รู้เท่าทันก่อนจะหันมาใช้ "บัตรเครดิต" - ไขปัญหาผู้บริโภค
ในสัญญา เช่น ค่าธรรมเนียมรายปี ค่าติดตามทวงถาม ค่าผิดนัดชำระหนี้ซึ่งล้วนแต่เป็นข้อมูลสำคัญในการพิจารณาเลือกใช้บริการบัตรเครดิต และบัตรสินเชื่อ
กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
เมื่อวิถีการดำเนินชีวิตของคนในสังคมก้าวสู่ยุคของการเปลี่ยนแปลงความทันสมัยหรือกระแสวัตถุนิยม ถือเป็นสิ่งเร้าที่ก่อให้เกิดความฟุ้งเฟ้อความอยากมี อยากได้ ทำให้หลายคนหันไปพึ่ง
เงินพลาสติกอย่างบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อต่าง ๆ เพื่อเป็นช่องทางในการกู้ยืมเงินสดและ
การผ่อนชำระสินค้า มาใช้ตอบสนองความต้องการของตน
ปัจจุบัน การใช้บริการบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อต่าง ๆ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากความสะดวกสบายของการใช้บัตรที่สามารถรูดซื้อสินค้าโดย
ไม่ต้องใช้เงินสดหรือผ่อนชำระสินค้าโดยสามารถเลือกช่วงระยะเวลา และดอกเบี้ยได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดหรือการกดเงินสดเป็นเงินหมุนเวียนเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ด้วยเหตุนี้ผู้ที่ชื่นชอบความรวดเร็วทันใจ จึงหันมาเลือกใช้บริการจากบัตรดังกล่าวมากขึ้น
ในขณะที่ผู้ประกอบการหลายรายก็มีการจัดทำโปรโมชั่นต่าง ๆ ออกมาเพื่อโฆษณา
เชิญชวนให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาสมัครใช้บริการบัตรต่าง ๆ เพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
โดยส่วนมากจะนำเสนอสิทธิประโยชน์ในการใช้บริการตามห้างร้านต่าง ๆ แต่ไม่ได้ชี้แจงถึงรายละเอียดข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับเงื่อนไข
ในสัญญา เช่น ค่าธรรมเนียมรายปี ค่าติดตามทวงถาม ค่าผิดนัดชำระหนี้ซึ่งล้วนแต่เป็นข้อมูลสำคัญในการพิจารณาเลือกใช้บริการบัตรเครดิต และบัตรสินเชื่อ
ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ผู้บริโภคควรตะหนักในการพิจารณาเลือกใช้บริการบัตรเหล่านี้คือ การศึกษาเงื่อนไขข้อตกลงการใช้บัตร ค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการของผู้ให้บริการหลาย ๆ รายเปรียบเทียบกัน เช่น มีการคิดค่าธรรมเนียมรายปี ค่าติดตามทวงถามหนี้ค่าผิดนัดชำระหนี้ มากน้อยเพียงใดเป็นไปตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้หรือไม่
รวมถึงข้อความที่ต้องเป็นไปตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเรื่องให้ธุรกิจบัตรเครดิตเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา แล้วจึงมาตรวจสอบในเรื่องของสิทธิประโยชน์การใช้บัตร และการเปรียบเทียบ
ส่วนลดค่าใช้จ่ายที่จะตามมา จากการใช้บัตรดังกล่าว สุดท้ายจึงมาพิจารณาของแถมต่าง ๆ ว่ามีเงื่อนไขอื่นแอบแฝงหรือไม่ ซึ่งคงต้องมีการดูในรายละเอียด
อย่างไรก็ตาม บัตรเครดิตถือว่ามีประโยชน์หลายประการสำหรับผู้ที่มีระเบียบวินัยทางการเงิน
หากรู้จักวางแผนการใช้จ่ายอย่างถูกวิธี และไม่ใช้จ่ายมากเกินความจำเป็นที่จะต้องใช้ ในทางกลับกันหากไม่มีการวางแผนการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ และขณะเดียวกันไม่คำนึงถึงความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ ตลอดจนขาดความยับยั้งชั่งใจ ย่อมจะส่งผลให้เกิดภาระหนี้สินเพิ่มมากขึ้น ฉะนั้นเราควรพึงตระหนักไว้ว่า
’เมื่อเรานำเงินของผู้อื่น มาใช้ก่อน เราจึงมีหน้าที่ต้องชำระเงินนั้นคืน“
ขอบคุณที่มาจาก เดลินิวส์