|
.....ช่วงสงกรานต์นี้คุณครูหลายท่านคงได้มีโอกาสไปพักผ่อน..คลายร้อนหรือถีอโอกาสเยี่ยมญาติไปด้วยก็คงมีนะคะหลายภาคหลายสถานที่ท่องเที่ยวในไทยล้วนน่าเที่ยวทั้งนั้น...วันนี้ขอนำเสนอเกี่ยวกับสงกรานต์ของทางบ้านเรา
ภาคเหนือ...มาเล่าสู่กันฟังนะคะ...ทางเหนือจะถือว่าวันสงกรานต์เป็นวันปี๋ใหม่เมือง...อย่างไร...ลองอ่านเกันดูนะคะ
| วันสงกรานต์ของคนเมือง (เหนือ) |
ชาวเมืองเหนือเรียกวันตรุษสงกรานต์ว่า “วันปี๋ใหม่” นับเริ่มตั้งแต่พระอาทิตย์เริ่มเข้าสู่ราศีเมษ ในเดือนเมษายน ชาวเหนือเรียกว่า “วันสังขารล่อง” คือวันสิ้นสุดศักราชเก่า คำว่าสังขารล่อง หมายถึง อายุสังขารของเราได้ล่วงเลยไปอีกปีหนึ่ง ปี๋ใหม่เมืองของเชียงใหม่ มีวันสำคัญ 3 วัน ตรงกับวันที่ 13 – 14 – 15 เมษายนของทุกปี
1. วันสังขารล่อง ตรงกับวันที่ 13 เมษายน ตอนเช้าตรู่ชาวบ้านจะจุดประทัด ยิงปืนเพื่อไล่สิ่งชั่วร้าย ให้ล่องไปกับสังขาร หลังจากนั้นจะทำความสะอาด ปัดกวาดบ้านเรือน ลานบ้าน ถนนในหมู่บ้าน วัด มีการชำระล้างร่างกาย สิ่งของเครื่องใช้ วันนี้มีการเยี่ยมเยือนกัน เรียกว่า “แอ่วปี๋ใหม่” มีการเล่นรดน้ำกันตามหมู่บ้านหรือตามถนนที่มีผู้คนผ่านไปมา
ในตัวเมืองเชียงใหม่ มีการแห่พระพุทธสิหิงค์ และพระพุทธรูปสำคัญของเมืองไปตามถนนต่างๆ
เพื่อให้ประชาชนได้สรงน้ำพระ
2. วันเนา ทางเหนือเรียกว่า วันเน่า ตรงกับวันที่ 14 เมษายน ซึ่งถือว่าเป็นวันไม่ดี จะไม่ทำการมงคลใดๆ ไม่ด่าทอ หรือทะเลาะวิวาทกัน เป็นวันแต่งดาเครื่องไทยทานที่จะนำไปถวายพระในวันรุ่งขึ้น แต่ละบ้านมีการทำอาหารคาว หวาน ขนมต่างๆ เช่น ขนมปาด ขนมจอก ข้าวต้มมัด ในตอนบ่าย มีการขนทรายเข้าวัด หนุ่มสาวหรือผู้มีกำลังจะพากันขนทรายเข้าวัด นำมาก่อเป็นเจดีย์ทราย ขณะเดียวกันแต่ละบ้านเตรียมตุงทำด้วยกระดาษสีต่างๆ ตัดเป็นรูปเหลี่ยมผูกกับกิ่งไม้ เพื่อประดับเจดีย์ทรายในวันรุ่งขึ้น การขนทรายเข้าวัด คนโบราณกล่าวว่า “เราเดินเข้าไปในวัดเม็ดทรายจะติดเท้าออกมาโดยไม่รู้ตัว ถ้าไม่ขนทรายเข้าไปแทนตายไปจะเกิดเป็นเปรต” การขนทรายจึงมีจุดมุ่งหมายแอบแฝง ได้แก่ การทำให้บริเวณวัดสวยงาม ช่วยกำจัดหญ้า วัดมีความสะอาด ทรายเป็นวัตถุดิบในการก่อสร้างวัด ขณะที่ขนทรายเกิดความสนุกสนานและสามัคคีกัน
3. วันพญาวัน ตรงกับวันที่ 15 เมษายน เป็นวันเถลิงศก ชาวเหนือถือเป็นวันสำคัญยิ่งกว่าวันอื่นๆ จึงให้ชื่อว่า วันพญาวัน วันพระยาของวัน เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ ตอนเช้าชาวบ้านจะจัดอาหาร ขนมสำหรับไปถวายที่วัด มีการตาน(ทาน)ขันข้าวเพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่บรรพบุรุษ ญาติมิตรที่ล่วงลับไปแล้ว
มีการนำช่อตุงปักเจดีย์ทราย และไม้ค้ำต้นโพธิ์ ดอกไม้ธูปเทียนไว้ที่ต้นโพธิ์ ถือตามคตินิยมว่า “ เป็นการค้ำจุนพระพุทธศาสนาให้อยู่นานตลอดไป” หลังจากนั้นเป็นการสรงน้ำพระพุทธรูปประธานด้วย
เสร็จจากพิธีกรรมที่วัด ชาวบ้านจะนำสำรับอาหาร สิ่งของเครื่องใช้ น้ำส้มป่อย ฯลฯ ไปดำหัวญาติผู้ใหญ่ และผู้ที่เคารพนับถือ รับพรปีใหม่
นอกจากนี้ยังถือวันที่ 16 เมษายนเป็น “วันปากปี๋” เริ่มต้นปี๋ใหม่ มีกิจกรรมต่างๆ เช่นการดำหัวผู้ใหญ่ ทำพิธีขึ้นท้าวทั้งสี่ มีการทำอาหารเช่นแกงขนุน เชื่อถือกันว่า จะช่วยหนุนหรือค้ำจุนให้อยู่อย่างมีความสุขตลอดปีใหม่ |
ขอบคุณที่มาข้อมูลwww.pantown.com
วันที่ 19 มี.ค. 2552
ชุดไทยจิตรลดา โทนสีดำ ตัดเย็บจากผ้าไหมแพรทิพย์ งานละเอียดปราณีต แพทเทิร์นเข้ารูป สวยหรู ทันสมัย #ภาพถ่ายจากสินค้าจริง
฿1,790https://s.shopee.co.th/8ANnSpUT4P?share_channel_code=6
Advertisement
 เปิดอ่าน 8,119 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,119 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,116 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,128 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,134 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,127 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,114 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,124 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,126 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,127 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,113 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,134 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,134 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,127 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,119 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,133 ครั้ง
|

เปิดอ่าน 8,122 ☕ คลิกอ่านเลย |

เปิดอ่าน 8,136 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 8,128 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 8,133 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 8,177 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 8,128 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 8,154 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ 
เปิดอ่าน 23,658 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 27,909 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 16,640 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 21,747 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 15,351 ครั้ง |
|
|