ปลูกผักหวานป่าในพื้นที่ราบ - เกษตรทั่วไทย
ผักหวานป่าเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ต้นที่โตเต็มที่อาจสูงถึง 13 เมตร ส่วนที่พบโดยทั่วไปที่นำมาปลูกจะอยู่ที่ขนาดเล็ก หรือเป็นไม้พุ่ม เนื่องจากมีการหักกิ่งเด็ดยอดเพื่อกระตุ้นให้เกิดกิ่ง
ผักหวานป่าเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ต้นที่โตเต็มที่อาจสูงถึง 13 เมตร ส่วนที่พบโดยทั่วไปที่นำมาปลูกจะอยู่ที่ขนาดเล็ก หรือเป็นไม้พุ่ม เนื่องจากมีการหักกิ่งเด็ดยอดเพื่อกระตุ้นให้เกิดกิ่งและยอดอ่อนซึ่งเป็นส่วนที่ใช้บริโภค
ยอดและใบอ่อนนิยมนำมาปรุงอาหารทั้งต้ม ผัด แกง เมื่อก่อนปลูกค่อนข้างยาก เพราะเป็นพืชแบบอิงอาศัย อยู่ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ จึงเก็บยอดมาจากป่าธรรมชาติเป็นหลักและมักจะแตกยอดดีหลังจากถูกไฟป่าเผาพื้นที่ป่า จึงมีการลักลอบเผาป่าเพื่อรอเก็บยอดผักหวานป่ากันบ่อยครั้งจนทำให้พื้นที่ป่าเสียหายวงกว้างในหลายพื้นที่
ต่อมาจึงมีการเพาะขยายพันธุ์แล้วนำมาปลูกในพื้นที่ของเกษตรกรแต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ขณะที่ตลาดยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง และมักจะมีการลักลอบขุดต้นตอจากป่ามาปลูก แต่มาในวันนี้สิ่งนี้กำลังได้รับการแก้ไขและดูจะประสบความสำเร็จเพราะมีหลายพื้นที่สามารถเพาะเมล็ดและปลูกในพื้นที่ราบได้ ดังที่ตำบลหนองโรง อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี พื้นที่การเกษตรของนายฉาย เปรมปรีดิ์ ที่นำผักหวานป่ามาปลูกในพื้นที่แบบไร่นา และประสบความสำเร็จเจริญเติบโตดีแตกกิ่งออกยอดมีทรงพุ่มสมบูรณ์
“เดิมไม่เคยคิดเอาผักหวานป่ามาปลูกในพื้นที่ เพราะเป็นที่ราบไม่มีต้นไม้ใหญ่ มาวันหนึ่งได้นำเมล็ดผักหวานป่ามาวางไว้ที่โคนต้นแคบนกองมูลวัวไม่นานผักหวานป่าก็งอกและเจริญเติบโตเป็นต้นใหญ่เมื่อเด็ดยอดก็ยิ่งแตกกิ่งจึงทดลองนำต้นอ่อนไปปลูกใต้ต้นแคโดยใช้มูลวัวเป็นดินปลูก ปรากฏว่าประสบความสำเร็จทุกต้นงอกงามจึงตัดสินใจจัดทำแปลงปลูกอย่างเป็นกิจจะลักษณะ” นายฉายเล่าให้ฟัง
การเตรียมพื้นที่ปลูกผักหวานป่าของเกษตรกรรายนี้ได้ใช้ต้นแค มะขามเทศ เป็นไม้เบิกนำและให้ร่มเงา แซมด้วยต้นตะขบ ระหว่างรอผักหวานป่าโตก็นำพริกและกะเพรามาปลูกแซม โดยผักหวานป่านั้นจะเน้นปลูกใต้โคนต้นแค ช่วงยังเป็นต้นอ่อนใช้สแลนสีดำมุงพรางแสง ให้น้ำสม่ำเสมอ ระหว่างผักหวานป่ายังไม่โตก็เก็บพริก กะเพราและดอกแคขาย เพียง 1 ปีก็พบกับความสำเร็จ ผักหวานป่าเจริญเติบโตให้ทรงพุ่มสามารถเก็บยอดได้ทุกวัน
“รากผักหวานป่าลงในดินได้ดีเพราะมีรากต้นแคและมะขามเทศเบิกนำและให้ร่มเงา มีรากตะขบซึ่งมีปุ่มเพื่อสะสมอาหารเป็นอาหารของต้นผักหวาน มีพริกและกะเพราที่ให้กลิ่นรบกวนแมลง เช่น แมลงค่อมและอีกหลายชนิดที่ชอบกินยอดอ่อนผักหวานป่าไม่ชอบจึงไม่เข้ามารบกวน ที่สำคัญการให้น้ำต้องดี” นายฉาย กล่าว
สำหรับน้ำในแปลงปลูกแห่งนี้เดิมมีปัญหาเพราะพื้นที่เป็นที่ราบสูงระบบชลประทานไม่สามารถส่งน้ำถึงแปลงปลูกได้แต่ปัจจุบันปัญหานี้ได้หมดไปเพราะหลังจากที่สำนักงาน กปร. ได้พิจารณา เรื่อง ร้อยตำรวจตรี พัฒนา สัมมาทิตฐิ ราษฎรในจังหวัดกาญจนบุรี ขอพระราชทานความช่วยเหลือให้ทางราชการพัฒนาแหล่งน้ำและขุดคลองชลประทานต่อเชื่อมจากคลองชลประทานเดิมที่รับน้ำจากเขื่อนวชิราลงกรณ เพื่อส่งน้ำให้ราษฎรในตำบลหนองโรง อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี
และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นชอบในการสนับสนุนจัดหาแหล่งน้ำให้แก่ราษฎร และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เริ่มต้นกรมชลประทานได้รับงบประมาณจาก สำนักงาน กปร.ดำเนินการขุดสระเก็บน้ำในระดับไร่นา ความจุ 1,410 ลูกบาศก์เมตร ในพื้นที่การเกษตรของราษฎร 16 หมู่บ้าน ตำบลหนองโรง อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 562 แห่ง
และในปี 2556-2557 ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมดำเนินการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านหนองโรง 2 พร้อมระบบส่งน้ำ โดยสูบน้ำจากคลองส่งน้ำท่าล้อ-อู่ทองที่รับน้ำจากเขื่อนแม่กลอง ที่จะเป็นแหล่งน้ำสูบไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ตำบลหนองโรงเพื่อดำเนินการโครงการให้แล้วเสร็จ ตามที่ราษฎรตำบลหนองโรง อำเภอพนมทวนที่ได้รับการสนับสนุนสระน้ำได้ใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำดังกล่าว และมีการรวมกลุ่มกันทำหน้าที่เป็นผู้จัดทำระบบส่งน้ำไส้ไก่ไปยังพื้นที่ของตนเอง วันนี้พื้นที่แห่งนี้จึงไม่มีปัญหาเรื่องน้ำเพื่อการเพาะปลูก และอุปโภคบริโภค.
ขอบคุณที่มา เดลินิวส์