Advertisement
...โรคหน้าร้อน..นอกจากท้องร่วง..พิษสุนัขบ้าแล้ว..ที่น่าห่วงอีกโรคคือ ลมพิษ หรือหมุ่นหม่าน (ภาษาอิสาน)
เมื่อเข้าสู่หน้าร้อนทีไร หลาย ๆ คนมักจะเกิดอาการคัน ตามร่างกายและเมื่อเกาเพื่อบรรเทาอาการคันมาก ๆ เข้าก็ลามกลายเป็น ลมพิษ ไป เพราะฉะนั้นวันนี้เรามาทำความรู้จัก ลมพิษ เพื่อหาทางป้องกันกันดีกว่าค่ะ
ลมพิษ คือ อาการของผื่นลมพิษเกิดขึ้น เมื่อร่างกายผู้ป่วยได้รับสิ่ง ที่ตัวเองแพ้เข้าสู่ผิวหนัง โดยการรับประทาน สัมผัส หรือโดยการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ เข้าใต้ผิวหนัง หรือเข้าหลอดเลือด สิ่งกระตุ้นที่ผู้ป่วย จะทำให้หลอดเลือดใต้ผิวหนังขยายตัว สารน้ำในหลอดเลือด จะซึมออกนอกหลอดเลือด เกิดอาการแดง บวม ร้อน คัน บางครั้งอาจมีอาการเจ็บร่วมด้วยได้
ถ้าการขยายตัวของหลอดเลือด เกิดในหนังแท้ส่วนบน ๆ อาการบวม แดง ร้อน จะเห็นชัดเจนเรียก ลมพิษชนิดตื้น (Urticari) ถ้าการขยายตัวของหลอดเลือด เกิดในส่วนลึกของหนังแท้ อาการแดงมักเห็นไม่ชัดเจน แต่จะพบอาการบวมมากกว่าเรียก ลมพิษชนิดลึก (Angioedem)
อาการที่พบ อาการบวม แดงที่ผิวหนังแต่ละตำแหน่ง เป็นอยู่ไม่เกิน 24 ชม. ก็จะยุบไป แต่จะไปเกิดบริเวณอื่นของผิวหนังได้ ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการลมพิษนั้นอาจจะมาจาก เชื้อโรค ได้แก่ ไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา หรือพยาธิ เป็นสาเหตุของลมพิษที่พบบ่อย เชื้อโรคเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายทางใดก็ได้ เช่น ทางเดินอาหาร ทางเดินลมหายใจ ทางเดินปัสสาวะและผิวหนัง หรือสารเคมี ที่สำคัญคือ อาหารและยา และอาจจะเกิดจากความร้อน ความเย็น แสงแดด ก็มีส่วนสำคัญทำให้เกิดผื่นลมพิษได้เช่นกัน
|
|
|
อาการลมพิษในเด็กเล็ก |
เมื่อเกิดอาการคันคล้ายจะเป็นลมพิษแนะนำให้ลองหา ใช้คาลาไมน์ โลชั่น ทาบริเวณผื่นลมพิษเพื่อช่วยลดอาการคัน และพยายามไม่เกา หรืออาเกาแรง ๆ เพื่อไม่ให้เกิดอาการอักเสบจากนั้น แต่หากอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก ปวดท้อง หน้าบวม ตาบวม ปวดบวมอย่างมาก ควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว เพราะอาจจะเป็นลมพิษชนิดฉับพลันได้ ซึ่งลมพิษชนิดฉับพลันนี้อาจจะมีผลทำให้อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
สำหรับวิธีหลีกเลี่ยงนั้น ในช่วงที่อากาศร้อน ๆ แบบนี้ อาจจะทำให้เรามีเหงื่อออกได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นควรสวมเสื้อผ้าที่ระบายถ่ายเทอากาศได้ดี อาจจะทาแป้งเย็น หรือแป้งฝุ่นทั่ว ๆ ไปก็ได้ด้วยค่ะ
นอกจากนี้หากท่านใดที่เคยมีอาการลมพิษมาก่อนหน้านี้แล้ว ก็พยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจจะก่อให้เกิดอาการได้อีก ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ยาบางชนิด หรือสิ่งที่จะทำให้คุณเกิดอาการแพ้นะคะ
|
ด้วยรักและห่วงใย/ครูแขก
ขอบคุณที่มาข้อมูลที่นี่ดอทคอม
|
วันที่ 12 มี.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,175 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,154 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,148 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,260 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,148 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,149 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,439 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 19,280 ครั้ง |
เปิดอ่าน 16,661 ครั้ง |
เปิดอ่าน 19,430 ครั้ง |
เปิดอ่าน 16,041 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,062 ครั้ง |
|
|