกิดผลเป็นรูปธรรม โดยกำหนดกรอบระยะเวลาดำเนินการให้ชัดเจน ทั้งระยะเร่งด่วน ระยะสั้น และระยะยาว ให้สอดคล้องกับ Roadmap ของ คสช.
- ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ให้ส่วนราชการที่มีภารกิจในการเจรจาหรือการจัดทำความตกลงระหว่างประเทศ ได้ดำเนินการจัดทำแผนงานการเจรจาหรือจัดทำความตกลงความร่วมมือ MOU กับต่างประเทศล่วงหน้าเป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อเสนอ คสช.ทราบ
- กฎหมาย ขอให้ส่วนราชการเร่งเสนอร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน หรือที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดินและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะกฎหมายที่จำเป็นต้องดำเนินการในระยะเร่งด่วน โดยเสนอให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และฝ่ายที่กำกับดูแลพิจารณากลั่นกรองก่อน แล้วเสนอต่อ คสช. ภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2557 ซึ่งในส่วนของ ศธ.มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่จะต้องแก้ไขกว่า 10 พ.ร.บ. เช่น พ.ร.บ.วิทยาลัยชุมชน, พ.ร.บ.ของสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ, พ.ร.บ.สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพเยาวชน (สสค.), พ.ร.บ.สถาบันเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา, พ.ร.บ.กองทุนอาหารกลางวัน, พ.ร.บ. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาฯ เป็นต้น
● การติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานของ ศธ.รายสัปดาห์
- การดำเนินการตามข้อสั่งการของ หน.คสช.ในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2557 ซึ่งในส่วนของ ศธ.ได้เน้นให้มีการปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ โดยเฉพาะในประเด็นสำคัญๆ คือ
◦ ให้เน้นการสอนในห้องเรียนเป็นหลักมากกว่าการสอนพิเศษ เพื่อลดค่าใช้จ่ายของเด็กและผู้ปกครองลงในการเรียนพิเศษ ทำให้เด็กเป็นภาระในการเรียน 2 ช่วงเวลา ซึ่งทำให้เกิดปัญหาในระบบการศึกษาไทยเป็นอย่างยิ่ง จึงมอบหมายให้ ศธ.ดำเนินการปรับแก้ทั้งระบบ
◦ การสร้างความผูกพันกันระหว่างครู ผู้ปกครอง และนักเรียน ซึ่งจะต้องมีความหวังดี ให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ปรับตัวเข้าหากัน เปิดโลกทัศน์ตัวเองให้มากขึ้น หาเวลาติดตามข่าวสารทั้งในและต่างประเทศ
◦ การนำแบบอย่างที่ดีจากต่างประเทศมาใช้ ซึ่งถือว่าเป็นการลดเวลาของเรา สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับบ้านเมืองได้
◦ มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีในเรื่องการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมและอินเทอร์เน็ต ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ริเริ่มไว้แล้ว เพื่อกระจายไปยังสถานศึกษาให้มีคุณภาพมากขึ้นในพื้นที่ชนบท พื้นที่ห่างไกล
◦ ให้มีการปรับปรุงครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ได้มาตรฐานเท่าเทียมกัน ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบให้คณะทำงานฝ่ายเลขานุการ Roadmap ปฏิรูปการศึกษา นำข้อสั่งการดังกล่าวไปใส่ไว้ในร่าง Roadmap ปฏิรูปการศึกษาด้วย รวมทั้งมอบ สพฐ.และ สช. ดูแลในเรื่องการกวดวิชาหรือการเรียนเสริม เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกันทั้งระบบ รวมทั้งมอบสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ (สนย.) สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งประเด็นและศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ต่อไป
นอกจากนี้ ให้สำนักงานรัฐมนตรี แจ้งองค์กรหลักและหน่วยงานต่างๆ พิจารณาร่าง Roadmap การปฏิรูปการศึกษา ว่าจะมีประเด็นใดเพิ่มเติมหรือไม่อย่างไรให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ เพื่อนำไปเข้าที่ประชุมใหญ่ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ต่อไป
● กิจกรรมการเสริมสร้างการปรองดองและสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป
ตามที่ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) ได้กำหนดจัดงาน “มหกรรมคืนความสุขสู่ประชาชน” ระหว่างวันที่ 22-25 กรกฎาคม 2557 ที่บริเวณท้องสนามหลวง และได้ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมจัดโครงการ/กิจกรรมด้วย ดังนั้น ศธ.จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการมหกรรมคืนความสุขสู่ประชาชนในส่วนของ ศธ. โดยมีรองปลัด ศธ. (นายศุภกร วงศ์ปราชญ์) เป็นประธาน และมีผู้แทนจากทุกภาคส่วนเป็นคณะกรรมการ พร้อมทั้งเตรียมการจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ สช.-ฝึกตัดผม ฝึกอาชีพ สอศ.-จัดกิจกรรม Fix It Center รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ ของ กศน. และ สกอ.ด้วย
ทั้งนี้ ศธ.จะร่วมประชุมกับ ศปป. เพื่อรายงานการจัดกิจกรรมในส่วนของ ศธ. ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2557
● การเตรียมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ “เทิดไท้พระผู้ทรงเป็นแม่และครูแห่งแผ่นดิน”
ศธ.ได้เตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันคล้ายพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ภายใต้ชื่องาน “เทิดไท้พระผู้ทรงเป็นแม่และครูแห่งแผ่นดิน” ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อปี พ.ศ.2555 เรื่อง การถวายพระราชสมัญญาฯ “พระผู้ทรงเป็นแม่และครูแห่งแผ่นดิน” โดยขอให้ทุกองค์กรหลัก สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา และ สกสค. ตั้งคณะทำงานและร่วมจัดกิจกรรมในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยส่วนกลางจัดขึ้นที่บริเวณโดยรอบ ศธ. และส่วนภูมิภาคได้มอบให้ทุกหน่วยงานจัดประชุมเพื่อกำหนดกิจกรรมในแต่ละภูมิภาค เช่น เขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา อาจจะจัดกิจกรรมลูกเสือยุวกาชาด งานสัปดาห์เทิดพระเกียรติ จิตอาสา การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ การฝึกอาชีพ และการบริการประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการตัดผม บริจาคโลหิต การบำเพ็ญประโยชน์ เป็นต้น
● เว็บไซต์ปฏิรูปการศึกษาเพื่อปฏิรูปประเทศไทย
ภายหลัง ศธ.ได้เปิดช่องทางรับฟังความคิดเห็นจากเด็กและเยาวชน พ่อแม่ ผู้ปกครอง และประชาชน ได้แก่ เว็บไซต์ปฏิรูปการศึกษา : www.edreform.moe.go.th เฟซบุ๊ก : ThailandEdReform และอีเมล : edreform@moe.go.th ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2557 เป็นต้นมา โดยในส่วนของเฟซบุ๊กปฏิรูปการศึกษาเพื่อปฏิรูปประเทศไทยในช่วง 3 วันแรก (ถึงช่วงค่ำของวันที่ 6 กรกฎาคม) มีผู้สนใจเข้ามาโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นจำนวน 7,931 คน ในส่วนของคำถามเกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษาใน 6 ประเด็น พบว่าส่วนใหญ่เข้ามากดไลค์ บางส่วนได้แชร์ต่อและแสดงความคิดเห็น เช่น "คุณภาพการศึกษาจะมา เมื่อครูมีคุณภาพ ถ้าขาดแคลนครู ยังไงก็หาคุณภาพยาก, รัฐสนับสนุนให้เรียนฟรีตลอดชีวิต, เยี่ยมครับเห็นด้วยจริงๆ" โดยส่วนใหญ่เป็นเสียงสะท้อนของกลุ่มเด็กและเยาวชน ครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง ถือเป็นการตอบรับที่ดี และแสดงให้เห็นว่าประชาชนให้ความสนใจกับการปฏิรูปการศึกษา โดยขอให้มีการติดตามความเคลื่อนไหวของช่องทางต่างๆ ทุกวัน และรวบรวมประเด็นข้อคิดเห็นเสนอให้คณะทำงานฝ่ายเลขานุการการปฏิรูปการศึกษา เพื่อสรุปประเด็นต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมขอให้ทุกหน่วยงานและองค์กรหลักดำเนินการตามแผนงานโครงการต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้ หากมีประเด็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ หรือเรื่องใดที่เป็นปัญหาคาราคาซังมานาน จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขให้เกิดความคล่องตัวหรือมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ประเด็นครูช่างของอาชีวศึกษา ที่มีปัญหาไม่สามารถนำครูวิชาชีพที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาสอนได้ ฯลฯ ขอให้เร่งเสนอเข้ามาได้ทันที เพื่อรวบรวมนำเสนอ คสช. พิจารณาต่อไป
ที่มา ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ