มรดกอีสาน.. ของดีที่ถูกลืม..
บทเรียนที่ถูกลืม.. ฮู้จักผญา
คนอีสานมีคำคม สุภาษิตสำหรับสั่งสอนลูกหลานให้ประพฤติตนอยู่ในฮีตคอง (จารีต- ประเพณี) ไม่ออกนอกลู่นอกทาง คำคมเหล่านี้รู้จักกันทั่วไป ในชื่อ "ผญา" หมายถึง ปัญญา, ปรัชญา, ความฉลาด, คำภาษิตที่มีความหมายลึกซึ้ง (wisdom, philosophy, maxim, aphorism.)
ผะหยา หรือ ผญา เป็นคำภาษาอีสาน สันนิษฐานกันว่าน่าจะมาจากคำว่า ปรัชญา เพราะภาษาอีสานออกเสียงควบ "ปร" ไปเป็น ผ เช่น คำว่า เปรต เป็น เผต โปรด เป็น โผด หมากปราง เป็น หมากผาง ดังนั้นคำว่า ปรัชญา อาจมาเป็น ผัชญา แล้วเป็น ผญา อีกต่อหนึ่งปัญญา ปรัชญา หรือผญา เป็นกลุ่มภาษาเดียวกัน มีความหมายคล้ายคลึงกัน ใกล้ เคียงกันหรือบางครั้งใช้แทนกันได้ ซึ่งหมายถึง ปัญญา ความรู้ ไหวพริบ สติปัญญา ความเฉลียว ฉลาดปราชญ์เปรื่อง หรือบางท่านบอกว่า ผญา มาจากปัญญา โดยเอา ป เป็น ผ เหมือนกับ เปรต เป็น เผด โปรด เป็น โผด เป็นต้น ผญาเป็นลักษณะแห่งความคิดที่แสดงออกมาทางคำพูด ซึ่งอาจ จะมีสัมผัสหรือไม่ก็ได้ผญา คือ คำคม สุภาษิต
หรือคำพูดที่เป็นปริศนา คือฟังแล้วต้องนำมาคิด มาวิเคราะห์ เพื่อค้นหาคำตอบที่เป็นจริงและชัดเจนว่า หมายถึงอะไร
ผญา เป็นคำพูดที่คล้องจองกัน ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องมีสัมผัสเสมอไป แต่เวลาพูดจะ ไพเราะสละสลวย และในการพูดนั้นจะขึ้นอยู่กับจังหวะหนักเบาด้วยผญา เป็นการพูดที่ต้องใช้ไหวพริบ สติปัญญา มีเชาวน์
มีอารมณ์คมคาย พูดสั้นแต่กิน ใจความมากการพูดผญาเป็นการพูดที่กินใจ การพูดคุยด้วยคารมคมคาย ซึ่งเรียกว่า
ผญา นั้น ทำให้ผู้ฟังได้ทั้งความรู้และความคิดสติปัญญา ความสนุกเพลิดเพลิน ยิ่งไปกว่านั้น ยังทำให้เกิด ความรักด้วย จึงทำให้หนุ่มสาวฝนสมัยก่อน นิยมพูดผญากันมาก และการโต้ตอบเชิงปัญญาที่ทำ
ให้แต่ละฝ่ายเฟ้นหาคำตอบ เพื่อเอาชนะกันนั้นจึงก่อให้เกิดความซาบซึ้ง ล้ำลึกสามารถผูกมัด
จิตใจของหนุ่มสาวไม่น้อย ดังนั้น ผญา จึงเป็นเมืองมนต์ขลัง ที่ตรึงจิตใจหนุ่มสาวให้แนบแน่น
ลึกซึ้งลงไปภาษิตโบราณอีสานแต่ละภาษิตมีความหมายลึกบ้าง ตื้นบ้าง หยาบก็มี ละเอียด ก็มี ถ้าท่านได้พบภาษิตที่หยาบ ๆ โปรดได้เข้าใจว่า คนโบราณชอบสอนแบบตาเห็น ภาษิตประจำ ชาติใด
ก็เป็นคำไพเราะเหมาะสมแก่คนชาตินั้น คนในชาตินั้นนิยมชมชอบว่าเป็นของดี ส่วนคน ในชาติอื่น อาจเห็นว่าเป็นคำไม่ไพเราะเหมาะสมก็ได้ ความจริง "ภาษิต" คือรูปภาพของวัฒนธรรม แห่งชาติ นั่นเอง การจ่ายผญา แก้ผญา เว้าผญา หรือ พูดผญา คือการตอบคำถาม ซึ่งมีผู้ถามมาแล้ว ก็ตอบไป เป็นการพูดธรรมดา ไม่มีการเอื้อนเสียง ไม่มีทำนอง แต่เป็นจังหวะ มีวรรคตอนเท่านั้น ผู้ถามส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายชาย เช่น
(ชาย) .... อ้ายนี้อยากถามข่าวน้ำ ถามข่าวถึงปลา อยากถามข่าวนา ถามข่าวถึงเข้า(ข้าว) อ้ายอยากถามข่าวน้อง ว่ามีผัวแล้วหรือบ่ หรือว่ามีแต่ชู้ ผัวสิซ้อนหากบ่มี
(หญิง) ..... น้องนี้ปอดอ้อยซ้อยเสมอดังตองตัด ผัดแต่เป็นหญิงมา บ่มีชายมาเกี้ยว ผัดแต่สอนลอนขึ้น บ่มีเครือสิเกี้ยวพุ่ม ผัดแต่เป็นพุ่มไม้เครือสิเกี้ยวกะบ่มี
พอสิเข้าใจเกี่ยวกับผญาแล้วนอ ถ้าอยากฮู้หลายกะไปหาศึกษาเพิ่มเติมเอาเองเด้อ
เพื่อว่าเป็นการเรียนรู้และฝึกการเว้าผญา เฮากะมาเว้า มาแลกเปลี่ยนความฮู้เกี่ยวกับผญากันเด้อพี่น้องเด้อ
"ผญาเสริมเสน่ห์เสริมมงคล "
....ชี่อว่าความดีนั้นผู้ใด๋ทำเป็นประโยชน์ เฒ่าแก่เด็กหนุ่มน้อยทำได้สิฮูงเฮือง
เจ้าอย่าเห็นของฮ้ายเป็นดีมีค่า อย่าได้เอาด่านด่าวดงกว้างว่าแปน
มื่อนี้สุภฤกษ์ได้มหามิ่งมงคล ได้มาถึงวันพระให้พร่ำเพียรศีลสร้าง
บารมีสร้าเอาบุญเป็นที่เพิ่ง ปรารถนาหน่วยแก้วพิลาเพ็งค่าแพง
มื่อนี้ได้มาเสริมเสนห์เสริมมงคลกันหนอ เสริมคุณงามความดีตื่มลงให้มันล้น
ตื่มหัวใจเฮาแล้วให้ไหลไปหาผู้อื่น ให้มันไหลหลั่งท่วมเมืองฟ้าให้ซุมเย็น
บ่แม่นเสริมเล่น ๆ ถูกเขาหลอกให้เสียเงินพ่อใหญ่เอย
เสริมคุณศีลคุณธรรมดังพระพุทธองค์เผิ่นสอนไว้
เสริมหัวใจเฮานี้ให้ศีลธรรมมันล้นปี่ อย่าให้เขาหลอกต้มเอาความฮ้ายใส่เฮา
ภาคอีสานเฮาก่อนกี่เป็นดินแดนของนักปราชญ์ ผู้ฉลาดรอบรู้เพิ่นสอนไว้สู่ภาย
หรือมันถึงคราวฮ้ายอีสานเฮาสิตกต่ำซั่นบ้อ เขาจึงตั่วหลอกล้อได้ง่ายดาย
เขาตั่วขายดอกไม้ทั้งลูกบักทบแทน
ตั่วว่าสิมาตัดกรรมตัดเวรกะหลั่งไหลไปโฮมเต้า
สั่งบ่ฟังความเว้าผู้หวังดีเพิ่นเอิ้นใส่ เสียงเพิ่นเว้าจ่อย ๆ หูน้อยซางบ่ฟัง
เลยเป็นนาเขินขาดดอนสูงเสียพื้น บ่ฮ่อนได้ผลเสี่ยงสิจุมทุน
มีแต่ความขัดข้องฮามผลเสียประโยชน์ เหมืองบ่มีส่งน้าม นาสิแห้งเหี่ยวตาย...พี่น้องเอย......
อานนท์เอย ในกาลข้างหน้ายามที่บ่มีเฮา ให้พากันเอาธรรมวินัยที่เฮาได้สั่งสอนไว้
ที่เฮาได้บัญญัติไว้เป็นคองพุทโธวาท เป็นศาสดาหมู่เจ้ามื้อหน้าอย่าสุไล
พระพุทธองค์ทรงว่าไว้ ก่อนสิจากพวกเฮาไป เป็นพระวาจาไข ใต้ฮ่มฮังคืนนั้น
โดนมาแล้วสองพันปีข้ามล่วง ห้าฮ้อยกับห้าสิบปีครบถ้วนร่วมเข้าใส่กัน
ปวงหมู่เฮาพี่น้องให้คิดฮ่ำคนิงดู อย่าฟ่าวหลงคารมอลัชชีคนเก๊
เห็นว่าเบ ๆ ฮ้องงัวเฮาอย่าฟ่าวว่า ล่างเทือเป็นชาติเชื่อเสือฮ้ายสิคาบคอเจ้าแหล๋ว
อย่าได้เห็นของฮ้ายเป็นดีมีค่า อย่าได้เห็นด่านด่าวดงกว้างว่าแปนอ้ายน้องเอย..
ขอให้เฮาพี่น้องได้ฟังเหตุฟังผล ผู้ลางคนหาเงินเอาศาสนามาบังหน้า
=====================
ความบ่มีกะหาเว้า ความบ่มีกะหาว่า หาเอาคำพระเจ้าว่า หาแต่ทางสิได้ ลวงต้มหลอกขะโยม
อวดว่าตนวิเศษล้นให้โยมเชื่อตายใจ สิได้พาไปทัวเมืองนิพพาน บ่อนพระองค์ทรงไว้
สิพาไปยังห้องวิมานทองเทียวท่อง ตั๋วเอาเงินพี่น้องมือจ่อยบ่เห็น
นิพพานัง ปะระมัง สุญญัง นิพพานนั้นคือความว่างทางจิต
ปล่อยอุปาทาน บ่มีแนวมาผูกแขวนใจเจ้า นิพพานนั้นบ่แม่นบอนนี้กะบ่แม่นทางใด๋
บ่มีไปบ่มีมาหน้าหลังบ่มีพร้อม บ่ได้อยู่เทิ่งฟ้าเวหาอากาศ
ปราศจากความยึดมั่น ยามนั้นแม่นนิพพาน อ้ายน้องเอย......
ซางมาตั๋วหน้าด้าน ๆ บ่หย้านบาปกินหัวแท้เด้ ซางบ่อายเมธาผู้ศึกษาเห็นฮู้
ซางบ่หลูโตนหน้าประชาชนผู้หลงเชื่อ ซางบ่คิดอ่าวเอื้อเวรสิต้องบาปสินำเจ้าแหล๋ว
ซางบ่คิดก่อเกื้อกรรมบาปหนาหนักเอาเด้ เสริมเสน่ห์เสริมมงคลหลอกเอาเงินคนเซ่อ...
เมืองเขมรมีมาแล้วเสริมมงคลเสริมเสน่ห์
หย้อนว่าเสริมเก้ ๆ เมืองบ้านจั่งหล่มหลวงพ่อใหญ่แม่ใหญ่เอย...........
มงฺคลํ อุตฺตมํ เสฏฐํ อันว่ามงคลนั้นความอุดมความประเสริฐ
พุทธองค์ทรงเทศน์ไว้ให้เฮาได้ฮ่ำเพิง
อเสวนา จ พาลานํ อย่าได้ไปอยู่ใกล้ เป็นหมู่กับคนพาลแม่ใหญ่เอ๋ย
ชาติแต่แนวบ่ดีให้หลีกใกล้หนีเว้น
ปณฺฑิตานญฺ จ เสวนา นั้น ชาติเมธาเซื้อบัณฑิตตนนักปราชญ์
ผู้ฉลาดฮอบฮู้ให้เอาเก่อกล่อมสหายพี่น้องเอย
ปูชา จ ปูชนียานํ คนดีนั้นควรบูชาเอาแบบอย่าง หย่างตามหลังผู้จั่งซั่น มีแต่ได้สิบ่เสีย
ปฏิรูปเทสวาโส อยู่ในเขตประเทศที่สมบูรณ์ ทั้งบุคคลและสิ่งของ ล้วนแต่แนวดีพร้อม
ปุพฺเพ จ กตปุญญตา บุญคุณสร้างบารมีพร้อมพร่ำ ทำแต่ดีจั่ย ๆ ไผบ่หย่องกะซางตาม........
อตฺตสมฺมาปณิธิ จ ตั้งตนไว้หมั่นเที่ยงในความดี บ่มีใจเอนเอียงหวั่นไหวไปทางฮ้าย
ไผสิติทั้งค้ายทั้งเมืองกะบ่เงี่ยง มีแต่ตั้งเที่ยงไว้บ่ไลถิ่มฝ่ายดี พ่อใหญ่แม่ใหญ่เอย...
พหุสจฺจญฺจ นี้ ได้เฮียนฮ่ำมาหลายซั่นแหล๋ว ได้สดับรับฟังใส่ใจอยู่เลิงเรื่อย
สิปฺปญฺจ พร้อม มีศิลปะศาสตร์ มีวิชาชีพครบถ้วน ชำนาญพร้อมสู่ภาย
วินโย จ สุกฺขิโต นั้นเพิ่นบอกว่าวินัยดี ได้ฝึกฝนอบรมตน ระเบียบงามมวลพร้อม
สุภาสิตา จ ยา วาจา อันว่าความขานเว้ามีคุณธรรมล่ำค่า
เป็นของฝากจากลุ่มฟ้ามาต้อนต่อนสะเหน พ่อใหญ่แม่ใหญ่เอย....
มาตาปิตุอุปฏฺฐานํ บรบัติเลี้ยงพ่อแม่ของเฮา อย่าได้เฮ็ดทำแนวขวาง ให้เพิ่นเคืองคำฮ้อน
อย่าได้วาจาเว้าให้สองเขือน้ำตาหลั่ง บาปท่อฟ้าเวรกล้ำท่อแผ่นดินพุ้นแหล๋ว
ปุตฺตทารสฺส สงฺคโห มีลูกเต้าให้แอบแต่ทางที่ดี อย่าได้ฝึกเอาแต่ใจต่ำไปมันสิยาก
ตามแต่ใจเลิงเรื่อยภายลุนสิสอนยาก บอกบ่ได้เมื่อหน้าสิบ่ดี
อนากุลา จ กมฺมนฺตา การงานค้างอากูรบ่แล้วทั่ว ของมันพอสิแล้วอย่าป๋าไว้ให้ยากมือ
ทานํ นั้นให้เจ้าแต่งแปลงทาน ฝึกหัดจิตใจให้ปล่อยวางอยู่เลิงเรื่อย
ธมฺมจริยา จ นั้นเจ้าอย่าได้ไลลาเว้น คลองธรรมพระเจ้ากล่าว ทุกค่ำเช้าให้เฮียนฮู้เฮ็ดนำ
ทุกค่ำเช้าให้ตั้งอยู่ในธรรม สุจริตซื่อตรงซั่วซีวันเมี้ยน
ญาตกานญฺจ สงฺคโห นั้น อย่าพากันขี่ถี่ พุ้นแม่นพี่นี้แม่นน้อง ปองดองฮักแก่น
ถึงยามทุกข์ยากแค้นให้เพียรซ่วนซอยกัน อ้ายน้องเอย...
อนวชฺชานิ กมฺมานิ เวียกเฮ็ดสร้างบ่ให้มีโทษกับไผ กิจขัดงามโทษบ่มีพอน้อย
อารตี วิรตี ปาปา นั้น บ่มีกรรมสร้างก่อ บาปท่อก้อยเพียรเว้นหลีกไกล
มชฺชปานา จ สญฺญโม ของเมานั้นมีโทษนานา สารพันบ่ฮอนหามากิน สูบดมอมเคี้ยว
มันสิพาเฮาล่มตกจมเป็นทาส ออกบ่ได้กะผองเฒ่าแก่ตาย
อปฺปมาโท จ ธมฺเมสุ ตั้งใจหมั่นบ่ประมาทเผลอเลอ มีสติอยู่สู่ยามมวลพร้อม
ถนอมใจไว้ในครองพุทโธวาท บ่ประมาทท่อก้อย ธรรมพระเจ้าเพิ่นสั่งสอน
คารโว นั้น ให้เจ้าฮู้จักอ่อนน้อมเคารพย่ำแยง แสดงถึงกิริยาบอกค่าคุณควรฮู้
บุคคลพร้อมกิจการต่าง ๆ ฮู้จักคุณค่าพร้อมถนอมไว้สู่ภาย ออกจากหั่น มีคำว่า
วาโต อย่าได้โว ๆ เสียงเหลื่อนทั้งค้าย
ให้เจ้ายอมือไหว้แสดงความนบนอบ หมอบ ๆ เข้าหัวสิเท้าง่ายางอ้ายน้องเอย.....
สนฺตุฏฺฐี นั้น ให้มีความสันโดษ อย่าสิโพดแต่ยากได้ จนทำให้ฮ่วนเฮ
ให้เจ้าพอใจพร้อมในสิ่งที่เฮามี ให้มีความยินดีแต่สิ่งของที่เฮาได้
มันสิพาทำให้จิตใจเฮาม่วนซื่น สุขยิ่งล้ำธรรมฮ้อนบ่ฮ่อนมี นอกจากนี้ยังมีคำว่า
กตญฺญุตา ให้ฮู้จักบุญคุณ อย่าได้ลืมไลหลีกเว้น
ชื่อว่าความดีนั้นกตัญญูเป็นเครื่องบอก นอกจากนี้บ่เหลือไว้ให้ส่วนดี ต่อจากนี้มีคำว่าเป็นคาถา
กาเลน ธมฺมสฺสวนํ ให้หายามฟังธรรม ขูดเกาสนิมฮ้าย
ในหัวใจเฮาหมองเศร้า หย่อนว่าเฮาบ่ฉลาด บ่อาจสุขอยู่ล้วน สนิมหุ่มห่อใจเจ้าเอย
เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ อันนี้แหล๋วคือมงคลแท้ แนวอุดมทั้งประเสริฐ
บ่มีไผสิมาส่งให้เสริมให้เฮาได้ดังกล่าวขานพี่น้องเอย....
มีแต่เขามาต้ม ตั่วเอาเงินคนโง่ พาโลหลอกพี่น้อง ได้กินแล้วกะแซวกะแซวหนีซั่นแหล๋ว...
เขาพุ้นตี๋เป็นผู้ได้ ทั้งเสน่ห์ทั้งมงคล ได้ทั้งเงินทั้งทองของขาว แล้วหอบคืนเมือบ้าน
เป็นต๋ะสงสารหน้า อวิชชามาหุ่มห่อไทยเฮานอ ซางมาตั่วหลอกล้อ บ่กลัวหย้านบาปเวรแท้แหล๋ว....
ขนฺติ จ ว่านั้น เพิ่นบอกว่าให้อดทน ทั้งการงานหนักเบาแดดฝนให้ทนกลั้น
ทนทั้งกายใจพร้อมขมเข็มเคียดด่า หวานและส้มให้ชวนชมได้สู่ภายพี่น้องเอย....
สวจสฺสตา นั้นให้เจ้าเป็นคนเว้าง่าย อย่าได้เฮ็ดอึ่งตึ่งคือหม้อบ่สาง
สมณานญฺจ ทสฺสนํ การได้เห็นได้ใกล้กับท่านผู้มีศีล ผู้สงบกายใจเฮ็ดให้เฮาหายฮ้อน
กาเลน ธมฺมสากจฺฉา นั้น สนทนาในเรื่องดีงามตามโอกาส เฮ็ดให้เฮาฉลาดฮู้ในเรื่องที่กล่าวจา
เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ อันนี้แหล๋วคือมงคลอันประเสริฐ ให้เจ้าจำจื่อไว้ธรรมพระเจ้าสั่งสอนท่านเอย....
อีกอันหนึ่งคาถาว่า ตโป จ ให้เจ้ามีความเพียรแผดเผาอูดรนความฮ้าย
บังคับกายใจพร้อมบ่ตามใจมวลกิเลส อันนี้วิเศษแท้จำไว้อย่าสิลืม
พรฺหมฺจริยญฺจ พร้อม ให้เจ้าประพฤติพรหมจรรย์ ฮู้ควบคุมทางกายระหว่างยามที่ควรเว้น
ทำตนให้เป็นคนผู้ประเสริฐ เฮ็ดจั่งซั่นเขาสิเอิ้นว่าพรหม
อริยสจฺจานทสฺสนํ ความจริงแท้อยู่เหนือผลเหนือเหตุ เห็นแจ่มแจ้งจริงแท้สู่อัน
ฮู้ว่าทุกข์แท้ พร้อมทั้งเหตุของมัน ฮู้อาการของความดับ มอดลงของความฮ้อน
ฮู้จักถอนตนขึ้นตามทางอันประเสริฐ อันนี้เลิศแท้ ๆ จบสิ้นบาปเวร พ่อใหญ่แม่ใหญ่เอย...
นิพฺพานสจฺฉิกิริยา เฮ็ดนิพพานให้แจ้งคือความทุกข์มันดับหาย
อยู่เหนือตายเหนือเป็นบาปเวรจบสิ้น อยู่เหนือดินเหนือฟ้าเหนือดาราน้อยใหญ่
มอดดวงไฟที่ลุกไหม้ในใจเจ้าสิอยู่เย็น บ่แม่นนิพพานเล่น ๆ ที่เขามาหลอกเอาเงิน
ว่าสิพาไปทัวเมืองนิพพาน สู่สถานเมืองแก้ว โอ้ย....แวววาวเหลื่อมตามตายแต่ทางนอก ซอกแซกซอนหนอนน้อยหม่นอยู่ในพ่อใหญ่เอย..
ต่อไปฮั่นเพิ่นเอิ้นว่า ผุฏฺฐสฺส โลกธมฺเมหิ จิตฺตํ ยสฺส น กมฺปติ
บ่มีใจเอี่ยนโอนหวั่นไหว ต่อคำยอหย่อง นินทาพร้อมสรรเสริญกะคือเก่า
บ่มีหมองหม่นเศร้า เสมอด้ามดังแผ่นดิน
อโสกํ ว่านั้นจิตบ่มีโสกี มีแต่ความสงบเย็นอยู่เหนือความเศร้า
วิรชํ พร้อมจิตบ่มอมเกือกขี้ฝุ่น มีแต่ใสจั่งแก้วเบิดแล้วขี้ฝุ่นใจ
เขมํ ซ่ำ จิตอยู่เกษมสรร เบิดปัญหาชีวิตยอดมงคลแท้
ความเพิ่นวาจาต้านขานลงโค้งอ่วย ว่า
เอตาทิสานิ กตฺวา สพฺพตฺถมปราชิตา สพฺพโสตฺถึ คจฺฉนฺติ ตนฺเตสํ มงฺคลมุตฺตมนฺติ .
นรชนพร้อมฝูงหมู่เทวา ให้เฮ็ดนำทำตามที่ว่ามาเบิดเกลี้ยง
ย่อมบ่มีสูญเสี่ยงอัปปราชัยไปทุกที่ ความสวัสดีเที่ยงแท้ มงคลพร้อมทุกสถานอ้ายน้องเอย............
ภาษิตโบราณอีสานผญา จากเทปธรรมบรรยาย พระอาจารย์ โชติ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.phrapanaka.th.gs/A>
+++++++ความเป็นมาของผญา ฮีตตำนานคำอีสาน ควรเฮียนฮักษาไว้+++++++
สังคมอีสานในสมัยโบราณ เป็นสังคมสงบสุข ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว หน้าฝนทำไรทำนาหาปูหาปลามาเลี้ยงชีพ หลังจากเก็บเกี่ยวเสร็จแล้วจะพักผ่อนอยู่กับบ้านเรือน ตอนเย็นๆ สาวๆ จะไปหาเก็บหลัวเก็บฟืนตามป่าใกล้บ้าน กลาวคืนจะมีการลงข่วงเข็นฝ้าย กลางวันจะทำการต่ำหูก ส่วนหนุ่มๆ ก็จะไปหาอยู่หากิน คือ ไปหาปูหาปลาตามท้องนาห้วยหนองคลองบึงมาเป็นอาหาร
การเป็นอยู่ของชาวบ้านอีสาน จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนอยู่อย่างนี้ คือ จะมีความอบอุ่น สงบสุข ทำให้เกิดวรรณกรรมที่มีคุณค่าทางสังคมในดินแดนแห่งนี ้..... เช่น สังข์ศิลป์ชัย ผาแดงนางไอ่ กาฬเกษ และผญา เป็นต้น วรรณกรรมเหล่านี้ ได้สืบต่อกันมาตั้งแต่บรรกาล จึงทำให้เกิดเป็นมรดกอันล้ำค่าของชาวอีสานโดยแท้.... ....
การพูดผญา หรือการจ่ายผญา ได้สืบทอดกันมามากกว่า ๓,๐๐๐ ปี จึงกลายเป็นประเพณีวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาวอีสาน ผญาเป็นเพียงคำพูดที่ต่อเนื่องกันมา หรือจำกันต่อๆ มา ไม่มีการเรียนการสอนในสถานศึกษาอย่างจริงจัง ปล่อยให้วรรณกรรมส่วนนี้ค่อยๆ หมดไปจากสังคมชาวอีสาน ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง จึงขอฝากให้ลูกอีสานทุกท่านได้ช่วยกันศึกษา จดจำและนำไปใช้หรือถ้าหากนำไปเป็นหลักสูตรเรียนในสถา นศึกษาได้ ในนามของวรรณกรรมท้องถิ่น จะทำให้วรรณกรรมชิ้นนี้ได้คงอยู่คู่กับชาวอีสานสืบไป .....
ขอขอบคุณ..........ผศ.สุระ อุณวงศ์ ภาควิชาปรัชญาและศาสนา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (พ่อของหมู่คะน้อยเอง)
ที่ได้ให้ข้อมูลต่างๆ และชี้แนะในการเขียนคำผญา
..........พ่อ-แม่ ที่ให้ลูกเกิดมาเป็น "ลูกอีสาน"
...........ทุกกำลังใจ ที่เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนคำผญา
...........ซุคู่ซุคน ที่เข้ามาเขียนคำผญา คำอีสานของเฮา หรือ ทั้งเข้ามาอ่านผ่านไปผ่านมาแถวๆ นี้ ค่ะ
(คุณพ่อสุระ อุณวงค์ คงบ่ลืมลูกศิษย์...คนนี้เนาะค่ะเนาะที่ได้นำเรื่องราวดีๆมาเล่าต่อ)
...........ลำล่อง : อัศจรรย์ // แม่
ซ่อยกัน อนุรักษ์ไว้ ฮีตเก่าโบราณ
ซ่อยกัน สืบสาน ประเพณีเค้า
ซ่อยกัน ตุ้มเข้า สามัคคีพร้อมพรั่ง
ปราชญ์ ยอยกย่อง คุณค่า เมื่อลุน
ผศ.สุระ อุณวงศ์