ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

คุณค่าของนิทานพื้นบ้าน


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,642 ครั้ง
คุณค่าของนิทานพื้นบ้าน

Advertisement

 

             คุณค่าของการศึกษานิทานพื้นบ้าน

        นิทานพื้นบ้านเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของคนไทยสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนมี

คุณค่าต่อคนในสังคมด้านต่าง ๆ ดังนี้

1.    คุณค่าด้านอารมณ์

การเล่านิทานมีจุดมุ่งหมายสำคัญให้ความเพลิดเพลินแก่ผู้ฟัง  นำผู้ฟังไปยังโลก

แห่งความมหัศจรรย์  ดินแดนที่วิเศษ ดินแดนที่แปลก ๆ ไม่มีในชีวิตจริง เต็มไปด้วยอิทธิฤทธิ์

ปาฏิหาริย์และสัตว์ประหลาด   ตัวละครในนิทานมีทั้งมนุษย์  อมนุษย์  ล้วนแล้วแต่เป็นภาพจำลองของมนุษย์ทั้งสิ้น  มีทั้งดีและเลว  กล้าหาญและขี้ขลาด  เสียสละและเห็นแก่ตัว  การฟังนิทานทำให้ได้เรียนรู้มนุษย์หลายบุคลิก  ผู้ฟังได้เพลิดเพลินสนุกสนาน ไปกับเรื่องราวต่าง ๆ หลายหลากรส  ซึ่งทำให้ผู้ฟังมีความสุขและมีความหวังในการดำรงชีวิต  เช่น  นิทานเรื่องต่อไปนี้

เรื่องขอดูเจ้าสาว

 

ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว  มีหนุ่มสาวคู่หนึ่ง  ต่างศาสนากัน  ฝ่ายชายเป็นชาวพุทธ  ฝ่ายหญิง

เป็นชาวคริสต์  มีความรักต่อกันจึงตกลงแต่งงานกัน  ตอนเช้าทำพิธีทางศาสนาตามประเพณีพุทธ

ที่บ้านฝ่ายชาย  ตอนสายมาทำพิธีที่โบสถ์ศาสนาคริสต์  เจ้าสาวต้องมีผ้าปิดหน้ามาเข้าโบสถ์ 

พอพิธีจวนจะเสร็จ  เจ้าบ่าวถามบาทหลวงว่า  มีค่าใช้จ่ายอะไรหรือไม่ครับ  บาทหลวงบอกว่า  ก็มีค่าธรรมเนียมเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามความสวยของเจ้าสาว  ถ้าเจ้าสาวสวยก็เยอะหน่อย  ถ้าเจ้าสาวไม่ค่อยสวยก็น้อยหน่อย   เจ้าบ่าวล้วงกระเป๋ากางเกง  แล้วยื่นเงินให้บาทหลวง  จำนวน  1  บาท  บาทหลวงเกิดความสงสัย  จึงขอเปิดดูหน้าเจ้าสาว  ในที่สุดบาทหลวงก็เลยล้วงกระเป๋ากางเกง

ของตัวเอง  เอาเงินทอนคืนให้เจ้าบ่าว  50  สตางค์  (ประครอง  จันทคง  :  2547)

เรื่องอบรมดนตรี

 

                สามีไปอบรมดนตรีหลายวัน  พอกลับมาถึงบ้าน  ก็นอนอยู่ข้างภรรยา  ด้วยอาการ             อารมณ์ดี  ในใจนั้นมีแต่เสียงเพลงเสียงดนตรี  ก็เลยเอามือไปสะกิดที่เอวภรรยาพร้อมทำเสียงเพลงเสียงสูง ๆ ว่า  กิ๊ก มะลิก กิ๊ก กิ๊ก  ฝ่ายภรรยายังไม่มีอารมณ์ร่วมก็นอนนิ่งเฉย  สามีใช้นิ้วไต่ไปใกล้ ๆ สะดือภรรยาพร้อมร้องเป็นเพลงเสียงสูงว่า  กิ๊ก  มะลิก  กิ๊ก  กิ๊ก  ฝ่ายภรรยาพอสามีจี้ไปที่

21

 

สะดือก็เกิดอารมณ์ร่วมรู้สึกดี ๆ  ก็เลยบอกสามีว่า  ต่ำลงอีกนิดซิพี่  สามีเข้าใจว่าภรรยาบอกให้ทำเสียงเพลงต่ำลงกว่าเดิมอีกก็เลยพูดเสียงต่ำ ๆ ว่า  กิ๊ก มะลิก กิ๊ก กิ๊ก   (ประครอง  จันทคง  :  2547)

เรื่องเมียสอบบรรจุ

 

                ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว  มีศึกษาธิการท่านหนึ่ง  มีภรรยาเรียนจบครูมา  ให้สอบบรรจุทีไร           ก็ไม่ได้สักที  ทั้ง ๆ ที่ทุกครั้งเธอสอบผ่านข้อเขียนเป็นประจำ  ในปีนั้นสำนักงานศึกษาก็ได้จัด สอบบรรจุครูเช่นเดิม  เมียของท่านศึกษาคนนี้ก็ไปสมัครสอบกับเขาด้วย  เธอก็สอบผ่านข้อเขียนอีก  ท่านศึกษาอยากจะให้เมียสอบครูได้บ้างก็เลยขอเป็นกรรมการสอบสัมภาษณ์เอง  พอถึงวันสอบสัมภาษณ์  กรรมการก็นั่งรอผู้สอบอยู่ในห้องสอบที่จัดเตรียมไว้  กรรมการก็เรียกผู้สอบ        ผ่านข้อเขียนเข้าสอบสัมภาษณ์ทีละคน ๆ จนกระทั่งถึงภรรยาของท่านศึกษา พอภรรยาท่านศึกษาเข้าไปในห้องสอบ  ยืนต่อหน้ากรรมการผู้สอบสัมภาษณ์  ท่านศึกษาก็เอ่ยปาก  เชิญนั่ง                อย่างสุภาพ  ส่วนภรรยาก็แปลกใจสงสัยว่าเอ๊ะอยู่ที่บ้านไม่เห็นพูดอย่างนี้เลย  ก็เลยชายหางตาดูสามีพร้อมพูดว่า  ดู๊ย!”  แทนที่จะกล่าว  ขอบคุณค่ะ ท่านศึกษาก็พูดต่อไปว่า  ชื่ออะไรเรา  ภรรยายิ่งแสดงอาการงงมากยิ่งขึ้น  ชายตามองสามีอีกพร้อมพูดว่า  ดู๊ย ๆ !”  ท่านศึกษาถามอีกคำถามหนึ่งว่า  แต่งงานหรือยังล่ะเรา  ฝ่ายภรรยาเกิดความงุนงงว่าเอ๊ะ  !  ก็นอนอยู่ด้วยกันทุกคืนทำไมถามเช่นนั้น  ก็เลยชายตาค้อนวับสามีเข้าให้พร้อมพูดว่า  ดู๊ย ๆ ๆ !”    (ประครอง  จันทคง  :  2547)

 

2.    คุณค่าด้านความคิด

นิทานส่วนใหญ่มีจุดมุ่งหมายแฝงในด้านการให้ข้อคิดและคติเตือนใจ นิทานช่วย

ขัดเกลาสมาชิกของสังคมให้เป็นไปตามบรรทัดฐานและค่านิยมของสังคมที่วางไว้  เช่น  นิทาน             มีจุดมุ่งหมายชี้ให้เห็นค่านิยมของการทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว  มีเมตตากรุณาต่อสัตว์โลก  รู้จักพิจารณารอบด้านก่อนตัดสินใจ  ข้อคิดเหล่านี้ผู้ฟังจะซึมซับโดยไม่รู้ตัว เช่น นิทาน  ต่อไปนี้

 

 

 

 

 

22

 

เรื่องเซียงเมี่ยงขอที่ดิน

 

                ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว  เซียงเมี่ยงเป็นคนที่ได้รับความโปรดปรานจากพระราชาอย่างมาก  ถึงขั้นที่ว่าเซียงเมี่ยงอยากได้อะไร  ขออะไรก็จะพระราชทานให้ทั้งสิ้น  วันหนึ่งเซียงเมี่ยงไปขอพระราชทานที่ดินจากพระราชา  พระราชาก็ถามว่าจะเอามากเท่าไร  เซียงเมี่ยงก็ทูลว่า  เอาเท่าที่แมวดิ้นตาย  พระราชาก็นึกว่าที่ที่เท่าแมวดิ้นตายนั้นคงไม่มากอะไร  จึงตกลงพระราชทานให้ตามที่ขอ  พอได้รับอนุญาต  เซียงเมี่ยงก็จับแมวมาหนึ่งตัว  เอาเชือกผูกเอวแมว แล้วใช้แส้ตีวิ่งไล่ตามแมวไป  แมวกลัวและเจ็บก็ยิ่งวิ่งออกไปไกล เซียงเมี่ยงก็วิ่งไล่ตามไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งแมว          วิ่งอ้อมกลับมาขาดใจตายต่อหน้าพระราชา  เซียงเมี่ยงก็ทูลว่าที่ทั้งหมดนี้เป็นที่ของตนที่ขอพระราชทาน  พระราชาไม่รู้จะพูดอย่างไรจำใจจำเป็นต้องยกให้ เพราะเป็นกษัตริย์ตรัสแล้ว                  ไม่คืนคำ  เซียงเมี่ยงเลยได้ที่ดินเท่าที่แมวดิ้นตายหลายสิบไร่  (มี  จันทะคง  :  2540)

เรื่องเซียงเมี่ยงเลี้ยงน้อง

 

                ครั้งหนึ่งเซียงเมี่ยงได้รับมอบหมายจากพ่อแม่ว่าให้ดูแลน้องเวลาพ่อแม่ไปทำไร่ทำสวน  เซียงเมี่ยงดูแลน้อง  น้องขี้  น้องเยี่ยวก็ดูเฉยไม่ได้ทำความสะอาดให้น้อง  พอแม่กลับมาเห็นน้อง          มีขี้เลอะเต็มตัวแม่ก็ด่าว่าไม่ดูแลน้อง  เซียงเมี่ยงก็ว่าให้ดูก็ดูแล้วไม่ได้บอกให้ทำนี่  วันหลังแม่เลยสั่งความอย่างดีว่า  ถ้าน้องขี้น้องเยี่ยวให้ล้างท้องล้างไส้ให้น้องด้วย  เซียงเมี่ยงรับคำ  พ่อแม่ก็ไปทำงานในไร่

                ตกบ่ายน้องขี้ในอู่เปื้อนไปหมด  เซียงเมี่ยงก็จับน้องมาแหวกท้องล้างท้องล้างไส้ให้น้องตามที่แม่สั่งทุกประการแล้วเอาน้องลงนอนในอู่เช่นเคย  พอพ่อแม่กลับมา  เห็นน้องยังนอนไม่ตื่นก็ไปดู  ตกใจมากเมื่อเห็นลูกน้อยนอนตายคว่ำหน้าอยู่ในอู่  ถูกผ่าท้องผ่าไส้ล้างจนหมด  ก็เรียก         เซียงเมี่ยงมาด่า  จะทุบตีเซียงเมี่ยง  เซียงเมี่ยงเลยบอกว่าตนเองได้ทำตามที่พ่อแม่สั่งทุกประการ         จะตีตนได้อย่างไร  แม่ก็ว่า  แม่ไม่ได้บอกให้ฆ่าน้อง  เซียงเมี่ยงก็ว่า  ตนเองไม่ได้ฆ่า  แม่บอก         ให้ล้างท้องล้างไส้ให้น้องตนเองก็ล้างท้องล้างไส้ให้น้องตามที่แม่บอก  จะผิดได้อย่างไร  แม่เลยว่า  ไอ้นี่มันซื่อจริง ๆ จนกูต้องเสียลูกไปตั้งคน  (มี  จันทะคง  :  2540)

 

 

 

23

 

3.    คุณค่าด้านสติปัญญา

นิทานพื้นบ้านเป็นคลังความรู้ที่บรรพบุรุษสั่งสมมาหลายชั่วอายุคน  จึงมีคุณค่า           

โดยให้เกิดภูมิรู้  สติปัญญาด้านต่าง ๆ ดังนี้

        3.1  ความรู้เกี่ยวกับความเป็นมาของชุมชน  เช่น  ตำนาน  นิทานประจำถิ่น  จะบอก             

ให้รู้ว่าชุมชนนี้มีที่มาอย่างไร  แม้จะมีการเสริมเติมแต่งเนื้อเรื่องเข้าไปบ้าง  ก็ยังปรากฏร่องรอย         ความเป็นมาของกลุ่มชน  เช่น  ตำนานอุรังคธาตุ  นิทานเรื่องผาแดงนางไอ่ หรือตำนานหนองหานหลวง  เป็นต้น

        3.2   ความรู้เกี่ยวกับความเชื่อขนบธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติในชุมชน  นิทาน

ประเภทเทวตำนานและนิทานอธิบายเหตุ  อธิบายขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ ที่ชุมชนเชื่อถือและปฏิบัติ  เช่น  เทวตำนานเรื่องพญาคันคาก  ตัวเอก  คือ  คันคาก  (คางคก)  พาบริวารไปสู้รบ กับพญาแถนจนชนะ  พญาแถนแพ้จึงยอมส่งฝนมาให้โลกมนุษย์เมื่อถึงฤดูกาล  เพาะปลูก

โดยตกลงว่าเมื่อเห็นสัญญาณการจุดบั้งไฟจากโลกมนุษย์แถนก็จะส่งฝนมาให้  ตำนานเรื่องนี้        เป็นการอธิบายพิธีกรรมแห่บั้งไฟของชาวอีสานและชาวเหนือ  หรือเป็นพิธีขอฟ้าขอฝนเพื่อให้          ฝนตกต้องตามฤดูกาล

                         นิทานที่อธิบายประเพณีสงกรานต์  เล่าว่าท้าวกบิลพรหมแพ้ปัญญาธรรมบาล                 ถูกตัดศีรษะและให้ธิดาทั้งเจ็ดผลัดเปลี่ยนเวียนกันนำศีรษะของบิดา  ออกแห่แหนรอบเขา                   พระสุเมรุ  ตามความเชื่อของชาวไทย

       3.3   ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและสภาพแวดล้อม  นิทานประเภทนิยายและนิทาน

อธิบายเหตุแสดงให้เห็นความสนใจต่อธรรมชาติ  แสดงให้เห็นความพยายามอธิบายธรรมชาติ รอบ ๆ  ตัวตามความรู้ที่มีอยู่  แม้การอธิบายในนิทานจะไม่เป็นวิทยาศาสตร์  แต่ก็แสดงให้เห็นความเอาใจใส่ต่อธรรมชาติ  พยายามหาเหตุผลในระดับหนึ่งมาตอบสนองความอยากรู้อยากเห็น เช่น  อธิบายการเกิดโลกและจักรวาล  การเกิดจันทรุปราคา และยังแสดงความช่างสังเกต                 ของมนุษย์อีกด้วย

       3.4  ความรู้เกี่ยวกับการดำเนินชีวิต    นิทานเป็นการถ่ายทอดประสบการณ์                     

ในการดำเนินชีวิตวิธีการหนึ่ง  ชีวิตตัวละครในนิทานเป็นอุทาหรณ์ที่ดีแก่ผู้ฟัง  เช่น  ความโง่เขลา ความฉลาด ความโลภ ความอิจฉาริษยา  นิทานหลายเรื่องได้เสนอวิธีการปรับตัวและ การเอา            ตัวรอดในสังคม  การฟังนิทานจึงเป็นการเรียนรู้วิธีการปฏิบัติต่อกันเพื่ออยู่อย่างสันติในสังคม

 

 

 

24

 

4.    คุณค่าด้านภาษา  นิทานได้รับการถ่ายทอดทางมุขปาฐะ  จนกระทั่งการเขียน  

การพิมพ์เจริญขึ้น  จึงได้มีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร  ดังนั้นคุณค่าด้านภาษาจึงมี                       2   ประการคือ

        4.1  ภาษามุขปาฐะ  เป็นภาษาพูดที่สื่อสารกันในระดับท้องถิ่น  คำและสำเนียงภาษา

จึงแตกต่างไปจากภาษาเขียน  ภาษาพูดเป็นภาษาที่ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างลึกซึ้งกว่าภาษาเขียน

4.2     ภาษาลายลักษณ์  นิทานได้รับการเรียบเรียงผ่านการกลั่นกรองของผู้เรียบเรียง

อีกทอดหนึ่งภาษาที่ใช้แม้บางคำยังคงภาษาถิ่นไว้เพื่อคงความหมาย  ความสละสลวย  การลำดับเรื่องและลำดับความคิดเป็นระบบกว่าภาษามุขปาฐะ

       ภาษาที่ปรากฏในนิทานบางคำไม่มีใช้ในปัจจุบัน  บางคำใช้ภาษากลางแทนคำและ

สำนวนดั้งเดิมจึงมีปรากฏในภาษาถิ่นที่ชาวบ้านใช้ในการเล่านิทานเท่านั้น

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 3792 วันที่ 13 มี.ค. 2552


คุณค่าของนิทานพื้นบ้าน

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

..น้ำสี..ดำ

..น้ำสี..ดำ


เปิดอ่าน 6,398 ครั้ง
เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ

เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ


เปิดอ่าน 6,415 ครั้ง
นิ้วล๊อค...!! ...>>>>

นิ้วล๊อค...!! ...>>>>


เปิดอ่าน 6,405 ครั้ง
กินง่ายๆแต่ก็ยังผอม

กินง่ายๆแต่ก็ยังผอม


เปิดอ่าน 6,404 ครั้ง
ตา...บอกอะไรคุณบ้าง???

ตา...บอกอะไรคุณบ้าง???


เปิดอ่าน 6,418 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ภาชนะ เมลามีน ....ใช้อย่างไรให้ปลอดภัย

ภาชนะ เมลามีน ....ใช้อย่างไรให้ปลอดภัย

เปิดอ่าน 6,487 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
สตรอเบอรี่...น่ากิ๊น...น่ากิน
สตรอเบอรี่...น่ากิ๊น...น่ากิน
เปิดอ่าน 6,414 ☕ คลิกอ่านเลย

CHRISTMAS  IN THAILAND
CHRISTMAS IN THAILAND
เปิดอ่าน 6,407 ☕ คลิกอ่านเลย

ตัวอยู่กับตัว..แต่ไม่รู้จักตัวเอง
ตัวอยู่กับตัว..แต่ไม่รู้จักตัวเอง
เปิดอ่าน 6,409 ☕ คลิกอ่านเลย

11 ข้อคิดธรรมะดีๆ จากระดับพระเกจิอาจารย์ดังครับ
11 ข้อคิดธรรมะดีๆ จากระดับพระเกจิอาจารย์ดังครับ
เปิดอ่าน 6,488 ☕ คลิกอ่านเลย

ชูเมนูสมุนไพร....ลดคอเลสเตอรอล
ชูเมนูสมุนไพร....ลดคอเลสเตอรอล
เปิดอ่าน 6,424 ☕ คลิกอ่านเลย

การยึดติด
การยึดติด
เปิดอ่าน 6,406 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

การเวียนศีรษะมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?
การเวียนศีรษะมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?
เปิดอ่าน 20,898 ครั้ง

สมองเสื่อมหรือ... ขี้ลืมธรรมดาๆ
สมองเสื่อมหรือ... ขี้ลืมธรรมดาๆ
เปิดอ่าน 13,059 ครั้ง

วิธีปลูกผักอีตู่ (แมงลัก) ในกระถาง
วิธีปลูกผักอีตู่ (แมงลัก) ในกระถาง
เปิดอ่าน 4,125 ครั้ง

6 จุดที่เป็นแหล่งกำเนิดพลังลับในบ้าน ที่ต้องเร่งกำจัดก่อนจะบั่นทอนชีวิตทุกวัน
6 จุดที่เป็นแหล่งกำเนิดพลังลับในบ้าน ที่ต้องเร่งกำจัดก่อนจะบั่นทอนชีวิตทุกวัน
เปิดอ่าน 3,485 ครั้ง

คู่แข่ง 4.0 คือการศึกษาและคุณภาพชีวิต : โดย สุกรี เจริญสุข
คู่แข่ง 4.0 คือการศึกษาและคุณภาพชีวิต : โดย สุกรี เจริญสุข
เปิดอ่าน 19,113 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ