Advertisement
11 เคล็ดลับ ลดความกดดันชีวิตคู่
เมื่อคนเรารักกัน และตัดสินใจที่จะมาใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกัน แน่นอนว่า แม้ว่าจะรักกันเพียงใด คู่ชีวิตย่อมเปรียบเสมือนลิ้นกับฟันที่อาจกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่เราจะอยู่อย่างไรไม่ให้มีเรื่องมากระแทกซึ่งกันและกัน ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า กระทบกระทั่งได้แต่ต้องไม่กระแทก
อย่างไรก็ดี ความรัก ความเข้าใจ และความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ทั้งสามอย่างนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้ชีวิตคู่อยู่หรือไป การใช้ชีวิตคู่ย่อมแตกต่างจากชีวิตของคนโสดอย่างแน่นอน การเปลี่ยนจากชีวิตคนโสดมาเป็นชีวิตคู่จึงต้องการการปรับตัวเข้าหากันของทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย การเตรียมความพร้อมสำหรับบทบาทใหม่ในการใช้ชีวิตคู่ สำหรับคนที่คิดจะมีชีวิตคู่ ลองถามตัวคุณเองว่า คุณพร้อมสำหรับชีวิตคู่แค่ไหน ?
“ความรัก” ข้อนี้ไม่น่าห่วงเพราะเชื่อเหลือเกินว่า การที่ใครสักคนคิดจะใช้ชีวิตคู่ มักจะมีสาเหตุมาจากความรัก การมีความรักเป็นพื้นฐานย่อมส่งผลให้คน ๆ นั้นยอมโอนอ่อนผ่อนตาม ประนีประนอมในการปรับตัวเข้าหาคู่ของตัวเอง จากที่เคยคิดว่า “นี่คือชีวิตฉัน” จะกลายเป็น “นี่คือชีวิตของเรา” ถ้าคุณมีความคิดในลักษณะนี้ นั่นก็หมายความว่า คุณตั้งโจทย์ชีวิตคู่ขึ้นมาได้ซึ่งเป็นการเริ่มต้นที่ดีทีเดียว
“ความเข้าใจ” เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การใช้ชีวิตคู่ประสบความสำเร็จหรือไม่ การใช้ชีวิตคู่ ต้องเข้าใจตนเอง และเข้าใจคู่ครองของเราด้วย รู้จักความชอบ ความไม่ชอบ ความเหมือน ความต่างของกันและกัน เพื่อปรับจูนเครื่องส่ง-เครื่องรับให้ตรงกัน อันจะช่วยประคับประคองให้ชีวิตคู่ผ่านไปได้ตลอดรอดฝั่ง
“ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ” ก็คือเรื่องเงิน-ทอง ปากท้องของชีวิตคู่นั่นเอง ในปัจจุบันนี้คงหายากมากที่จะเจอคู่รักแบบที่รักกันมากจนยอมกัดก้อนเกลือกินด้วยกัน เงิน-ทองจะช่วยให้ได้มาซึ่งความสะดวกสบาย มีหน้ามีตาได้รับการยอมรับจากสังคม ดังนั้นคนที่จะใช้ชีวิตคู่ต้องร่วมกันสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและตกลงเรื่องการใช้จ่ายเงิน ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ชัดเจนและเป็นที่เข้าใจของทั้งสองฝ่ายเสียก่อน เพราะเป็นที่รู้กันอยู่ว่า เงินทองเป็นของบาดใจ ถ้าไม่คุย-ตกลงกันให้ชัดเจน ชีวิตคู่ที่ว่ารักกันมากขนาดไหน อาจต้องปิดฉากลงได้เพราะสาเหตุจากเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ
ความรัก ความเข้าใจ และความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ไม่อาจตัดสินได้ว่า ข้อไหนสำคัญที่สุด ต้องอาศัยการผสมผสานทั้ง 3 ปัจจัยนี้ให้พอดี โดยใช้ความรักเป็นตัวตั้ง และประคับประคองด้วยความเข้าใจ เพื่อร่วมมือกันสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชีวิตคู่ โดยมีจุดหมายคือ ครอบครัวใหม่ที่มีคุณภาพในสังคมไทยต่อไป
แต่การที่จะเพิ่มความสุขและลดความกดดันในชีวิตคู่ จนได้พบกับวิธีที่ง่ายดายและสนุกสนาน ซึ่งเป็นเคล็ดลับในการเพิ่มความสัมพันธ์ให้แนบแน่น และสามารถที่จะช่วยเติมเต็มชีวิตคู่ของคุณได้เป็นอย่างดี มี 11 วิธีง่ายๆให้ลองทำกัน
1. หาซื้อ ซีดี หรือเทปเพลงเพราะ ๆ ที่เขา หรือเธอชอบมาฝากสักม้วน
งานวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเมื่อคู่รักได้ฟังเพลงที่ชอบ หรือถูกใจ จะทำให้ทั้งคู่มีความรู้สึกที่อยากจะร่วมมือกันมากขึ้น เพราะดนตรีสามารถบรรเทาความสับสนทางอารมณ์ได้ และยังช่วยให้มีสุขภาพจิตดีขึ้นอีกด้วย
2. ออกไปทานข้าวนอกบ้าน หรือพบปะกับเพื่อนนอกบ้านบ้าง
คู่รักที่มีความสัมพันธ์กันแบบส่วนตัว หรือใช้เวลาอยู่ด้วยกัน 2 คนมากเกินไป ควรจะมีการพัฒนาสัมพันธภาพกับผู้อื่นบ้าง โดยการออกไปทานข้าวกับเพื่อนฝูงนอกบ้านหลังแต่งงาน เพราะพวกเขาเหล่านั้น จะมองเห็นในอีกแง่มุมหนึ่งของชีวิตคู่ที่ตัวคุณเองมองข้ามไป หรือมองไม่เห็น โดยเฉพาะในเวลาที่คุณกำลังรู้สึกแย่ พวกเขาสามารถช่วยเหลือ หรือให้คำแนะนำต่าง ๆ จนคุณรู้สึกดีขึ้นได้
3. ใช้เวลากับตัวเองเพียงลำพังบ้าง
บางครั้งการที่คุณขลุกอยู่ด้วยกันมากเกินไป อาจจะทำให้ต่างฝ่ายต่างขาดความเป็นส่วนตัว ในโลกของคนหนึ่งก็ต้องมีอีกคนหนึ่งอยู่ด้วยเสมอ ถ้าคุณแยกไปทำกิจกรรมที่ต่างคนต่างชอบ หรือให้เวลา และโอกาสตัวเองแยกออกไปจากคู่เสียบ้าง แล้วค่อยกลับมารวมตัวกันใหม่ มันจะทำให้คุณมีความสุขทั้งในโลกส่วนตัว และโลกแห่งชีวิตคู่มากขึ้น
4. ควรให้แต่ละคนได้มีเวลาส่วนตัว หรือมีเวลาที่เป็นอิสระบ้าง
คู่รักที่มีความสุขหลายคู่ รู้จักให้เวลาส่วนตัวและอิสระแก่กันและกัน ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เช่น นัดกันไว้เลยว่า เจอกันที่ร้านอาหารตอน 1 ทุ่มนะ แต่สำหรับช่วงก่อนเวลานัด คุณสามารถที่จะไปทำอะไรก็ได้ เช่น อาจจะมีธุระสำคัญที่ต้องทำกอนหน้านั้น การกระทำเช่นนี้จะช่วยลดความขัดแย้งลงได้
5. ออกไปโยนโบว์ลิ่ง หรืออยู่ที่ร้านหนังสือด้วยกัน
คู่รักที่ประสบความสำเร็จ 64 เปอร์เซ็นต์ จะมีความสนใจในเรื่องเดียวกัน จากสถิติของสถาบันแก้ไขปัญหาในครอบครัว ระบุว่าเมื่อคุณได้มีโอกาสใช้เวลาว่างที่มีอยู่ทำกิจกรรมร่วมกัน มันจะเป็นการเพิ่มหรือกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้น บางทีคุณอาจจะต้องลองหาสิ่งใหม่ ๆ ที่น่าสนใจทำดู เพราะมันจะให้ชีวิตคู่ของคุณมีรสชาติหลากหลายไม่จำเจ
6. หยอกล้อกันบ้าง
การหยอกล้อหรือเล่นกันเบา ๆ การอำ การแซว การตั้งฉายาน่ารัก ๆ ให้กัน การเล่าเรื่องสัปดน ตลกโปกฮา การพูดคำผวน คำสองแง่สองง่ามที่ไม่หยาบคายเกินไป เหล่านี้จะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดและถือว่าเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่สำคัญ อีกข้อในการเพิ่มความสดชื่นให้กับชีวิตคู่ของคุณด้วย
7. รู้จักถกเถียงกันบ้าง
ผลการวิจัยข้อหนึ่งบอกว่าคู่รักที่ไม่เคยถกเถียง หรือทะเลาะกันเลยหลังแต่งงาน เป็นต้นเหตุสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะนำไปสู่การหย่าร้างได้ เพราะการบอกเล่า การได้ระบายเกี่ยวกับความรู้สึก หรือความต้องการที่อาจจะกำลังเก็บกดอยู่โดยไม่รู้ตัวของตนเองนั้น ถือว่าเป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะทำให้ชีวิตการแต่งงานประสบความสำเร็จ
8. ช่วยกันทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ
คู่รักที่ช่วยกันทำงานบ้าน 19 เปอร์เซ็นต์ จะมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกว่าเดิม โดยอาศัยจากการทำกิจกรรมร่วมกัน หรือช่วยกันทำงานภายในบ้าน วิธีหนึ่งที่จะกระตุ้นให้สามีของคุณรู้สึกอยากจะช่วยคุณทำงานบ้านก็คือ กล่าวชื่นชมเมื่อเขาลงมือช่วยคุณล้างจาน หรือทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างอื่น เช่น ถ้าซักผ้าด้วยเครื่อง คุณอาจจะเป็นคนซัก แล้วขอให้เขาช่วยปรับผ้านุ่ม และอบแห้งให้ก่อนที่คุณจะนำไปตาก
9. แบ่งเวลาจากการดูโทรทัศน์สักวันละครึ่งชั่วโมง
คนที่ชอบใช้เวลาดูโทรทัศน์นาน ๆ ความสัมพันธ์กับคู่รักก็จะค่อย ๆ แย่ลง เพราะโทรทัศน์เป็นสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกแบ่งแยก และเป็นส่วนตัว เริ่มตั้งแต่เปิดโทรทัศน์ ความสนใจของคุณที่มีต่อคนรักก็จะลดลงไป
10. ผลัดกันอ่านหนังสือการ์ตูน หรือเล่าเรื่องตลกให้กันฟัง
ถ้าคู่รักของคุณเป็นคนมีอารมณ์ขัน รู้หรือไม่ว่าอย่างน้อยสิ่งนี้สามารถช่วยลดความขัดแย้ง หรือการปะทะคารมลงไปได้อย่างน้อย 67เปอร์เซ็นต์เพราะมันจะทำให้อารมณ์เย็นลง หรือช่วยลดความรุนแรงของการสนทนานั้น และคุณยังสามารถสร้างอารมณ์ขัน หรือสร้างทัศนคติในการมองโลกให้แง่ดีด้วยตนเอง โดยการอ่านหนังสือการ์ตูน หรือผลัดกันกับคู่รักเล่าเรื่องตลกให้กันฟังก็ได้
11. บอกเล่าถึงความฝัน หรือความต้องการของคุณ
ผลัดกันบอกเล่าถึงความฝัน หรือความต้องการในอนาคตว่า คุณอยากจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่ไหนอยากจะใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างไร หรือเริ่มต้นโดยสนทนาเกี่ยวกับธุรกิจการงานของคุณ หรือการไปทัวร์ยุโรปของคุณ จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยในอเมริกาพบว่าคู่รักจำนวนมาก นิยมบอกเล่าถึงความต้องการส่วนตัวของตนเอง และ 62 เปอร์เซ็นต์ พบว่ามันช่วยทำให้ชีวิตคู่ของพวกเขามีความสุขมากขึ้น เพราะว่าการแสดงออกถึงความต้องการ หรือความฝันของตนเอง จะช่วยลดพฤติกรรมที่ปิดกั้นระหว่างกันได้มากขึ้น และก็เป็นการดีที่ทั้งคู่จะช่วยกันพยายามสร้างอนาคตร่วมกัน ส่วนคู่รักที่ไม่ยอมบอกถึงความต้องการของตนเอง พบว่าความกดดันจะเพิ่มขึ้นเป็น 48 เปอร์เซ็นต์
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์
|
วันที่ 28 ก.พ. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,129 ครั้ง เปิดอ่าน 7,132 ครั้ง เปิดอ่าน 7,262 ครั้ง เปิดอ่าน 7,493 ครั้ง เปิดอ่าน 7,131 ครั้ง เปิดอ่าน 7,131 ครั้ง เปิดอ่าน 7,129 ครั้ง เปิดอ่าน 7,130 ครั้ง เปิดอ่าน 7,128 ครั้ง เปิดอ่าน 7,130 ครั้ง เปิดอ่าน 7,129 ครั้ง เปิดอ่าน 7,127 ครั้ง เปิดอ่าน 7,129 ครั้ง เปิดอ่าน 7,128 ครั้ง เปิดอ่าน 7,129 ครั้ง เปิดอ่าน 7,128 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,129 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,131 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,128 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,130 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,130 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,126 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 10,819 ครั้ง |
เปิดอ่าน 14,566 ครั้ง |
เปิดอ่าน 255,414 ครั้ง |
เปิดอ่าน 24,752 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,159 ครั้ง |
|
|