บัณฑิตครู ความรู้ไม่แน่น จริงหรือไม่? อย่างไร ?
ประธาน ส.ค.ศ.ท. มีคำตอบ....
ข้อเท็จจริง กรณี คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
1. จำนวนหน่วยกิต
ผู้เรียนครุศาสตร์ปัจจุบันเรียน 5 ปี รวมหน่วยกิต 173 หน่วยกิต แยกเป็น วิชาศึกษาทั่วไป 33 หน่วยกิต วิชาเลือกเสรี 6 หน่วยกิต วิชาชีพครู 50 หน่วยกิต (ฝึกปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 1 ปีการศึกษา) และวิชาเอก 84 หน่วยกิต (ในจำนวนนี้เป็นการสอนวิชาเอกอยู่ 10 หน่วยกิต)
ส่วนผู้เรียนคณะอื่น ๆ เรียน 4 ปี รวมหน่วยกิต 123 หน่วยกิตแยกเป็น วิชาศึกษาทั่วไป 33 หน่วยกิต วิชาเลือกเสรี 6 หน่วยกิต และวิชาเอก 84 หน่วยกิต
จะเห็นว่าผู้เรียนครุศาสตร์ จะเรียนวิชาเอกเดียวกันแต่น้อยกว่าเพียง 10 หน่วยกิต (ประมาณ 3-4 วิชา) ทั้งนี้จะเป็นการตัดรายวิชาที่ไม่มีความจำเป็นและเนื้อหาไม่ได้บรรจุในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
2. ผู้สอน
กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศมาตรฐานคุณวุฒิระดับปริญญาตรี สาขาครุศาสตร์และสาขาศึกษาศาสตร์ (หลักสูตรห้าปี) (มคอ.1 หรือ TQF 1) มีข้อกำหนดว่า
๑.* รายวิชาในวิชาชีพครู จะต้องครอบคลุมผลการเรียนรู้ไม่น้อยกว่าที่คุรุสภากําหนดและสอนโดย คณาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญทางการสอน หรือมีคุณวุฒิการศึกษาทางการสอนในคณะเจ้าของวิชานั้น
๒.** การจัดการเรียนการสอนวิชาเอกเดี่ยวที่เตรียมผู้จะไปเป็นครูระดับมัธยมศึกษาตอนต้น/ตอนปลาย: ต้องกําหนดให้ชัดเจนว่า นักศึกษาจะต้องเรียนวิชาเอกจากคณะที่เปิดสอนสาขาวิชาหลักนั้น หรือสอนโดย คณาจารย์ที่มีคุณวุฒิ “ปริญญาเอก” หรือดํารงตําแหน่งไม่ต่ํากว่า “รองศาสตราจารย์” ในสาขาวิชาหลักและมี ผลงานวิชาการเป็นที่ประจักษ์อย่างต่อเนื่องในสาขาวิชาหลักนั้น ทั้งนี้ เพื่อให้มีการเรียนรู้เนื้อหาสาระที่เข้มข้น อยู่ในสิ่งแวดล้อม/บรรยากาศที่มีลักษณะและธรรมชาติที่เป็นพลวัต ทําให้ผู้เรียนเกิดการรับรู้การเปลี่ยนแปลง ของศาสตร์ในวิชาเอกนั้นได้อย่างรวดเร็วสามารถปรับตัวเกิดจิตใฝ่รู้(inquiry mind) สามารถคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา ติดตามความก้าวหน้าของศาสตร์นั้นได้ และเกิดความคิดสร้างสรรค์
ทั้งน้ี จะต้องไม่ใช้งบประมาณเพื่อสร้างห้องปฏิบัติการและการจัดหาคณาจารย์ที่มีคุณวุฒิ “ปริญญาเอก” หรือดํารงตําแหน่ง “รองศาสตราจารย์” ในสาขาวิชาเอกดังกล่าวเพิ่มในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ เพื่อมิให้ เกิดความซ้ําซ้อนกับคณะสาขาวิชาหลักนั้นๆ
๓.*** ผลการเรียนรู้ในวิชาเอกเดี่ยว หากมีประกาศกระทรวงศึกษาธิการกําหนดมาตรฐานคุณวุฒิใน สาขาวิชานั้นเป็นการเฉพาะ จะต้องครอบคลุมไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของผลการเรียนรู้ในหมวดวิชาเฉพาะด้าน ของสาขาวิชานั้น
๔.**** ผลการเรียนรู้ในวิชาเอกคู่แต่ละวิชาเอก หากมีประกาศกระทรวงศึกษาธิการกําหนดมาตรฐาน คุณวุฒิในสาขาวิชานั้นเป็นการเฉพาะ จะต้องครอบคลุมไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕๐ ของผลการเรียนรู้ในหมวดวิชา เฉพาะด้านของสาขาวิชานั้น
จากข้อกำหนดข้างต้น ผู้เรียนครุศาสตร์ศึกษาศาสตร์จะต้องไปเรียนกับอาจารย์และในห้องปฏิบัติการในคณะหลักเจ้าของศาสตร์นั้น ๆ ซึ่งเป็นผู้สอนกลุ่มเดียวกันกับผู้เรียนในคณะนั้น
3. ผู้เรียน
นับแต่ปีการศึกษา 2552 เป็นต้นมา มีนักเรียนให้ความสนใจเรียนครูมากขึ้นมีสัดส่วนผู้สมัครต่อการรับเข้าเรียนมีจำนวนสูงมากไม่ว่าจะเป็น คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาวิทยาลัยราชมงคล เมื่อพิจารณาคะแนนจากระบบการคัดเลือกกลาง(แอดมิชชันกลาง) ผู้เข้าเรียนจะมีคะแนนสูงกว่าคณะวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยเดียวกันอย่างลิบลิ่ว และสำหรับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้วผู้เข้าเรียนมีคะแนนใกล้เคียงกับคณะวิศกรรมศาสตร์ ส่วนมหาวิทยาลัยอื่น ๆ คณะวิศวกรรมศาสตร์มีคะแนนต่ำกว่าอย่างชัดเจน ส่วนคณะวิทยาศาสตร์มีคะแนนต่ำและห่างไกลลงไปอีกมาก ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าผู้เข้าเรียนในคณะครุศาสตร์ศึกษาศาสตร์ เป็นผู้มีระดับคะแนนสูงกว่าคณะวิทยาศาสตร์และคณะอื่น ๆ ยกเว้นเพียงสาขาทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพเท่านั้นที่ยังคงมีคะแนนสูงกว่าผู้เข้าเรียนครู
ถ้าจะลงสรุปว่าผู้เรียนครูมีความรู้ไม่แน่น จะเป็นเพราะเรียนวิชาเอกน้อยกว่าประมาณ 10 หน่วยกิต เท่านั้น แต่ยังเชื่อว่ารายวิชาทั้ง 10 หน่วยกิตนั้นอาจเกินความจำเป็นสำหรับเนื้อหาที่จะนำไปใช้สอนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในขณะที่ใช้ผู้สอนและห้องปฏิบัติการเดียวกัน แม้ว่าผู้เรียนจะเป็นคนเก่งกว่าผู้เข้าเรียนคณะอื่น ๆ
ทางออกของคณะครุศาสตร์ศึกษาศาสตร์ สามารถทำได้ง่าย ๆ คือ จัดให้ผู้เรียนเรียนวิชาเอกเพิ่มอีก 10 หน่วยกิต ให้เท่ากับนักศึกษาคณะอื่นได้เรียนในหลักสูตร 4 ปี จะทำให้มีความรู้แน่น หากเพิ่มแล้วความรู้ยังไม่แน่นอีก คงต้องโทษผู้สอนที่มีอคติลำเอียงเท่านั้นแล........
หวังว่า ศาสตราจารย์ ที่มีวันนี้ได้เพราะมีครูที่จบครุศาสตร์ศึกษาศาสตร์ น่าจะเข้าใจได้หากปราศจากอคติลำเอียง
ขอบพระคุณข้อมูลจากท่าน ผศ.ดร.สุรวาท ทองบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• ชี้เด็กครุศาสตร์ความรู้ไม่แน่น
http://www.kroobannok.com/61544