กรมการแพทย์เผย พบผู้ป่วยเบาหวานร้อยละ 20 เป็นโรคเบาหวานเข้าจอประสาทตา แนะควบคุมน้ำตาล ความดันโลหิต ไขมัน ตรวจตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ลดความเสี่ยงตาบอด...
วันที่ 14 พ.ย. 56 นพ.สุพรรณ ศรีธรรมา อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลกและสมาพันธ์เบาหวานนานาชาติ ได้กำหนดให้วันที่ 14 พ.ย.ของทุกปี เป็นวัยเบาหวานโลก ในปีนี้ได้กำหนดประเด็นรณรงค์ ในหัวข้อ "การให้ความรู้และการป้องกันโรคเบาหวาน" สำหรับประเทศไทยปี พ.ศ.2555 พบผู้เสียชีวิตจากโรคเบาหวานทั้งหมด 7,749 คน หรือเฉลี่ยวันละ 22 คน คิดเป็นอัตราตายด้วยโรคเบาหวาน 12.06 คนต่อประชากรแสนคน และมีผู้ป่วยโรคเบาหวานเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 674,826 ครั้ง คิดเป็นอัตราป่วยด้วยโรคเบาหวานเท่ากับ 1,050.05 ต่อประชากรแสนคน เนื่องจากสภาวะความเป็นอยู่และวิถีชีวิตที่ปลี่ยนไป ทำให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
ผู้ป่วยโรคเบาหวานมักพบภาวะแทรกซ้อนตามระบบและอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ได้แก่ หลอดเลือดสมองและหัวใจ ตา ไต และเท้า ดังนั้น การตรวจคัดกรองเพื่อค้นหาและวินิจฉัยภาวะแทรกซ้อนต่างๆ จากโรคเบาหวานจึงเป็นงานที่สำคัญอย่างยิ่ง ในการดูแลผูป่วยโรคเบาหวานตั้งแต่ระยะแรก ก่อนที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง จนเป็นเหตุให้ผู้ป่วยสูญเสียอวัยวะ หรือเสียชีวิต ซึ่งภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญจากโรคเบาหวาน ที่ผู้ป่วยควรจะได้รับการคัดกรอง คือโรคเบาหวานเข้าจอประสาทตา เป็นสาเหตุของการสูญเสียการมองเห็นเป็นอันดับ 2 รองจากต้อกระจก
โดยเฉลี่ยพบว่า โรคเบาหวานเข้าจอประสาทตาเกิดขึ้นประมาณร้อยละ 20 ของผู้ป่วยเบาหวาน ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานมาเป็นระยะเวลา 15 ปี จะพบว่าเป็นโรคเบาหวานเข้าจอประสาทตาได้ถึงร้อยละ 80 โดยผู้ป่วยประมาณร้อยละ 2 มีภาวะตาบอด และร้อยละ 10 เกิดการสูญเสียการมองเห็นขั้นรุนแรง เนื่องจากผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน ทำให้เกิดความผิดปกติของหลอดเลือดในจอตา
"โรคเบาหวานเข้าจอประสาทตาสามารถป้องกันได้ ถ้าวินิจฉัยได้เร็ว ดังนั้น ผู้ป่วยเบาหวานจำเป็นต้องได้รับการตรวจตาเป็นระยะ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือบ่อยกว่านั้น ตามความรุนแรงของภาวะเบาหวานขึ้นจอตา และควรรีบไปพบจักษุแพทย์ทันทีที่มีอาการผิดปกติเกี่ยวกับการมองเห็น ผู้ป่วยจะต้องควบคุมระดับน้ำตาล ความดันโลหิต และไขมันให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด" อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าว.
ขอบคุณที่มาจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ