สวัสดีค่ะ เพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน ช่วงระยะนี้ทุกท่านคงกำลังเตรียมเรื่องเกี่ยวกับการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษานะคะ ซึ่งดิฉันจะขอนำรายละเอียดและข้อสังเกตบางประการ เพื่อเป็นความรู้ ข้อคิดเตือนใจในเรื่องที่จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหาในการเลื่อนขั้นเงินเดือนประจำปี
เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า การเลื่อนขั้นเงินเดือนใน 1 ปีงบประมาณมี 2 ครั้ง คือ วันที่ 1 เมษายน และวันที่ 1 ตุลาคม โดยประเมินจากหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงาน รวมถึงกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา แต่ก็ปรากฏว่ายังเกิดปัญหาอยู่ เนื่องจากการเลื่อนขั้นเงินเดือนไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด ซึ่งสรุปได้ดังนี้
การเลื่อนขั้นเงินเดือนในแต่ละครั้ง ต้องมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาไม่น้อยกว่า 3 คน และเสนอขอความเห็นชอบ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา โดยต้องมีเอกสารหลักฐาน ผลการประเมินการปฏิบัติงานที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เรียนเป็นหลัก และการพิจารณาให้ยึดหลักคุณธรรม มีความเที่ยงธรรม เปิดเผย และโปร่งใส
ดังนั้น สิ่งที่ผู้บังคับบัญชาพึงคำนึงในการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือน คือ ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กำหนด โดยจะต้องประเมินผลการปฏิบัติงานบนพื้นฐานของผลสำเร็จและผลสัมฤทธิ์ของงานเป็นหลัก ตามที่ส่วนราชการหรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากำหนดตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงานที่ชัดเจน รวมทั้งประเมินความประพฤติ การรักษาวินัย คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ/ จรรยาบรรณ นอกจากนี้จะต้องมีข้อตกลงเกี่ยวกับผลการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างผู้ประเมินและผู้รับการประเมินก่อนการประเมิน โดยให้นำระบบเปิดในการเลื่อนขั้นเงินเดือนตามมติคณะรัฐมนตรีมาใช้ และต้องแจ้งผลการประเมินให้ผู้ถูกประเมินทราบ แล้วจึงประกาศรายชื่อผู้ที่มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีเด่นในที่เปิดเผยให้ข้าราชการได้ทราบทั่วกัน
สำนักงาน ก.ค.ศ.หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านที่จะเป็นผู้ประเมินและผู้ที่จะถูกประเมิน หากได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวข้างต้นครบถ้วนแล้ว ก็จะไม่เกิดปัญหาในการฟ้องร้องหรือร้องเรียนขึ้นอย่างแน่นอน แล้วพบกันใหม่วันจันทร์หน้าค่ะ
ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ที่มา : มติชน ฉบับวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557