นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และผู้บริหารฝ่ายการเมือง ประชุมองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 9/2556 เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2556 ระหว่างเวลา 8.30-10.45 น. ณ ห้องประชุมจันทรเกษม โดยได้มีการหารือถึงแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงศึกษาธิการสู่การปฏิบัติ ในประเด็นสำคัญต่างๆ ดังนี้
• เรื่องที่ รมว.ศธ.แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบ
1) ให้พิจารณาตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนเรื่องสำคัญต่างๆ 3 เรื่อง คือ การสอนภาษาต่างประเทศ สถาบันวิจัยหลักสูตร และคณะกรรมการเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์จากการทดสอบ PISA เพื่อให้คณะทำงานได้หารือและวางแผนดำเนินงานด้านต่างๆ เช่น ยกร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการ หรือจัด Workshop ฯลฯ
2) การจัดนิทรรศการให้มีความน่าสนใจ จากการที่ได้มีโอกาสเยี่ยมชมนิทรรศการต่างๆ ทั้งของรัฐ เอกชน สถานศึกษา และหน่วยงานต่างๆ ทำให้เห็นว่า ศธ.ควรมีรูปแบบการจัดนิทรรศการที่น่าสนใจ มีคนเข้ามาเยี่ยมชมจำนวนมาก ไม่ใช่จัดในลักษณะไม่มีใครดูใคร จึงมอบ สป. เชิญผู้แทนแต่ละองค์กรหลักตั้งทีมงานเพื่อหารือและเชิญผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญมาช่วยวางแผน หรือจัดการอบรม แนะนำความรู้ แนวคิดใหม่ๆ ในการจัดนิทรรศการให้มีความน่าสนใจ โดยเฉพาะสาขาหรือคณะในมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่มีองค์ความรู้เรื่องนี้ เช่น คณะศิลปศาสตร์ เป็นต้น
--------------------------------------------------------------------------------
• โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่นที่ 4 รอบสอง
ดร.สุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวในที่ประชุมว่า จากการไปตรวจเยี่ยมสนามสอบเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2556 ได้รับทราบข้อมูลจากคณะกรรมการโครงการฯ ว่า ได้ดำเนินการจัดสอบพร้อมกัน 77 สนามสอบทั่วประเทศใน 75 จังหวัด มีจำนวนนักเรียนที่เข้าสอบ 15,801 คน เพื่อคัดเลือกเพิ่มเติมในรอบสองอีกจำนวน 1,759 ทุน หลังจากที่รอบแรกมีผู้ผ่านการสอบคัดเลือกมาแล้ว 98 ทุน
รมว.ศธ.ได้ฝากให้มีการสรุปบทเรียนโครงการดังกล่าว เช่น การเตรียมตัวก่อนเดินทางไปศึกษา การส่งเสริมให้ผู้ที่มีฐานะไม่ค่อยดีให้ได้รับทุน รวมทั้งการพิจารณาสนับสนุนให้ผู้เรียนสายอาชีวศึกษาได้เข้าร่วมโครงการ ซึ่งข้อสอบที่สอบคัดเลือกเด็กกลุ่มนี้ ก็ควรจะต้องมีความแตกต่างกัน
--------------------------------------------------------------------------------
• การขับเคลื่อนนโยบาย ศธ.สู่การปฏิบัติ (ประเด็นการวางแผนปฏิรูประบบการผลิตและพัฒนาครู การย้าย การประเมินวิทยฐานะ และการแก้ปัญหาการขาดแคลนอัตรากำลังครู)
สำนักงาน ก.ค.ศ. ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบในประเด็นการวางแผนปฏิรูประบบการผลิตและพัฒนาครู การย้าย วิทยฐานะ และการแก้ปัญหาการขาดแคลนอัตรากำลังครู โดยเฉพาะระบบการย้ายและประเมินวิทยฐานะครู/ผู้บริหาร ซึ่งจะเน้นไปที่ผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนเป็นหลัก ส่วนอัตราเกษียณ ศธ.ในช่วง 5 ปีข้างหน้ากว่า 2 แสนอัตรานั้น สำนักงาน ก.ค.ศ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังปรับปรุงเกณฑ์อัตรากำลัง และดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพครูที่มีอัตราขาดแคลน
รมว.ศธ.กล่าวว่า การทำงานในเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องใหญ่มาก และหลายเรื่องจะต้องโยงกับหลายหน่วยงาน ซึ่งอาจจะต้องพบปัญหาแนวทางที่จะดำเนินการร่วมกันหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงควรพิจารณาเรื่องที่มีความซับซ้อนเหล่านี้ โดยต้องตั้งโจทย์ให้ได้ และหารือให้มีความชัดเจนเสียก่อน จึงขอให้ รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เป็นเจ้าภาพตั้งคณะทำงานเพื่อวางระบบการทำงานให้เชื่อมโยงกับหน่วยงานต่างๆ ในการผลิตและพัฒนาครู โดยเฉพาะการจัดระบบความต้องการอัตรากำลังครูในสาขาต่างๆ ที่จะผลิตและพัฒนาในอนาคตให้ชัดเจน ซึ่งจะเป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนและพิจารณาการขออัตรากำลังต่อไป
--------------------------------------------------------------------------------
• การสรุปปัญหาบุคลากร งบประมาณ และข้อร้องเรียนที่เกี่ยวข้องของ ศธ.
ที่ประชุมได้รับทราบรายงานสรุปข้อมูลปัญหาและความคืบหน้าในการดำเนินการด้านบุคลากร งบประมาณ และข้อร้องเรียนต่างๆ ของ ศธ. คือ
- เรื่องที่เสนอไว้เดิม เช่น เงินอุดหนุนรายหัว สช., การปรับค่าใช้จ่ายรายหัว กศน., การขออัตรากำลังเพิ่มใหม่ในมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์, การขอปรับปรุงอัตราเงินเดือน 8% ของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา, เงินสมทบกองทุนสงเคราะห์โรงเรียนเอกชน
- เรื่องที่เสนอเข้ามาใหม่ เช่น การจ้างลูกจ้างชั่วคราว สอศ., การพัฒนาคุณภาพการศึกษาชายแดนภาคใต้, การขอรับงบประมาณฟื้นฟูเยียวยาโรงเรียนเอกชนที่ประสบเหตุอุทกภัย, การปรับเงินเดือนครูเอกชน
- เรื่องที่ดำเนินการแก้ไขในเบื้องต้นแล้ว เช่น เงินวิทยฐานะครู สพฐ.. การจ้างเหมาลูกจ้างชั่วคราวและจ้างเหมาบริการ สพฐ., การปรับเงินเพิ่มตามคุณวุฒิให้กับพนักงานมหาวิทยาลัย, การพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา 52 แห่ง, โครงการพัฒนาศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ของสถาบันอุดมศึกษา, เงินประจำตำแหน่งในสถาบันอุดมศึกษาในสายงานจิตวิทยาคลินิก, ร่างกฎ ก.พ.อ.ว่าด้วยการสั่งให้ออกจากราชการฯ, การจ้างเหมาบริการลูกจ้างชั่วคราวของ สป./สำนักงาน กศน./สำนักงานรัฐมนตรี
รมว.ศธ.ขอให้แบ่งหมวดหมู่และรวบรวมประเด็นปัญหาต่างๆ ให้ครบถ้วน ให้เห็นข้อมูลเปรียบเทียบ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาถึงความจำเป็นในแต่ละเรื่อง รวมทั้งผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับหน่วยงานและกระทรวงต่างๆ ส่วนเรื่องร้องเรียนต่างๆ ที่เข้ามายัง ศธ. นั้น ขอให้เอาภาพต่างๆ มาซ้อนกัน เพื่อจะได้เห็นชัดๆ ว่า ศธ.ได้ดูแลหรือยังในเรื่องที่ต้องดูแล หรือแก้ปัญหาการร้องเรียนไปได้แล้วมากน้อยอย่างไร
--------------------------------------------------------------------------------
• ความคืบหน้าแผนการศึกษาเพื่อพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต ด้านการบริหารและการจัดการศึกษา
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าในการจัดทำรายละเอียดแผนการศึกษาเพื่อพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต ด้านการบริหารและการจัดการศึกษา ที่จะดำเนินการในแต่ละช่วงอายุ
รมว.ศธ.ขอให้เปรียบเทียบโครงสร้างหรือหัวข้อเรื่องกับต่างประเทศ เพื่อดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้มีการดูแลคนไทยตั้งแต่เกิดจนถึงช่วงชีวิต ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง ในส่วนของ ศธ.ที่ดูแลการบริหารและการจัดการศึกษาตลอดชีวิต (Life Long Learning) จะต้องมาพิจารณาถึงโปรแกรม การบริการ หรือแนวทางจัดการศึกษาในแต่ละช่วงวัย และโจทย์ด้านการศึกษาจะต้องนำไปรวมกับส่วนอื่นๆ ด้วย พร้อมทั้งขอให้รับข้อคิดเห็นจากที่ประชุมไปพิจารณาดำเนินการด้วย เช่น ปลัด ศธ.ได้มีความเห็นว่าแต่ละช่วงวัยจะเน้นอะไร, เลขาธิการ กกอ.เสนอขอให้ทำเป็น Project Based, ดร.ชัยพัฒน์ สหัสกุล ที่ปรึกษา รมว.ศธ.ได้เสนอให้มีการดูแลคนตั้งแต่ช่วงตั้งท้อง หรือเด็กที่จบออกจากการศึกษาในระบบไปแล้ว ศธ.จะดูแลจัดการศึกษาต่อเนื่องตลอดชีวิตได้อย่างไร เป็นต้น
--------------------------------------------------------------------------------
• การปฏิรูปหลักสูตร
รมว.ศธ.ได้ขอให้แต่ละองค์กรหลักฝากช่วยคิดการปฏิรูปหลักสูตร ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องพยายามผลักดันให้เกิดผลสำเร็จ ซึ่งอาจเชิญให้คณะบุคคลหรือหน่วยงานต่างๆ ที่เป็นผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholder) ที่สำคัญๆ ได้เข้ามาร่วมดำเนินการปฏิรูปหลักสูตรให้มากขึ้น เช่น คณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในสถาบันอุดมศึกษา เป็นต้น
ที่มา ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ