......เหยียบเกาะเต่า เกาะสวรรค์........
นักศึกษาปริญญาโทมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา สถานีบริการสารสนเทศทางวิชาการ โรงเรียนสอาดเผดิมวิทยา รุ่นที่ ๖ /๒๕๕๒ ไปสัมมนาวิชาภาษาอังกฤษที่เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ ๒๐-๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
.....เกาะเต่า เกาะสวรรค์ .... กลางทะเลอ่าวไทย
เกาะเต่า สถานที่ท่องเที่ยว และ แหล่งดำน้ำ ที่ สวยงาม แห่ง ท้องทะเล อ่าวไทย ที่เป็นที่รู้จักของ นักท่องเที่ยว ชาวไทย เมื่อไม่กี่ปีนี้เอง แต่สำหรับ นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศแล้ว ชื่อของ เกาะเต่า กล่าวได้ว่าเป็น สวรรค์ของการ ดำน้ำ ที่ นักดำน้ำ ทั่วโลกรู้จักดีในความงดงาม และความมีสีสันของ โลกใต้ทะเล ที่ไม่แพ้ที่แห่งใดในโลก เกาะเต่า ประกอบด้วยเกาะสำคัญ ๒ เกาะ คือ เกาะเต่า และ เกาะนางยวน พื้นที่เกือบทั้งหมดเป็น ภูเขา มีพื้นที่ราบอยู่เพียง ๓๐% ของตัวเกาะ ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด ๑๗.๙๖ ตารางกิโลเมตร หรือ ๑๒,๒๒๕ ไร่ กว้าง ๓.๔ กิโลเมตร ยาว ๗.๖ กิโลเมตร มีด้วยกัน 3 หมู่บ้าน คือ บ้านหาดทรายรี บ้านแม่หาด และ บ้านโฉลก บ้านเก่า และด้วยระยะห่างจาก ปากน้ำชุมพร ๘๕ กิโลเมตร ห่างจาก อ่าวบ้านดอน สุราษฎร์ธานี ๑๒๐ กิโลเมตร และห่าง เกาะ พะงัน ซึ่งถือเป็น เกาะ ที่อยู่ใกล้ที่สุด ๔๕ กิโลเมตร นั่นก็ทำให้ เกาะเต่า กลายเป็น เกาะกลาง ทะเลหลวง ที่ค่อนข้างจะโดดเดี่ยวโดยแท้ รู้จักกับเกาะเต่าโดยละเอียด
วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ เวลา ๑๓.๓๐ น. นักศึกษาทุกคน ประกอบด้วยสาขา หลักสูตรและการสอน สาขา รปม. สาขาบริหารหารศึกษา และสาขา MBA ประมาณ ๘๐ คนพร้อมที่ท่าเรือองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร ตำบลท่ายาง ลงเรือออกเดินทางเวลา ๑๔. ๑๕ น. เรือที่จะเดินทางเป็นเรือตรวจราชการของกรมประมง มีห้องทำงานไม่มีเก้าอี้ให้นั่งต้องนั่งกับพื้นซึ่งนั่งได้ ประมาณ ๔๐ คน อีกประมาณ ๔๐ คนนั่งบนดาดฟ้าและด้านท้ายเรือแต่มีหลังคากันแดดกันฝนเอกหลักสูตรและการสอนเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ จำนวน ๙ คน อยู่ในห้องพัก ๔ คนและนั่งท้ายเรือ ๕ คน ก่อนลงเรือพวกเราได้ทานยาแก้เมาเรือ ระหว่างที่เรือแล่นออกทะเลปากน้ำชุมพร จะเห็นสภาพชีวิตสองฝั่งแม่น้ำ สักพักเราจะง่วงมากนั่งหลับ ซึ่งเป็นเพราะฤทธิ์ยา หลับไปสักพักตกใจตื่นเพราะเรือผิดปกติ มองด้านข้างเรือที่โดยสารจะเห็นเรือเทียบติดอยู่กับเรือประมง ๒ ลำ เขากำลังลำเลียงปลา มีปลาโอและปลาทูน่า ซึ่งจะนำไปปรุงอาหารเลี้ยงกันคืนนี้ ดูนาฬิกาเวลา ๑๖ นาฬิกา ประธานรุ่นบอกว่าประมาณ ๑๗ นาฬิกาจะถึงเกาะเต่า จึงนั่งชมทะเล วันนี้ท้องทะเลสวย แต่ทะเลก็ไม่น่าไว้ใจมากนักดังคำกล่าวที่มีว่า “คืบก็ทะเล ศอกก็ทะเล” นั่งเรือประมาณ ๓ ชั่วโมงก็ถึงที่หมาย
๑๗.๑๕ น. เรือถึงท่าเทียบเรือของประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี นาทีนี้ได้เหยียบเกาะเต่า เกาะสวรรค์ของนักท่องเที่ยว นักศึกษาพักใบเรือนพักของประมงจังหวัด แต่สภาพแย่มากพักห้องละ ๕ คน สภาพเหมือนนักเรียนไปอยู่ค่ายพักแรม จึงตัดสินใจกับเพื่อนไปพักที่บังกะโลซึ่งอยู่ติดกับทะเล ชื่อ “ Ocean View Bungalows” คืนละ ๒,๐๐๐ บาท สองคนก็คนละ ๑,๐๐๐ บาท พักสองคืน เราก็ตกลงพักที่นี่ สบายกว่าที่ไปนอนในสภาพเรือนพักอย่างนั้น เก็บของเข้าที่พักแล้ว ประมาณ ๑๘.๐๐ น. อาจารย์เรียกประชุมเพื่อตกลงเรื่องงานที่จะต้องทำในวันพรุ่งนี้ จากนั้นมีการรับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งทางสาขา รปม.เป็นผู้ประสานและดำเนินการในเรื่องนี้ งานสังสรรค์เริ่มแล้ว มีการร้องเพลงกันสนุกสนาน แต่เราไม่ได้อยู่ร่วมรับประทานอาหารเสร็จแล้วกลับที่พักเพื่อพักผ่อน
วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ ตื่นเช้าดูทะเลยามเช้า เพราะห้องพักในบังกะโลที่พักอยู่ติดทะเลซึ่งห้องพักนี้ราคาสูงมาก คืนละ ๒,๐๐๐ บาท แต่ต้องทำใจว่าที่นี่เป็นเมืองท่องเที่ยว เพื่อความสุข ความสะดวกสบาย ก็เต็มใจที่จะใช้บริการนี้ ห้องพักนี้พัก ๒ คน ได้พักร่วมกับคุณครูบุษบา แสนล้ำ ครูโรงเรียนศรียาภัย เช้านี้ไม่มีโอกาสเห็นดวงอาทิตย์ยามเช้า เพราะเป็นฝั่งตะวันตกของทะเล ๐๗.๓๐ น. ลงไปทานอาหารเช้าตามที่ห้องครัวของประมงจัดเตรียมให้ มีข้าวต้มเครื่องปลาหมึก กาแฟ และโอวัลติน เลือกที่จะทานอะไรก็ได้ตามความพอใจ เลือกทานข้าวต้มและกาแฟเสร็จเรียบร้อย กลุ่มที่ได้รับมอบหมายจากอาจารย์ให้ไปสัมภาษณ์ฝรั่งตามหัวข้อที่อาจารย์กำหนดเน้นในเรื่องความคิดเห็นและทัศนะการมาท่องเที่ยวของชาวต่างประเทศ กลุ่มหลักสูตรและการสอนออกไปสัมภาษณ์ฝรั่ง ๒ – ๓ คน สรุปว่าชาวต่างประเทศที่มาที่นี่มีความคาดหวังในเรื่องของธรรมชาติ การมาดำน้ำชมปะการัง และมีความคิดเห็นว่าไม่ควรสร้างโรงแรมใหญ่ ๆ บนเกาะนี้เขาชอบมีบังกะโลเล็ก ๆ หรือรีสอร์ทเท่านั้น เพราะต้องการอนุรักษ์ธรรมชาติของเกาะนี้ไว้ให้มากที่สุด จุดประสงค์ของชาวต่างชาติที่มาที่เกาะเต่านี้ เพื่อเรียนดำน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่แปลกมากโรงเรียนสอนดำน้ำทั้งหมดเป็นของชาวต่างชาติเข้ามาดำเนินการตามความต้องการของพวกเขา สิ่งเหล่านี้คนไทยน่าจะคิดนะว่าอีกไม่นานชาวต่างชาติคงจะยึดครองธุรกิจประเภทนี้ไว้ทั้งหมด ซึ่งในความเป็นจริงน่าจะเป็นของคนไทยเป็นผู้ดำเนินการเอง เสร็จภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายจากอาจารย์ เตรียมตัวไปดำน้ำดูปะการัง และไปเกาะนางยวน
๑๐.๐๐ น. คณะลงเรือไปเกาะนางยวน ธรรมชาติตลอดทางสวยงามมาก ผ่านภูเขาหินซึ่งชาวเรือเรียก “ดาโต๊ะ” เป็นภูเขาหินรูปร่างแปลกดี สักพักหนึ่งเรือก็มาลอยตัวบริเวณอ่าวลึก เพื่อดำน้ำดูปลาสวยงามและดูปะการัง ต้องยอมรับว่าสวยมาก สวยจนหลงใหลในธรรมชาติ น้ำใสแจ๋วมองเห็นปลาตัวสวย ๆ นักศึกษาที่ไปลงไปดำน้ำดูปะการังและปลาสวยงาม “โดยใช้อุปกรณ์ในการดำน้ำ และเสื้อชูชีพ” ผู้ดูแลนักศึกษาในเรื่องนี้บอกว่าว่ายน้ำไม่เป็นก็ลงไปดำได้ เพราะสวมเสื้อ ชูชีพ คณะเอกหลักสูตรและการสอนไม่มีใครลงไปทุกคนกลัวทะเลไม่มีความมั่นใจ นั่งมอง เฉย ๆ เท่านั้น การดำน้ำดูปะการังประเภทนี้เขาเรียกว่าดำผิวน้ำ skin diving ทุกคนทานอาหารกล่องบนเรือ เรือที่จอดนี้ไม่มีการทอดสมอเป็นการลอยทุ่นไว้เท่านั้นเพื่อเป็นการรักษาธรรมชาติเพราะการทอดสมอเรือเป็นการทำลายแนวปะการัง จึงทำให้เรือโคลงเคลงหลาย ๆ คนมีอาการเมาเรือต้องอาศัยมะม่วงดิบที่อาจารย์เอาลงเรือไปด้วย และกินยาแก้เมาเรือช่วยบรรเทา หลาย ๆ คนที่มีอาการได้หลับสักพักอาการก็ดีขึ้น
13.45 น. เรือเทียบท่าที่เกาะนางยวน เกาะนางยวนสวยงามและคงสภาพของธรรมชาติมาก ก่อนขึ้นเกาะนางยวนต้องเสียค่าผ่านทาง ๓๐ บาท เงินจำนวนนี้เก็บไปเพื่อการดูแลรักษาและอนุรักษ์ธรรมชาติของเกาะนางยวน บนเกาะนี้มีจุดชมวิวต้องปีนเขาขึ้นไป (มีบันไดให้ปีน) แต่ไม่ได้ขึ้นไปเพราะเหนื่อยและอากาศร้อนมาก เดินชมรอบ ๆ เกาะ บนเกาะนี้มีคนไทยน้อยกว่าฝรั่ง หิวน้ำแวะดื่มน้ำเป็นน้ำแตงโม ครูบุษบา แสนล้ำดื่มน้ำมะนาว น้ำผลไม่นี้แก้วละ ๑๐๐ บาท ไม่ปั่น ถ้าปั่นแก้วละ ๑๒๐ บาท ซื้อมันฝรั่งเลย์ ชนิดถุงละ ๕ บาท ที่นี่ราคา ๑๕ บาท และสั่งน้ำสิงห์ ๑ ขวด ราคา ๓๐ บาท ที่นี่เป็นเมืองท่องเที่ยวและค่าขนส่งแพงมาก น่าเห็นใจ สิ่งที่ชื่นชมการรักษาสิ่งแวดล้อมบนเกาะนี้ ไม่มีการใช้ถุงพลาสติกบรรจุอาหารทุกประเภท มีที่ทิ้งขยะโดยการแยกขยะ ห้องน้ำสะอาดและสวยงามสร้างเป็นธรรมชาติบนเนินเขาสูง ไม่เก็บเงินค่าบริการ เมื่อทุกคนลงจากการปีนเขาแล้ว ก็ลงเรือกลับบริเวณที่พักบนเกาะเต่า อาจารย์ให้พักผ่อนเพื่อเตรียมนำเสนองานที่ได้รับมอบหมายให้ไปทำในช่วงเช้า ประมาณ ๑๘ นาฬิกาทุกคนมาพร้อมเพื่อทานอาหารและนำเสนองาน ทุกกลุ่มส่งตัวแทนนำเสนองาน หลังจากนั้นทานอาหารร่วมกันและร่วมกิจกรรมบันเทิง ๒๑.๓๐ น.กลับโรงแรมพักผ่อนเพราะเหนื่อยมาทั้งวัน บริเวณชายหาดหน้าบังกะโลที่พัก และตลอดแนวชายหาดฝรั่งจัด party มีดนตรี แสงไฟสวยงามและจุดพลุสวยงาม งานเลิกประมาณ ๕ นาฬิกาของวันใหม่
วันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ วันนี้ตื่นตามสบายเพราะไม่มีโปรแกรมออกไปไหน มีแต่สาขา รปม.ไปเกาะนางยวนเพราะเมื่อวานไม่ได้ไปเรือเต็ม ทานอาหารเช้าข้าวต้มนิดหน่อยและกาแฟ หลังจากนั้นชวนเพื่อนไปเดินชมบริเวณย่านชุมชนของเกาะเต่า ถนนแคบมากเพราะการก่อสร้างจะสูง เดินต้องระวังมอเตอร์ไซต์ ย่านนี้จะมีที่พักประเภท รีสอร์ท คงสภาพธรรมชาติชอบรีสอร์ทที่สร้างแบบสวนหิน และมีมากที่สุดร้านอินเทอร์เน็ต โรงเรียนสอนดำน้ำ นวดแผนไทย การสัก สถานพยาบาล และมีมอเตอร์ไซต์ให้เช่าเพื่อขับเที่ยวรอบเกาะ แต่ที่หาไม่ได้คือของฝากที่เป็นของที่ระลึกที่เกาะเต่า ไม่มี น่าเสียดายเพราะตั้งใจจะซื้อมาฝากเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน มีของประเภทที่มีขายในท้องตลาดทั่วไป ไม่ใช่ของที่นำกลับมาฝากใคร ๆ ได้
เที่ยงทานอาหารกลางวันแล้ว เวลา ๑๒.๔๕ น. ลงเรือตรวจราชการของกรมประมง กลับชุมพร ๑๕.๐๐ น. เหยียบแผ่นดินใหญ่ ณ ท่าเทียบเรือ อ.บ.จ.ชุมพร ตำบลท่ายาง
โอกาสนี้ขอเป็นตัวแทนนักศีกษามหาวิทยาลัยราชภัฐบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ขอบพระคุณท่านอาจารย์ทองเอม สุ่นศิริ ที่ได้ริเริ่มโครงการนี้ขึ้นมา ทำให้นักศึกษาได้มีโอกาสไปเหยียบ เกาะเต่า สวรรค์ในเมืองไทย ซึ่งคงจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตนี้ และขอบคุณ ด.ต.สินธา ชัยพันธ์ นายกนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา และคุณทวีศักดิ์ สุทธานินทร์ นักศึกษา รปม.รุ่น ๕ ที่ให้การสนับสนุนทำให้โครงนี้บรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการ นักศึกษาทุกคนได้เหยียบเกาะเต่า เกาะสวรรค์
คลิก! ไปทะเลกันดีกว่า