Advertisement
กรมอนามัยเผย เด็กวัยเรียนอายุ 6-11 ปี ไม่กินอาหารเช้า ร้อยละ 30 โดยเฉพาะนักเรียนหญิง อายุ 12-14 ปี ไม่กินอาหารเช้า ถึงร้อยละ 52 เสี่ยงกระทบต่อการเรียน-สุขภาพ แนะผู้ปกครองให้ความสำคัญกับอาหารเช้าสำหรับลูก ด้วยเมนูง่ายๆ แต่ได้คุณค่าทางโภชนาการครบทั้ง 5 หมู่ และหลากหลาย...
วันที่ 15 พ.ย. 56 ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า อาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด เพราะช่วงระยะเวลาระหว่างอาหารเย็นถึงมื้อเช้า แม้จะเป็นช่วงที่นอนหลับ แต่ร่างกายก็ยังเผาผลาญสารอาหารตามปกติ หากเด็กไม่กินอาหารเช้าจะทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดลดต่ำลง อ่อนเพลีย หงุดหงิด อารมณ์เสีย ไม่มีสมาธิในการเรียน อาจถึงขั้นหน้ามืดเป็นลม และเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระเพาะ ซึ่งจากการสำรวจพฤติกรรมการบริโภคอาหารเช้าของเด็กวัยเรียน พบว่า เด็กวัยเรียนอายุ 6-11 ปี ไม่กินอาหารเช้า ถึงร้อยละ 30 โดยเฉพาะนักเรียนหญิงอายุ 12-14 ปี ไม่กินอาหารเช้า ถึงร้อยละ 52
ทั้งนี้ พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรให้ความสำคัญกับอาหารเช้า ด้วยการเตรียมอาหารเช้าให้กับเด็ก ซึ่งอาหารเช้าที่เหมาะสมควรให้พลังงานประมาณ 400-450 กิโลแคลอรี และต้องครบ 5 หมู่ มีความหลากหลาย เป็นเมนูที่ถูกหลักโภชนาการ ให้โปรตีนสูงและเตรียมง่าย เช่น ข้าวต้มเครื่อง โจ๊ก ข้าวผัด อาหารประเภทซีเรียลผสมนมรสจืด ขนมปังแซนด์วิช ส่วนเมนูข้าวเหนียวหมูปิ้งที่เป็นอาหารเช้าที่หาซื้อได้ง่าย ต้องเลือกหมูปิ้งที่ไม่ติดมัน ไม่ไหม้เกรียมจนเกินไป และควรเพิ่มผักสดเพื่อฝึกให้เด็กกินผักด้วย แนะนำผักที่ไม่มีกลิ่นฉุนและรสขม เช่น ผักกาดขาว กะหล่ำปลี ผักบุ้ง แครอท ที่สำคัญควรเตรียมนมรสจืด 1 กล่อง และผลไม้ประมาณ 1 ผล เช่น กล้วยน้ำว้า ส้ม แอปเปิ้ล ชมพู่ เพื่อให้เด็กได้คุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมและครบถ้วน
อย่างไรก็ตาม ตามหลักโภชนาการที่ถูกต้อง ควรกินอาหารให้ครบ 3 มื้อ โดยเฉพาะมื้อเช้า ซึ่งเป็นมื้อที่สำคัญมาก หากไม่มีเวลาเตรียมอาหารเช้าเอง ควรเพิ่มเวลาเพื่อออกไปเลือกซื้ออาหารเช้าที่เหมาะสมนอกบ้าน เพราะทุกวัย โดยเฉพาะเด็กวัยเรียนเป็นวัยที่ต้องการพลังงานสารอาหารที่ครบถ้วน และหลากหลายให้เพียงพอต่อร่างกาย ควรหลีกเลี่ยงน้ำอัดลม ขนมหวาน ขนมขบเคี้ยว เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8-12 ชั่วโมง สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้สมองพร้อมต่อการเรียนรู้ จดจำ มีสมาธิ พร้อมเริ่มวันใหม่ ตลอดจนทำกิจกรรมการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี.
Credit http://www.thairath.co.th/content/edu/382994
Advertisement
เปิดอ่าน 31,181 ครั้ง เปิดอ่าน 35,190 ครั้ง เปิดอ่าน 25,640 ครั้ง เปิดอ่าน 36,822 ครั้ง เปิดอ่าน 31,924 ครั้ง เปิดอ่าน 14,347 ครั้ง เปิดอ่าน 36,542 ครั้ง เปิดอ่าน 22,969 ครั้ง เปิดอ่าน 21,635 ครั้ง เปิดอ่าน 46,431 ครั้ง เปิดอ่าน 45,121 ครั้ง เปิดอ่าน 33,746 ครั้ง เปิดอ่าน 115,048 ครั้ง เปิดอ่าน 97,147 ครั้ง เปิดอ่าน 14,389 ครั้ง เปิดอ่าน 21,660 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 20,674 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 18,959 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 22,969 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 15,922 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 13,487 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 12,253 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 16,347 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 8,902 ครั้ง |
เปิดอ่าน 25,930 ครั้ง |
เปิดอ่าน 48,780 ครั้ง |
เปิดอ่าน 10,532 ครั้ง |
เปิดอ่าน 10,656 ครั้ง |
|
|