ประสบการณ์ผ่านความตาย 3 ครั้ง 3 หน
................................
……..คุณครูที่เคารพรักครับ หากจะมีใครคนใดคนหนึ่งตั้งคำถามกับคุณครูว่า “คุณครูกลัวอะไรมากที่สุด ?” หรืออาจเป็นคำถามที่ว่า “ สิ่งที่ทำให้คุณกลัวมากที่สุดคืออะไร...?
ผมเชื่อแน่ว่า คำตอบที่น่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายจากปากของคุณครูหรือหลาย ๆ คนที่ได้ฟังเกือบ 100 % จะตอบเช่นเดียวกันคือ กลัวตาย..ใช่ไหมครับ ?
แม้จะมีบ้างบางคำตอบอาจจะหลีกเลี่ยงเป็นอย่างอื่น แต่นั่นคือเป็นคำตอบที่ฝืนใจตนเอง ทั้งทั้งที่สิ่งที่คุณครูไม่อยากพบ ไม่อยากประสบ ไม่อยากได้ยิน
คือ ความตาย ๆ ๆ ๆ
แต่คุณครูครับหากเมื่อคุณครูจะใช้ความพยายามของคุณครูสักนิดหน่อย อ่านเรียงถ้อยร้อยประสบการณ์ชีวิตของผมผู้เขียน ซึ่งต้องเวียนว่ายอยู่กับความตายครั้งแล้วครั้งเล่า โดยที่ไม่ได้เจตนาอยากตาย และตายด้วยเจตนา จักเป็นพระคุณล้นเหลือ จะเชื่อหรือไม่ก็สุดแท้แต่วิจารณญาณของท่านผู้เป็นปัญญาชน เรื่องผ่านห้วงความตายของผมเป็นเรื่องจริงใช่อิงนิยาย เป็นเรื่องท้าทายให้คุณครูได้สัมผัสกับรสชาติของคน ๆหนึ่งซึ่งครองวิถีชีวิตแห่งความเป็นมนุษย์ที่ไร้จุดหมายปลายทาง ท่ามกลางของความฮึกเหิม เคลิบเคลิ้ม กับโลกียวิสัย ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสภาวะที่จอมปลอมของโลกมนุษย์ ไม่มีอะไรจะฉุดจะรั้งได้ มิไยที่หลายดวงใจจะแยแส ไม่ใส่ใจกับความจริงแท้ของมวลธาตุ ด้วยประมาทในชีวิต จึงใช้สิทธิ์อย่างเต็มที่กับการทดลองกับความตาย มิวายที่หลายดวงใจจะอ้อนออด จะชักจูง คอยพยุงให้สติ ไม่ให้ไปริลองกับความตาย หลายครั้งหลายครา แต่ก็หาใส่ใจไม่ ไฟแห่งโลกีย์มนุษย์ฉุดคร่าปัญญาให้ถ่อย ปล่อยตัวกลั้วกับความตาย เป็นว่าเล่น เฉกเช่นกับแมลงเม่าที่บินเข้าชมความงามของแสงไฟ โดยหารู้ไม่ว่า นั่นคือแสงแห่งพญามัจจุราช ด้วยเพราะตกเป็นทาสแห่งความประมาทในชีวิต แต่ยังโชคดีที่ไม่ใช้สิทธิ์เหมือนแมลงเม่าตัวที่มันบินเข้าสู่กองไฟ เพราะผู้เป็นใหญ่ (ซึ่งไม่มีตัวตน) ยังต้องให้ใช้กรรมนำให้รู้ด้วยความเป็นปัจจตา(รู้ได้ด้วยตน) ถึงจะตาย 3คั้รง 3 คราแต่ก็ด้วยไม่ได้เจตนาตาย ท่าน (ผู้ไม่มีตัวตน) คงมั่นหมายให้มาเขียนประสบการณ์ที่ผ่านมาเมื่อวันวาน ประสานบอกทุกท่านทุกคนว่า “ สูท่านทั้งหลายกำลังวิ่งหนีความตาย จึงพากันประมาทอยู่ อย่าหดหู่ อย่าอดสูใจ จงเลื่อมใส ยิ้มให้กับความตาย แล้วจะได้ไม่ประมาท เตรียมตัวเองให้พร้อม ยอมรับกับสภาวะธรรมของสังขาร อันเป็นบทอวสานแห่งความเป็นตัวเป็นตนได้ลงตัว”
บัดนี้ความเมามัวทุกสิ่ง วิ่งหนีจากตัวผมผู้ซึ่งรู้รสชาติของความตาย
ว่าที่แท้เกิดจากตัวเราเอง คนที่ว่าเก่ง ว่าเลิศ ว่าประเสริฐ ก็รู้เพียงวันที่เราเกิดแต่หารู้วันตายไม่ ไยถึงไม่ปล่อยวางบ้าง เส้นทางสบาย สงบ คือจุดจบของทุกคน เมื่อยังไม่ถึงวันนั้น มาสร้างสิ่งดีงามกันนะครับคุณครู
...................................
ปล. (ผู้ไม่มีตัวตน) ที่ผมอ้างถึง หากต้องการพิสูจน์ ย้อนกลับไปดูบทความ “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่.ฯ ที่ผมเขียนไว้ก่อนหน้านั้นอีกครั้งนะครับ นั่นหละคือผู้ประทานชีวิตผม หากมีบุญวาสนาโอกาสหน้าผมมีเรื่องตายครั้งที่ 4 มา(เล่า)ให้คุณครูได้สัมผัสกับประสบการณ์ เจตนาตายแต่ไม่ตาย ของผมเมื่อหน้าฝนที่ผ่านมา ติดตามหน่อยนะครับ
......................................
ขอบพระคุณ ราตรีสวัสดิ์ครับ