ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

"เหตุใดบัณฑิตครูจึงสอบตกมาก" บทวิเคราะห์ โดย ผศ.ดร.สุรวาท ทองบุ


ข่าวการศึกษา 9 ก.ค. 2556 เวลา 07:40 น. เปิดอ่าน : 27,487 ครั้ง
Advertisement

"เหตุใดบัณฑิตครูจึงสอบตกมาก" บทวิเคราะห์  โดย ผศ.ดร.สุรวาท ทองบุ

Advertisement

การดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปี 2556 ที่มีเขตพื้นที่การ 79 เขตได้เปิดสอบ และขณะนี้ได้มีการประกาศผลการสอบคัดเลือกครบทุกเขตไปแล้ว ซึ่งสรุปผลการสอบจากทุกเขตพื้นที่แล้ว ข้อมูลปรากฎว่าจากจำนวนของผู้มีสิทธิ์สอบ 83,930 คน เป็นผู้ที่สอบผ่านเพียง 5,074 คน คิดเป็นร้อยละ 6.05 ของผู้มีสิทธิ์สอบ และเหตุใดจึงเป็นเช่นั้น เราลองมาฟังบทวิเคราะห์ของ ผศ.ดร.สุรวาท ทองบุ ประธาน ส.ค.ศ.ท. ที่วิเคราะห์ในเรื่องนี้เป็นที่น่าสนใจดังนี้ครับ

"เหตุใดบัณฑิตครูจึงสอบตกมาก" : บทวิเคราะห์ โดย ผศ.ดร.สุรวาท ทองบุ ประธาน ส.ค.ศ.ท.
8 กรกฎาคม 2556


ข้อมูล (โดยประมาณ) ที่ควรทราบ
1. ปัจจุบันมีสถาบันการผลิตครู 5 ปี จำนวนประมาณ 65 สถาบัน ได้แก่ มหาวิทยาลัยของรัฐ (ม.รัฐ) เดิม มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) มหาวิทยาลัยเปิด มหาวิทยาลัยสงฆ์ มหาวิทยาลัยเอกชน สถาบันการพลศึกษา สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ฯ)

2. ประมาณ 2-3 ปีผ่านมา มีสถาบันที่ผลิตครู ป.บัณฑิต วิชาชีพครู จำนวนประมาณ 140 สถาบัน (คุรุสภา ให้การรับรอง ปัจจุบันยกเลิกการรับรองแล้ว)

3. ผู้เข้าสอบมีทั้งหมดมาจาก ม.รัฐ มรภ. มทร. ฯลฯ และเป็นผู้สำเร็จครู 5 ปี ประมาณ 40% ครู 4 ปี ประมาณ 20% และสำเร็จ ป.บัณฑิต ประมาณ 40%

4. เป็นผู้สำเร็จใหม่ประมาณ 30% และเป็นครูอัตราจ้าง ครูพนักงานราชการ ครูเอกชน ครู กศน. ประมาณ 70%

5. มหาวิทยาลัยที่ออกข้อสอบมาจากทุกกลุ่ม ประมาณ 15 สถาบัน

6. ข้อสอบที่มีมาตรฐานจะต้องมีการวิเคราะห์หลักสูตรการสอบเป็นอย่างดี ออกข้อสอบให้มี จำนวนมากกว่าความต้องการใช้จริง ทั้งนี้ให้ครอบคลุมมีสัดส่วนที่เหมาะสมออกโดยผู้ทรงคุณวุฒิสูงและรู้จริงจำนวนหลายคน ควรมีผู้เชี่ยวชาญไม่น้อยกว่า 5 คน มาตรวจสอบคุณภาพ ความเหมาะสม ถูกต้องตามหลักวิชาและข้อเท็จจริง ปรับปรุงแก้ไข และสุดท้ายต้องนำไปทดลองใช้ 2-3 ครั้ง จากกลุ่มตัวอย่างที่ไม่ใช่ผู้สอบ พิจารณาว่าจำนวนข้อสอบความยากง่ายเหมาะสมหรือไม่ อำนาจจำแนกเป็นอย่างไร และมีความเที่ยงตรงและเชื่อมั่นเพียงใด

7. หลักสูตรการสอบ (คะแนนรวม 350 คะแนน) แบ่งเป็น 3 ภาค ได้แก่

ภาค ก (150 คะแนน) แบ่งเป็น

• ความรอบรู้ (50คะแนน) ได้แก่ สังคม เศรษฐกิจ การเมือง เหตุการณ์ปัจจุบันวัฒนธรรมและ ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย นโยบายการศึกษา กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา

• ความสามารถทั่วไป (50 คะแนน) ได้แก่ ความสามารถด้านตัวเลข ด้านภาษา (ไทย) และด้านเหตุผล ความรู

• ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฏิบัติของวิชีพครู (50 คะแนน) ได้แก่ วินัยและการรักษาวินัย คุณธรรม จริยธรรมและค่านิยม มาตรฐานวิชาชีพ จรรยาบรรณวิชาชีพ
และสมรรถนะวิชาชีพ

ภาค ข ความรู้ความสามารถที่ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ (150 คะแนน แบ่งเป็น

• ความรู้ความสามารถเกี่ยวกับวิชาการศึกษา (75 คะแนน) ได้แก่ หลักสูตรและการพัฒนาหลักการสอน การจัดการเรียนรู้ การพัฒนาผู้เรียน จิตวิทยา การวัดผลประเมินผล การวิจัย สื่อและเทคโลยี

• วิชาเอก (75 คะแนน) ได้แก่ เนื้อหาวิชาเอกหรือกลุ่ม

ภาค ค ความเหมาะสมกับวิาชีพ (50 คะแนน)

8. ลักษณะของข้อสอบเป็นปรนัยเลือกตอบ ในภาค ก และ ข ส่วนภาค ค เป็นการสัมภาษณ์และ
พิจารณาจากเอกสาร หลักฐาน

9. เกณฑ์การตัดสิน ผู้สอบได้ ต้องได้คะแนนในแต่ละภาคไม่น้อยกว่าร้อยละ 60

10. มีผู้ผ่านเกณฑ์ไม่เกิน ร้อยละ 10


สาเหตุจากธรรมชาติของเนื้อหาวิชา ตัวผู้เข้าสอบ และความบกพร่องของข้อสอบ

1. เนื้อหาสาระที่ค่อนข้างยาก เนื่องจากบริบทปัจจุบันที่มีความเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหว เร็วกว่าปกติ (อาจเนื่องจากการเริ่มเข้าสู่ยุคศตวรรษที่ 21 และเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน) เนื้อหาสาระขาดความชัดเจนไม่แน่นอน ความไม่แน่นิ่งของแนวคิด สาระความรู้ ระเบียบ กฎหมาย นโยบายที่ไม่ต่อเนื่อง รวมทั้ง มาตรฐานวิชาชีพครูที่ไม่มีข้อยุติ ปรับปรุงแก้ไขมากว่า 3 ปียังไม่สามารถประกาศใช้ อีกทั้งความเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม ความก้าวหน้าในวิทยาการ แนวคิดทางการศึกษา
เทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นและมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

2. บัณฑิตผู้เข้าสอบปัจจุบันยังเป็นผู้เรียนที่มีคุณภาพต่ำก่อนเข้ามาเรียนครู (แต่ผู้เรียนปัจจุบันที่กำลังเรียนปีที่ 1-5 เป็นนักเรียนที่ผลการเรียน ม.6 สูง) และบัณฑิตที่เข้าสอบไม่สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวตามข้อ 1 ได้มีความรู้ความเข้าใจไม่กว้างขวาง ไม่ลุ่มลึก จึงไม่สามารถทำข้อสอบได้

3. ความบกพร่องของข้อสอบ

1) ยากเกินไป เกินกว่าบัณฑิตครูเรียนเพื่อไปสอนนักเรียนในระดับอนุบาล ประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
2) ความยากและจำนวนข้อไม่สอดคล้องกับเวลาที่กำหนดให้
3) ข้อสอบขาดความเที่ยงตรงเชิงโครงสร้าง ไม่ครอบคลุมหรือมีสัดส่วนที่ไม่เหมาะสม
4) ข้อสอบออกไม่ตรงตามสิ่งท่ีต้องการวัด เช่น ความสามาถทั่วไป ตามทฤษฎีทางการวัดผลการศึกษาเป็นข้อสอบวัดความถนัด 3 ด้าน คือ ตัวเลข ภาษา (ไทย) และเหตุผล แต่ผู้ออกข้อสอบออกเป็น วัดผลสัมฤทธิ์ จนดูเป็นข้อสอบวิชาเอกคณิตศาสตร์และภาษาไทย
5) ขาดความเป็นปรนัยในคำถาม สับสนในคำตอบและเฉลย ซึ่งเป็นสาเหตุมาจาก ข้อ 1 คือธรรมชาติเนื้อหาวิชา
6) ข้อสอบอาจเน้นสาระของท้องถิ่นของสถาบันผู้ออกข้อสอบ ผู้สอบที่มาจากต่างถิ่นโอกาสตอบถูกจึงมีน้อย
7) บางเขตพื้นที่ ข้อสอบขาดความทันสมัยไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และมีสาระจำนวนมากที่ไม่มีความชัดเจน เช่น นโยบายกระทรวงและรัฐบาล มาตรฐานวิชาชีพ ฯลฯ จึงทำให้เกิดความสับสนทั้งคำถามและคำตอบที่ยังไม่มีข้อยุติ
การบริหารจัดการห้องสอบเป็นไปอย่างเคร่งเครียด มีกฎกติกาที่หยุมหยิม ผิดธรรมชาติของการสอบทั่ว ๆ ไป เช่น ไม่อนุญาตให้นำนาฬิกาเข้าไปในห้องสอบและไม่มีการจัดให้มีนาฬิกากลาง ผู้สอบจึงกะประมาณเวลาไม่ได้ เป็นต้น

ข้อเสนอแนะ
สำหรับสถาบันฝ่ายผลิต
1. พัฒนาระบบการจูงใจและคัดเลือกผู้เรียนที่เป็นคนดี คนเก่ง และมีความรักศรัทธาในความเป็นครู
2. พัฒนาการเรียนการสอนให้ผู้เรียนมีความรอบรู้ ลุ่มลึกในเนื้อหาวิชา สามารถติดตาม เท่าทันการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวของเนื้อหาสาระ ระเบียบ กฎหมาย นโยบาย สภาพสังคม เศรษฐกิจ แนวคิดการเมือง วัฒนธรรม วิทยาการ แนวคิดทางการศึกษา อย่างทันท่วงที

สำหรับผู้เข้าสอบ
1. จะต้องพัฒนาตนเองให้มีความรู้ความเข้าใจอย่างกว้างขวางและลุ่มลึก ติดตามความเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวตลอดเวลา นึกเสียว่าการเรียนในห้องเรียนที่ผ่านไปไม่อาจจะใช้ได้ตลอดไป

สำหรับผู้ออกข้อสอบ
1. จะต้องพัฒนาตนเองให้มีความรู้ความเข้าใจอย่างกว้างขวางและลุ่มลึก ติดตามความเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวตลอดเวลาจเช่นเดียวกันกับผู้เข้าสอบ
2. ศึกษา ทำความเข้าใจหลักสูตรเนื้อหาการสอบให้ถ่องแท้
3. เรียนรู้และฝึกฝนทักษะในการออกข้อสอบให้มีความชำนาญ
4. ผู้ออกข้อสอบควรมาจากหลายฝ่ายนอกจากอาจารย์มหาวิทยาลัย เช่น มาจากเขตพื้นที่การศึกษาด้วย

สำหรับหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยรวมของประเทศ
1. กระทรวงศึกษาธิการ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น สำนักงานเลขาธิการ ก.ค.ศ. หรือหน่วยงานอื่น รับผิดชอบในการพัฒนาข้อสอบให้มีมาตรฐาน มีระบบการบริหารจัดการสอบที่ทำให้เกิดความถูกต้องเหมาะสมทางวิชาการ เกิดผลดี บริสุทธิ์ ยุติธรรม สำหรับผู้เข้าสอบ (ดูตัวอย่างจาก ก.พ.)
2. ไม่ควรเปลี่ยน รมต.ศธ.บ่อยนัก หรือหากเปลี่ยนก็ให้คงนโยบายเดิมไว้ให้มีความต่อเนื่อง
3. รมต.ควรให้ความเห็นชอบโดยเร็วหลังการเสนอให้เห็นชอบจากคุรุสภา

 

 

 

ขอบคุณที่มาจาก เฟซบุ๊ค ผศ.ดร.สุรวาท ทองบุ ประธาน ส.ค.ศ.ท.
เรียบเรียงโดยครูบ้านนอกดอทคอม


"เหตุใดบัณฑิตครูจึงสอบตกมาก" บทวิเคราะห์ โดย ผศ.ดร.สุรวาท ทองบุ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

การคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2567

การคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2567

เปิดอ่าน 3,059 ☕ 5 พ.ย. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
นโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2569
นโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2569
เปิดอ่าน 151 ☕ 22 พ.ย. 2567

ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
เปิดอ่าน 181 ☕ 22 พ.ย. 2567

สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม"  ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม" ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
เปิดอ่าน 531 ☕ 19 พ.ย. 2567

คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
เปิดอ่าน 695 ☕ 15 พ.ย. 2567

"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
เปิดอ่าน 795 ☕ 15 พ.ย. 2567

ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
เปิดอ่าน 3,403 ☕ 13 พ.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2555
กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2555
เปิดอ่าน 34,782 ครั้ง

มติ ครม. ให้หยุดยาว ช่วงเข้าพรรษา 4-8 ก.ค.นี้
มติ ครม. ให้หยุดยาว ช่วงเข้าพรรษา 4-8 ก.ค.นี้
เปิดอ่าน 17,989 ครั้ง

รูปแบบการสอน 7 ประการ
รูปแบบการสอน 7 ประการ
เปิดอ่าน 34,369 ครั้ง

พืชพรรณธรรมชาติ ที่ดีต่อผิวพรรณ
พืชพรรณธรรมชาติ ที่ดีต่อผิวพรรณ
เปิดอ่าน 12,561 ครั้ง

3 สิ่ง ควรเลี่ยง เมื่อให้ญาติยืมเงิน
3 สิ่ง ควรเลี่ยง เมื่อให้ญาติยืมเงิน
เปิดอ่าน 15,748 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ