Advertisement
1. สมองรับกลิ่นของสุนัขใหญ่กว่ามนุษย์ถึง 40 เท่า
เนื่องจากสมองส่วนที่ทำหน้าที่รับรู้กลิ่นของสุนัขมีขนาดใหญ่กว่าในสมองของมนุษย์ถึง 40 เท่า และในขณะเดียวกันต่อมรับกลิ่นที่จมูกของสุนัขก็มีต่อมรับกลิ่นมากถึง 1 ล้านต่อม ดังนั้นจึงส่งผลให้สุนัขสามารถแยกแยะกลิ่นต่าง ๆ ได้มากกว่ามนุษย์ประมาณ 1,000 เท่า ซึ่งมนุษย์ก็ได้นำประโยชน์จากจุดนี้มาใช้ในการค้นหายาเสพติด ศพ ระเบิด หรืออื่น ๆ อีกมากมายนั่นเอง
2. สุนัขก็มีความฝันเหมือนมนุษย์
นักวิจัยได้เผยว่า สุนัขมีรูปแบบการนอนกับการทำงานของสมองคล้ายคลึงกับมนุษย์ ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจหากพบว่า สุนัขเห่าหอนทั้ง ๆ ที่กำลังนอนหลับ เพราะมันหมายความว่าสุนัขของคุณกำลังฝันอยู่นั่นเอง และสุนัขพันธุ์เล็กก็มีแนวโน้มที่จะฝันบ่อยกว่าสุนัขพันธุ์ใหญ่ นอกจากนี้นิตยสารไซโคโลจี ทูเดย์ นิตยสารที่รวมทุกเรื่องราวเกี่ยวกับจิตวิทยา ยังแนะนำเพิ่มเติมด้วยว่า สุนัขมักจะมีความฝันที่เกี่ยวกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเช่น การวิ่งเล่นนอกบ้าน หรือไล่กัดหางตัวเอง เป็นต้น
3. ลายบนจมูกของสุนัขแต่ละตัวแตกต่างกัน
รอยย่นบนจมูกของสุนัขนั้นเปรียบได้กับลายนิ้วมือของมนุษย์ เพราะถ้าหากสังเกตดูดี ๆ ก็จะเห็นว่ารูปแบบรอยย่นบนจมูกของสุนัขแต่ละตัวแตกต่างกัน เช่นเดียวกับรอยนิ้วมือของมนุษย์ ที่ต่างก็มีรูปแบบลายนิ้วมือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลนั่นเอง
4. สุนัขมีความฉลาดเทียบเท่ากับเด็ก 2 ขวบ
สแตนเลย์ คอเลน นักวิจัยและนักเขียนเกี่ยวกับเรื่องสุนัขเผยว่า สมองของสุนัขมีความฉลาดเทียบเท่ากับเด็กอายุ 2 ขวบ โดยสุนัขนั้นสามารถจดจำคำศัพท์ต่าง ๆ ได้มากกว่า 150 คำ ในขณะเดียวกันก็สามารถพลิกแพลงสถานการณ์ สร้างเล่ห์เหลี่ยม เพื่อหลอกล่อมนุษย์กับสุนัขตัวอื่น ๆ ได้ดี แต่ทั้งนี้ความฉลาดของสุนัขแต่ละตัวก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ด้วยเช่นกัน
5. สุนัขผสมพันธุ์ปีละ 2 ครั้ง
สุนัขเพศเมียจะมีช่วงเป็นสัด หรือฤดูผสมพันธุ์ ปีละ 2 ครั้ง ดังนั้นสำหรับคนที่กำลังจะเลี้ยง หรือเลี้ยงดูสุนัขเพศเมีย จึงควรจะมีการวางแผนป้องกันและเตรียมการอย่างระมัดระวัง สำหรับการตั้งครรภ์ของสุนัขด้วย
6. สะบัดหางสื่ออารมณ์
คุณสามารถสังเกตอารมณ์ของสุนัขได้จากหาง โดยถ้าสุนัขรู้สึกมีความสุขก็จะสะบัดหางไปทางขวา ในกลับกันสุนัขจะสะบัดหางไปทางซ้ายเมื่อรู้สึกหวาดกลัว และจะกดหางลงหากกำลังตกอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ที่อันตรายหรือไม่ปลอดภัย ส่วนสุนัขที่กำลังโดนบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวก็มักจะสะบัดหางแรง ๆ ลูกตาดำขยาย เกร็งกล้ามเนื้อ และมีการส่งเสียงเพื่อข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม
7. ลูกสุนัขเกิดใหม่จะตาบอดและหูหนวก
เนื่องจากอวัยวะของลูกสุนัขเกิดใหม่ยังอยู่ในช่วงของการพัฒนา ซึ่งนิตยสารไซโคโลจี ทูเดย์ จึงได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในช่วงนี้หูและตาของลูกสุนัขเกิดใหม่ส่วนใหญ่ยังคงปิดสนิท โดยลูกสุนัขจะเริ่มตอบสนองข้อมูลต่าง ๆ ได้หลังจากผ่านช่วง 2 สัปดาห์หลังคลอดไปแล้ว
8. สุนัขมีสัมผัสที่ 6 เหมือนมนุษย์
จากการสำรวจในปี พ.ศ. 2553 ระบุว่า สุนัขกว่า 67 เปอร์เซ็นต์ มีท่าทีต่อเจ้าของเปลี่ยนแปลงไปก่อนที่พายุจะมาถึง ส่วนอีก 33 เปอร์เซ็นต์ ของสุนัขที่เหลือจะแสดงอาการแปลก ๆ ออกมาก่อนที่จะมีเหตุการณ์ร้าย ๆ บางอย่างเกิดขึ้น โดยสุนัขมักจะแสดงออกมาในรูปแบบที่แตกต่างกัน อย่างเช่น การส่งเสียงครางเบา ๆ หรือพยายามหาที่ซ่อนตัว เป็นต้น
9. สุนัขระบายเหงื่อผ่านทางอุ้งเท้า
ถึงแม้ว่าสุนัขจะใช้วิธีการหายใจเข้า-ออกแรง ๆ เพื่อระบายความร้อนจากภายในร่างกายออกมาเป็นส่วนใหญ่ อย่างที่หลาย ๆ คนสังเกตเห็น แต่สุนัขก็มีวิธีการลดอุณหภูมิในร่างกาย โดยการขับเหงื่อออกมาผ่านทางอุ้งเท้าทั้ง 4 ข้างด้วยเช่นกัน
10. อุ้งเท้าสุนัขอาจมีกลิ่นคล้ายข้าวโพด
เจ้าของสุนัขบางคนอาจจะได้กลิ่นคล้ายกับข้าวโพดทอดกรอบหรือป๊อปคอร์น เมื่อไปใกล้ ๆ ตัวสุนัข ซึ่งกลิ่นในลักษณะดังกล่าวมักจะเกิดขึ้น หลังจากมีแบคทีเรีย หรือฟังไจ เข้าไปปะปนอยู่กับเหงื่อที่ถูกขับออกมาใต้อุ้งเท้า และถ้าหากสุนัขใช้ลิ้นเลียบริเวณดังกล่าวก็อาจจะส่งผลให้เกิดโรคร้ายได้ ดังนั้นผู้ที่เป็นเจ้าของจึงควรหมั่นดูแลและทำความสะอาดอุ้งเท้าของสุนัขเป็นประจำด้วย
11. กลิ่นปากบอกสุขภาพ
กลิ่นปากเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่เจ้าของไม่ควรละเลย เพราะสุนัขที่มีกลิ่นปากส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับช่องปาก หรือปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ฉะนั้นหากเป็นไปได้เจ้าของสุนัขควรพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
12. สุนัขกินอุจจาระไม่ใช่เรื่องแปลก
สำหรับมนุษย์เรื่องดังกล่าวอาจจะดูเป็นเรื่องชวนขยะแขยง แต่สำหรับสุนัข การกินอุจจาระของตัวเองหรือสัตว์อื่น ๆ ถือเป็นเรื่องธรรมดา โดย ASPCA หรือสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกาเผยว่า อาจจะเป็นเพราะสุนัขมักจะถูกลงโทษเมื่อขับถ่ายไม่เป็นที่ ดังนั้นสุนัขจึงติดนิสัยดังกล่าวมา เพื่อหลบเลี่ยงการโดนลงโทษ แม้จะอยู่ในวัยเจริญพันธุ์แล้วก็ตาม
13. ต่อมใต้ก้นสุนัขผลิตกลิ่นเฉพาะตัว
ต่อมกลิ่นตัวของสุนัขจะอยู่บริเวณใต้ก้นของสุนัข ซึ่งสุนัขจะดมบริเวณดังกล่าวเพื่อระบุตัวตนของสุนัขแต่ละตัว อีกทั้งต่อมดังกล่าวยังทำหน้าที่ผลิตสารที่สุนัขใช้ในการแสดงอาณาเขตของตัวเองอีกด้วย
ขอบคุณที่มาจาก กระปุก.คอม
หนาวแล้ว ออกแคมป์กันเถอะ! ⛺ เตาแก๊สปิคนิค พกพาสะดวก ออก Outdoor ได้สบายๆ รุ่น KJ-101 แถมฟรี!!กล่องเก็บเตา ในราคา ฿244https://s.shopee.co.th/7fJQKGPCjr?share_channel_code=6
Advertisement
เปิดอ่าน 16,195 ครั้ง เปิดอ่าน 12,443 ครั้ง เปิดอ่าน 34,764 ครั้ง เปิดอ่าน 16,684 ครั้ง เปิดอ่าน 16,901 ครั้ง เปิดอ่าน 12,880 ครั้ง เปิดอ่าน 131,374 ครั้ง เปิดอ่าน 2,438 ครั้ง เปิดอ่าน 5,591 ครั้ง เปิดอ่าน 13,474 ครั้ง เปิดอ่าน 4,914 ครั้ง เปิดอ่าน 17,139 ครั้ง เปิดอ่าน 15,717 ครั้ง เปิดอ่าน 16,217 ครั้ง เปิดอ่าน 10,338 ครั้ง เปิดอ่าน 11,734 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 17,079 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 10,372 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 10,550 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 9,189 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 27,110 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 13,472 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 13,781 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 26,666 ครั้ง |
เปิดอ่าน 12,023 ครั้ง |
เปิดอ่าน 10,870 ครั้ง |
เปิดอ่าน 12,156 ครั้ง |
เปิดอ่าน 89,201 ครั้ง |
|
|