นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 2/2557 เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2557 ณ ห้องประชุมสำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษา
• เห็นชอบปรับปรุงหลักเกณฑ์ และกำหนดการสอบแข่งขันฯ ครูผู้ช่วย ครั้งที่ 1 ปี พ.ศ.2557
ที่ประชุมเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย และกำหนดการสอบแข่งขันฯ ครั้งที่ 1 ปี พ.ศ.2557 โดยมีสาระสำคัญ คือ
- กำหนดให้ผู้ดำเนินการสอบแข่งขันเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสม โดยไม่ต้องรวมกลุ่มกันในพื้นที่เขตตรวจราชการของกระทรวงศึกษาธิการ ในส่วนของข้อสอบจะให้ส่วนราชการเป็นผู้กำหนดโครงสร้างการออกข้อสอบที่คำนึงถึงค่าน้ำหนักและสัดส่วนในการออกข้อสอบแต่ละเนื้อหา เพื่อให้ครอบคลุมตามหลักสูตรที่กำหนด
- กำหนดคุณสมบัติของผู้สอบแข่งขันให้ชัดเจน และต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนในวันสมัคร
- ปรับเกณฑ์การตัดสิน โดยจะต้องสอบผ่านภาค ก ภาค ข ในแต่ละภาคไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ก่อน จึงจะมีสิทธิ์สอบภาค ค
- ให้ส่วนราชการพิจารณากำหนดสัดส่วนการใช้อัตราว่าง เพื่อใช้สำหรับการสอบแข่งขันและการสอบคัดเลือกได้ตามความเหมาะสม
กำหนดการสอบแข่งขัน
-
ให้มีการประกาศสอบแข่งขันระหว่างวันที่ 10-16 มีนาคม 2557
-
เปิดรับสมัครสอบแข่งขันระหว่างวันที่ 17-24 มีนาคม 2557
-
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบในวันที่ 8 เมษายน 2557
-
ดำเนินการสอบแข่งขันภาค ก ในวันที่ 19 เมษายน 2557 และ
-
สอบแข่งขันภาค ข ในวันที่ 20 เมษายน 2557
-
โดยจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านภาค ก และภาค ข ในวันที่ 24 เมษายน 2557
-
จากนั้นจะจัดสอบภาค ค ในวันที่ 27 เมษายน 2557 เป็นต้นไป
-
และประกาศผลการสอบแข่งขันภายในวันที่ 2 พฤษภาคม 2557
รมว.ศธ.กล่าวว่า ที่ประชุมมีความเห็นว่า แม้การจัดสอบจะแยกสอบโดย อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา แต่ยังจะต้องมีการกำหนดมาตรฐานและคุณภาพจากส่วนกลาง รวมทั้งแจ้งแนวปฏิบัติไปยัง อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาด้วย ซึ่ง อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาอาจจะร่วมดำเนินการออกข้อสอบหรือจัดสอบกับสถาบันการศึกษาหรือมหาวิทยาลัย
นอกจากนี้ การกำหนดเวลาการสอบแข่งขัน พิจารณาให้ผู้ที่กำลังจะจบในปีการศึกษาล่าสุด สามารถสมัครสอบได้ และกำหนดวันประกาศผลให้ประกาศก่อนเปิดภาคเรียนเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อโรงเรียนเอกชนในการหาครูมาทดแทน ทั้งนี้ได้มอบให้สำนักงาน ก.ค.ศ.สร้างระบบกลไกเพื่อสนับสนุนการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานของข้อสอบที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย เช่น สร้างคลังข้อสอบ เป็นต้น
• เห็นชอบปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และหลักสูตร การคัดเลือกบุคคล เพื่อบรรจุและแต่งตั้งฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ
ที่ประชุมเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์ วิธีการ และหลักสูตร การคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ โดยมีสาระสำคัญ คือ
- กลุ่มพนักงานราชการและลูกจ้าง ซึ่งจะต้องปฏิบัติการสอนเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี ได้เพิ่มผู้ที่ทำหน้าที่วิทยากรอิสลามศึกษาให้อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย
- ให้ส่วนราชการพิจารณากำหนดสัดส่วนจำนวนตำแหน่งว่างที่จะใช้ในการคัดเลือกและสอบแข่งขันได้ตามความเหมาะสม
- ยกเลิกการให้สิทธิ์สมัครได้เพียงแห่งเดียว แต่วันสอบส่วนราชการจะกำหนดให้เป็นวันเดียวกัน
- ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกและได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วยแล้ว จะต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ไม่น้อยกว่า 4 ปี เพื่อให้สามารถจัดการเรียนการสอนในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความต่อเนื่อง และลดปัญหาครูขอย้ายออกนอกพื้นที่ได้ช่วงเวลาหนึ่ง
• เห็นชอบปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ที่ประชุมเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และหลักสูตรการสอบคัดเลือกผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา/มัธยมศึกษา โดยมีสาระสำคัญ คือ
- การคัดเลือก แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มทั่วไป รับสมัครจากผู้ที่มีคุณสมบัติครบตามมาตรฐานตำแหน่ง และ 2) กลุ่มประสบการณ์ รับสมัครจากผู้ที่มีคุณสมบัติครบตามมาตรฐานตำแหน่ง และมีระยะเวลาการดำรงตำแหน่งเพิ่มขึ้น
- การกำหนดการเทียบประสบการณ์การดำรงตำแหน่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับการบริหารการประถมศึกษาหรือการมัธยมศึกษา
- วิธีการคัดเลือก
1) กลุ่มทั่วไป กำหนดให้สอบภาค ก และภาค ข ก่อน โดยจะต้องมีคะแนนในแต่ละภาคไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 จากนั้นจะคัดเลือกผู้มีคะแนนรวมสูงสุดเรียงตามลำดับลงมามากกว่าจำนวนตำแหน่งว่างที่จะใช้บรรจุและแต่งตั้งอีกไม่เกิน 1 เท่า เพื่อเข้ารับการประเมินภาค ค
2) กลุ่มประสบการณ์ กำหนดให้สอบภาค ก และภาค ข โดยจะต้องมีคะแนนทั้ง 2 ภาครวมกันไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 โดยเรียงลำดับคะแนนจากผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดจากมากไปหาน้อย
รมว.ศธ.กล่าวว่า ขณะนี้ สพฐ.แจ้งว่ามีตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาว่างจำนวน 52 เขตพื้นที่การศึกษา ที่ประชุมจึงมอบให้สำนักงาน ก.ค.ศ. ประสานกับปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อดำเนินการสรรหาโดยเร็ว เนื่องจากตำแหน่งว่างมาเป็นเวลานานแล้ว
• การใช้ตำแหน่งว่างที่เหลือจากการบรรจุและแต่งตั้งผู้ผ่านการสรรหา ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการ/ผู้อำนวยการสถานศึกษา
ที่ประชุมเห็นควรให้ สพฐ.ยืนยันจำนวนตำแหน่งว่างและจำนวนตำแหน่งที่คาดว่าจะว่างจากการเกษียณอายุราชการใน 2 ปีงบประมาณ ในการรับสมัครสรรหาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา ในปี พ.ศ.2555 อีกครั้งหนึ่ง
รมว.ศธ.กล่าวว่า ได้มีการพิจารณาข้อร้องเรียนของผู้ที่สอบได้คะแนนสูงกว่าร้อยละ 60 ที่ยังไม่ได้รับการประกาศขึ้นบัญชีรายชื่อหลายครั้งแล้ว ซึ่งในที่ประชุมครั้งนี้มีความเห็นว่า เมื่อ สพฐ.ได้รายงานว่า จำนวนตำแหน่งว่างและจำนวนตำแหน่งที่คาดว่าจะว่างตามที่ได้ประกาศไปนั้นถูกต้องแล้ว และยังไม่มีการแก้ไขใดๆ ฉะนั้นผู้ที่พึงได้รับการประกาศขึ้นบัญชีรายชื่อจึงเป็นไปตามประกาศเดิม และยังไม่มีกฎหมายใดที่จะสามารถนำผู้ที่สอบได้คะแนนสูงกว่าร้อยละ 60 ที่ยังไม่ได้รับการประกาศขึ้นบัญชีรายชื่อ มาขึ้นบัญชีได้
และเพื่อให้เกิดความชัดเจน จึงขอให้ สพฐ.ยืนยันตัวเลขอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง หาก สพฐ.ยืนยันตัวเลขเดิม เรื่องนี้ก็เป็นอันยุติ คือ ไม่สามารถขึ้นบัญชีรายชื่อผู้ที่สอบได้คะแนนสูงกว่าร้อยละ 60 ที่ยังค้างอยู่ได้ และจะต้องมีการเปิดรับสมัครเพื่อสอบคัดเลือกในตำแหน่งที่ว่างก็ต่อไป
ที่มา ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ