"อภิชาติ"ย้ำทำตามเกณฑ์และกำหนดการที่ก.ค.ศ.กำหนด คาดเริ่มกระบวนการสอบได้ในเดือนธ.ค.56 เรียกบรรจุก.พ.57 ยืนยันจะพยายามไม่ให้กระทบโรงเรียนเอกชนและมีเวลาหาครูใหม่ทดแทนคนที่สอบได้
วันนี้(4พ.ย.)นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยล็อตใหม่จำนวนกว่า 11,000 อัตรา ซึ่งจะใช้วิธีการคัดเลือก 2 ลักษณะ คือการคัดเลือกโดยการสอบทั่วไปจำนวนประมาณ 7,500 อัตรา และโดยสอบคัดเลือกจากอัตราจ้างพนักงานราชการกรณีพิเศษ หรือเหตุจำเป็น ว 12จำนวนประมาณ 3,500 อัตรา โดยการดำเนินการครั้งนี้จะยึดตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.)ที่กำหนดให้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(อ.ก.ค.ศ.)เขตพื้นที่เป็นผู้ดำเนินการจัดสอบแข่งขันและดำเนินการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อ.ก.ค.ศ.กำหนด ซึ่งในครั้งนี้จะมีการเพิ่มกระบวนการภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง เช่นการประเมินบุคลิกภาพ การประเมินประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน เพื่อประกอบการพิจารณาด้วย
เลขาธิการกพฐ.กล่าวต่อไปว่า การจัดสอบครั้งนี้จะเปิดสอบเฉพาะเขตพื้นที่การศึกษาที่มีตำแหน่งว่างจำนวน 96 เขต โดยเป็นเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.)25 เขตและที่เหลือเป็นเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.)เท่านั้น เพื่อไม่ให้กระทบกับบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในปี 2555 และ2556 ที่มีบัญชีอยู่แล้ว ดังนั้นคนที่สอบแข่งขันได้แล้วก็จะคงสิทธิ์ถึงปี 2557 และปี 2558 ตามลำดับ ซึ่งการจัดสอบครั้งใหม่นี้จะสามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนครูในส่วนที่มีตำแหน่งว่างได้ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามักจะมีปัญหาการขอใช้บัญชีข้ามเขต เนื่องจากบางเขตพื้นที่หวงบัญชี เพราะเกรงว่าเมื่อให้เขตอื่นไปแล้วเวลาจำเป็นจะต้องใช้แล้วจะไม่มี และอีกปัญหาคือผู้สอบแข่งขันเองไม่ค่อยเลือกไปในเขตที่เรียกเสริม แต่จะรอเขตที่สอบได้ ทำให้ไม่มีครูไปสอนนักเรียน
“คาดว่าจะเริ่มต้นกระบวนการจัดสอบในช่วงเดือนธันวาคม 2556 เพื่อให้กระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้นและสามารถเรียกบรรจุได้ในราวปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2557 และให้เริ่มทำงานได้ในเดือนมีนาคมหรือเมษายน 2557 ซึ่งเป็นช่วงปิดภาคเรียนเพื่อจะได้จัดการปฐมนิเทศในช่วงนั้น เพื่อไม่ให้กระทบการเรียนการสอนและคนที่สอบได้จะได้รู้ว่าจะต้องลาออกเมื่อไหร่ ที่สำคัญก็จะไม่กระทบกับโรงเรียนเอกชนด้วย เพราะจะได้มีเวลาเตรียมตัวหาครูใหม่มาทดแทนครูที่สอบบรรจุได้ ทั้งนี้การดำเนินการจัดสอบครูผู้ช่วยครั้งใหม่นี้จะต้องทำตามเกณฑ์และกำหนดการที่ก.ค.ศ.กำหนด จะไม่เร่งรีบ เพราะถ้าเร่งรีบอาจจะเกิดความผิดพลาดได้”นายอภิชาติกล่าว
ที่มา เดลินิวส์ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2556