ผลการประชุม ก.ค.ศ.ครั้งที่ 8/2556 เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2556

นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 8/2556 เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2556 เวลา 16.30-19.30 น. ที่ห้องประชุมราชวัลลภ โดยมีประเด็นสำคัญสรุปดังนี้

►การปรับหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา/มัธยมศึกษา

จากกรณีที่มีเรื่องคาคาซังมาตั้งแต่ปี 2553 ที่มีเส้นแบ่งระหว่าง สพป.และ สพม.โดยมีการยื่นฟ้องศาลปกครองพิษณุโลก เพื่อขอให้ทุเลาการดำเนินการรับสมัคร ผอ.สพม.จำนวน 23 ตำแหน่ง และขอให้เพิกถอนประกาศคณะกรรมการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพม.เนื่องจากกลุ่มรอง ผอ.สพป. จำนวน 1,941 คน ไม่มีสิทธิ์สมัคร โดยศาลปกครองพิษณุโลกได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2556 ว่าหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพป./สพม. รวมทั้งมติ ก.ค.ศ.ครั้งที่ 10 และ 11/2553 ที่กำหนดเทียบประสบการณ์การปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารมัธยมศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี ตามมาตรฐานตำแหน่งนั้น เป็นคำสั่งทางปกครองทั่วไปที่ชอบด้วยกฎหมาย

แต่ในส่วนของศาลปกครองกลาง ยังไม่ได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ ที่ 1948/2553 ลงวันที่ 16 ธันวาคม 2553 ที่มีผู้ร้องขอให้ศาลเพิกถอนมติ ก.ค.ศ. แม้ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งยกคำขอที่ขอให้ศาลมีคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาของศาลปกครอง เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2554 ดังนั้นหากจะมีการสรรหาฯ ทาง อ.ก.ค.ศ.วิสามัญฯ ระบบ ก็เห็นว่าควรจะดำเนินการขออนุญาตต่อศาลปกครองกลาง

มติที่ประชุม  ให้สำนักงาน ก.ค.ศ.หารือไปยังศาลปกครองกลาง ในกรณีที่ต้องมีการดำเนินการคัดเลือกระหว่างที่ยังไม่มีคำพิพากษาว่า สามารถกระทำได้หรือไม่อย่างไร เพื่อแก้ไขปัญหาการบริหารงานบุคคลของเขตพื้นที่การศึกษาที่ขาดผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามาเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว และในระหว่างนี้ก็ให้สำนักงาน ก.ค.ศ.จัดทำร่างหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกฯ โดยนำหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กำหนด รวมทั้งข้อคิดเห็นของคณะกรรมการใน ก.ค.ศ. มาพิจารณายกร่าง และนำเสนอที่ประชุม ก.ค.ศ.พืจารณาในครั้งต่อไป

► รับทราบการกำหนดกรอบอัตรากำลังตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค.(2) ใน สพป./สพม. รวมถึงการกำหนดตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ สายงานทรัพยากรบุคคล

ที่ประชุมรับทราบ  การกำหนดกรอบอัตรากำลัง ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค.(2) ใน สพป./สพม. ซึ่ง อ.ก.ค.ศ.วิสามัญระบบฯ เห็นชอบเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2556 จำนวน 14,300 ตำแหน่ง โดยมีอัตรากำลังเพิ่มจากกรอบอัตราปัจจุบันจำนวน 1,221 ตำแหน่ง

ในส่วนของกรอบอัตรากำลังใหม่นี้ ได้กำหนดตำแหน่งประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญ เพิ่มเติมในสายงาน “ทรัพยากรบุคคล” ทำให้ปัจจุบันในเขตพื้นที่การศึกษามีระดับ “เชี่ยวชาญ” เพิ่มจากเดิม 3 สายงาน เป็น 4 สายงาน คือ 1) สายงานนิติการ 2) สายงานวิชาการศึกษา 3) สายงานวิเคราะห์นโยบายและแผน 4) สายงานทรัพยากรบุคคล ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าของการเติบโตของบุคลากรในเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ

►รับทราบหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา (ผอ./รอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา)

สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

1) การย้ายผู้บริหารการศึกษา มี 3 กรณี คือ (1) การย้ายกรณีปกติ ได้แก่ การย้ายครบวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี (2) การย้ายกรณีพิเศษ ได้แก่ การย้ายเนื่องจากเจ็บป่วย หรือการย้ายเนื่องจากถูกคุกคามต่อชีวิต หรือย้ายเพื่อดูแลบิดา มารดา คู่สมรส บุตร ซึ่งเจ็บป่วยร้ายแรง (3) การย้ายเพื่อความเหมาะสมและประโยชน์ของทางราชการ ได้แก่ การย้ายเพื่อแก้ปัญหาการบริหารจัดการศึกษา หรือย้ายเพื่อพัฒนาคุณภาพของการศึกษา

2) ให้ดำเนินการย้ายให้เสร็จก่อนที่จะบรรจุและแต่งตั้งบุคคลจากบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือก

3) กรณีที่ดำรงตำแหน่งในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาครบตามวาระ 4 ปี ถ้าผู้บังคับบัญชาเห็นว่ามีเหตุผลและความจำเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ อาจเสนอ ก.ค.ศ. ให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในเขตพื้นที่เดิมต่อไปได้คราวละ 1 ปี ไม่เกิน 2 ครั้ง

4) การย้ายทุกกรณีให้มีการประเมินความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ในการบริหารจัดการศึกษา การรักษาวินัยและจรรยาบรรณวิชาชีพ การมีวิทยฐานะ อายุราชการ และผลการปฏิบัติงานของผู้ขอย้ายด้วย

5) การย้ายรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่เป็นตำแหน่งโครงสร้าง ให้ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่เป็นตำแหน่งโครงสร้างด้วยกัน และรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่เป็นตำแหน่งชั่วคราวและมีเงื่อนไข ให้ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่เป็นตำแหน่งชั่วคราวและมีเงื่อนไขด้วยกัน

►อนุมัติตั้งอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และมัธยมศึกษา แทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน 3 เขตพื้นที่การศึกษา

1) นายสง่า  สิทธิ เป็นอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครู ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2

2) นายช่อฉัตร  ไชยสมนึก เป็นอนุกรรมการผู้แทนบุคลากรทางการศึกษาอื่น ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 2

3) นายประครอง  สิทธินันท์ เป็นอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครู ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 (พิษณุโลก อุตรดิตถ์)

4) นายนภดล  ทองสุก เป็นอนุกรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 (พิษณุโลก อุตรดิตถ์)

►อนุมัติตั้งอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา แทนตำแหน่งที่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี  รวม 7 เขตพื้นที่การศึกษา                 

• การรายงานผลกรณีทุจริตสอบครูผู้ช่วย  จะนำเสนอในวันพรุ่งนี้ (29 สิงหาคม 2556)

ที่มา http://www.moe.go.th/websm/2013/aug/279.html