Advertisement
วันนี้ชวนคุณเติมพลังให้ชีวิต ด้วยสีบำบัด...ว้าว...เรื่องนี้น่าสนใจมากมายเลยล่ะ รู้แล้วต้องขยาย ลองนำไปใช้ดูนะคะ...
.........
สีแดง
เป็นสีที่แสดงถึงการเคลื่อนไหว เป็นสีแห่งความอบอุ่นให้พลังในการบุกเบิก การริเริ่มสร้างสรรค์แสดงออก เนื่องจากสีแดงเป็นสีที่ร้อน จึงทำให้คนที่ชอบสีแดงเป็นคนกระฉับกระเฉง กระปรี้กระเปร่า ไม่อยู่นิ่ง สีแดงมีผลต่อร่างกาย ช่วยให้ฮอร์โมนอะดรีนาลีนทำงานได้ดี สร้างฮีโมโกลบินให้กับเซลล์เม็ดเลือดแดงและช่วยให้ระดับความดันโลหิตเป็นปกติ ทำให้ร่างกายอบอุ่นกระตุ้นระบบประสาทให้ตื่นตัว ลดอาการเฉยชา และรักษาอาการซึม มีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำ เนื่องจากสีแดงเปรียบเสมือนยาชูกำลังให้คนเหล่านี้
แดงบำบัด เมื่อคุณไม่สบายหรือรู้สึกหนาว ให้คุณใส่ถุงเท้า ผ้าพันคอ หรือเสื้อสีแดง จะช่วยให้คุณรู้สึกอบอุ่นขึ้น อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุรได้รับความอบอุ่นและพลังจากสีแดง คือ การกำหนดลมหายใจ ทำสมาธิ และเพ่งไปยังวุตถุสีแดง...
สีเหลือง
เป็นสีที่สว่างที่สุดในบรรดาสีร้อนต่างๆเป็นสีที่ถือว่าเป็นตัวแทนแห่งดวงอาทิตย์ มีผลต่อร่างกายช่วยให้ระบบประสาท กล้ามเนื้อหัวใจ และระบบหมุนเวียนโลหิตทำงานได้ดี ช่วยกระตุ้นการทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกาย เช่น ตับ กระเพาะปัสสาวะ ทำให้การหลั่งน้ำย่อยทำงานได้ดี ลดอาการท้องผูก บรรเทาอาการปวดตามข้อ ช่วยให้แคลเซียมส่วนเกินที่เกาะอยู่ตามข้อต่อสลายตัว กระตุ้นการทำงานของตับและไต ช่วยขับเมือกต่างๆออกจากร่างกาย ทำให้หลอดเลือดสะอาด แร่ธาตุบางชนิด เช่น ไอโอดีน ฟอสฟอรัส ทอง และซัลเฟอร์ ต่างก็มีพลังของสีเหลืองด้วย
เหลืองบำบัด การรับสีเหลืองเข้าสู่ร่างกายทำได้โดยนั่งสมาธิเพ่งไปยังวัตถุที่เป็นสีเหลือง หรือนั่งตากแดดอ่อนๆยามเช้า ก็เป็นการรับสีเหลืองเข้าสู่ร่างกายอีกวิธีหนึ่ง
สีส้ม
พลังที่ได้รับจากสีส้มจะคล้ายกับสีแดงและสีเหลือง คือ ช่วยกระตุ้นให้ระบบหมุนเวียนโลหิตทำงานได้ดี ช่วยให้จังหวะการเต้นของหัวใจเป็นปกติ มีประโยชน์ต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้หายใจได้คล่องขึ้นและลึกขึ้น สีส้มจะมีผลต่อภาวะจิตใจ ระบบประสาท ระบบการหายใจ สีส้มเป็นสีที่ให้แคลเซียม ดังนั้นหญิงมีครรภ์หรือมารดาที่ให้นมบุตรจะได้รับคำแนะนำให้ใช้สีส้มเพื่อกระตุ้นการหลั่งของน้ำนม ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง
ส้มบำบัด การรับสีส้มเข้าสู่ร่างกายทำได้โดยการสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีส้ม โดนเฉพาะอย่างยิ่งช่วงกลางลำตัวจนถึงช่วงขา เนื่องจากสีส้มจะส่งผลต่อการทำงานของกระเพาะอาหาร ตับอ่อน กระเพาะปัสสาวะ และปอด ช่วยไล่ลมและขับแก๊สออกจากร่างกาย...
สีเขียว
สีเขียวเป็นสีที่ทำให้อารมณ์สงบ ทำให้ตัดสินเรื่องราวต่างๆได้อย่างสุขุม รอบคอบ ยุติธรรม สีเขียวเป็นสีที่มีผลต่อระบบประสาทอิสระ มีคุณสมบัติในการช่วยให้ประสาทผ่อนคลาย ช่วยลดอาการตึงเครียดและลดระดับความดันโลหิตให้ต่ำลง สีเขียวจะทำหน้าที่เหมือนพลังสมดุล จึงเป็นสีที่ช่วยลดอาการกลัวอันเกิดจากการกระทบกระเทือนทางจิตใจ ช่วยให้หายตกใจและรักษาอาการของคนที่เป็นโรคกลัวที่แคบได้ แต่ถ้าใช้สีเขียวในทางที่ผิดจะทำให้เกิดอาการง่วงเหงาหาวนอน ร่างกายเหนื่อยอ่อนและหงุดหงิดง่าย
เขียวบำบัด หากคุรเกิดอาการแน่นหน้าอก คัดจมูก ให้คุณลองหายใจเอาสีเขียวเข้าสู่ร่างกายโดยการเพ่งไปยังวัตถุที่มีสีเขียว คุณจะรู้สึกว่าปอดของคุณขยายตัว และหายใจได้สะดวกมากขึ้น ถ้าคุณมีเวลามากพอ ขอแนะนำให้คุณไปพักผ่อนตามสวนสาธารณะหรือตามชานเมืองเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ร่างกาย และคุณจะรู้สึกว่ารางกายสดชื่นและแข็งแรงขึ้น...
สีฟ้า
สีฟ้าเป็นสีที่เย็นทำให้จิตใจสงบและผ่อนคลายใช้ในการรักษาไข้ สีฟ้ามีคุณสมบัติในการลดความร้อนและอาการอักเสบต่างๆเช่น รอยไหม้ที่เกิดจากแดดเผา เป็นต้น สีฟ้าจะช่วยลดอาการตึงเครียด อาการปวดศีรษะ บรรเทาอาการต่างๆ ที่เกิดจากกล่องเสียง เช่น อาการไอ ต่อมทอนซิลอักเสบ คออักเสบและเสียงแหบ และลดอาการสะอึกได้
ฟ้าบำบัด สีฟ้ามีผลต่อหญิงสาวในขณะที่มีประจำเดือนจะช่วยลดอาการปวดประจำเดือนลงได้ โดยให้คุณสวมชุดนอนสีฟ้า กางเกงในสีฟ้า เสื้อคลุมอาบน้ำสีฟ้า ผ้าเช็ดตัวสีฟ้า หรือนอนในห้องนอนสีฟ้า...
สีม่วง
สีม่วงเป็นสีที่เกิดจากการผสมกันระหว่างสีฟ้ากับสีแดง สีม่วงเป็นสีที่เกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่ของต่อมใต้สมอง ช่วยเยียวยาสมองที่ถูกกระทบกระเทือน โรคลมบ้าหมู และอาการผิดปกติทางประสาทหรือจิตใจ เช่น ความผิดปกติที่เกิดจากความกดดัน และอาการทรงตัวไม่อยู่ นอกจากนั้นยังช่วยบรรเทาอาการปวดประสาท บรรเทาอาการที่เกิดกับ ตา หู จมูก...
ม่วงบำบัด ถ้าสายตาของคุณอ่อนล้าจากการดูทีวีหรือจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ให้คุณพักสายตาประมาณ 15 นาที จากนั้นเพ่งไปยังวัตถุที่เป็นสีม่วง จะช่วยให้การเคลื่อนไหวของสายตาดีขึ้น และช่วยให้สายตาแข็งแรงขึ้น
ได้ผลอย่างไร อย่าลืมนำมาแบ่งปันให้สมาชิกทราบด้วยนะคะ..........
ด้วยความปรารถนาดี/จิราภรณ์ หอมกลิ่น
ขอบคุณข้อมูลอกาลิโกดอทคอม
วันที่ 3 มี.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,178 ครั้ง เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง เปิดอ่าน 7,152 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,131 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,160 ครั้ง เปิดอ่าน 7,135 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,163 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,147 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,136 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 28,682 ครั้ง |
เปิดอ่าน 102,259 ครั้ง |
เปิดอ่าน 18,138 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,702 ครั้ง |
เปิดอ่าน 25,559 ครั้ง |
|
|