Advertisement
เพิ่มพลังให้ร่างกาย
สำหรับใครที่อยากแข็งแรง และมีพลังเหลือเฟือ ก็ต้องกินอาหาร 3 อย่างต่อไปนี้ ที่เขาว่ากันว่า เปรียบเสมือนยาโด๊ปดี ๆ เชียวล่ะ
หอยนางรม - หอยทะเลชนิดนี้อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ที่จะช่วยให้ร่างกายรักษาพลังงานเอาไว้ได้นานขึ้น และช่วยให้ออกซิเจนไหลผ่านร่างกายได้อย่างสะดวก ดีต่อสมอง รวมไปถึงความดันโลหิตอีกด้วย
อกไก่ - โปรตีนที่อัดแน่นอยู่ในเนื้อไก่ไร้มันอย่างเนื้อส่วนอก จะช่วยชะลอการหลั่งของสารซีโรโทนิน (serotonin) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้เราหลับสบาย เป็นผลให้ร่างกายตื่นตัว และกระฉับกระเฉง โดยเฉพาะถ้าไม่อยากง่วงในช่วงบ่าย ๆ ก็ลองสั่งเมนูอกไก่ทานในมื้อเที่ยงก็ได้ นอกจากนี้โปรตีนในอกไก่ยังช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของกระดูก และช่วยควบคุมน้ำหนักด้วยค่ะ
ข้าวบาร์เลย์ - ในธัญพืชมีประโยชน์อย่างข้าวบาร์เลย์ จะมีสารเบต้ากลูแคน ซึ่งเป็นไฟเบอร์แคลอรี่ต่ำชนิดเดียวกับที่พบในข้าวโอ๊ต มีประโยชน์มหาศาลต่อเซลล์ในร่างกายมนุษย์ ช่วยชะลอความชรา และช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บไข้ง่าย ๆ
เสริมความแข็งแรงของกระดูก
เราเคยทราบกันมาบ้างแล้วว่า แคลเซียมมีส่วนสำคัญต่อกระดูกเป็นอย่างมาก และช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูกได้เป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากปลาเล็กปลาน้อยที่อุดมไปด้วยแคลเซียมแล้ว อาหารต่อไปนี้ก็มีแคลเซียมไม่แพ้กันเลย
ผักกวางตุ้งฮ่องกง (Bok Choy) - ผักใบเขียวส่วนมากก็จะมีแคลเซียม แต่เป็นแคลเซียมออกซาเลต ซึ่งเป็นชนิดที่ไม่ละลายน้ำ ยับยั้งการดูดซึมสารอาหารของร่างกาย และถ้ารับประทานทุกวันก็อาจจะตกผลึก เสี่ยงเป็นนิ่วได้ แต่ในผักกวางตุ้งฮ่องกง มีแคลเซียมออกซาเลตในปริมาณน้อย และเพียงแค่กินผักกวางตุ้ง 1 ถ้วยแกง ก็จะให้แคลเซียมได้เท่ากับการดื่มนม 1 แก้วเลยทีเดียว
นมพร่องมันเนย - ในน้ำนมอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย ทั้งวิตามินดี แคลเซียม โพแทสเซียม และโปรตีน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย กระดูก และช่วยควบคุมน้ำหนัก
จัดการอารมณ์วัยทอง
ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนส่วนใหญ่จะทรมานกับอาการหนาว ๆ ร้อน ๆ หรือมีอาการบ้านหมุน มึนหัวกันไม่น้อย และบ้างก็มีอาการหงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผล เหวี่ยงวีนคนรอบข้างให้วุ่นกันเป็นว่าเล่น ถ้าคนในครอบครัวคุณมีอาการเหล่านี้ เรามาจัดอาหารที่มีสรรพคุณช่วยยับยั้งอาการวัยทองให้เขาดังนี้ดีกว่าค่ะ
ผักโขม (Baby Spinach) - ผักโขมอุดมไปด้วยตามินเอ กรดโฟเลต แคโรทีน วิตามินซี โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม แคลเซียม สังกะสี โปรตีน และไฟเบอร์ แถมมีสรรพคุณช่วยขับพิษออกจากร่างกาย ปรับระดับฮอร์โมนที่ปรวนแปรให้คงที่
น้ำมันมะพร้าว - ไขมันในน้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบติพิเศษที่ช่วยกระตุ้นเมตาบอลิซึมในร่างกาย ทำให้ร่างกายมีการเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้น้ำหนักไม่เกิน ซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการร้อน ๆ หนาว ๆ ในร่างกายนั่นเอง อีกทั้งยังช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผมและผิวหนังได้อีกด้วย
โนริสาหร่าย - สาหร่ายชนิดนี้มีไอโอดีนสูง ช่วยควบคุมการทำงานของต่อมไทรอยด์และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย รักษาระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้อารมณ์ไม่ปรวนแปร และช่วยควบคุมน้ำหนักด้วยค่ะ
ป้องกันโรคหัวใจ
ถ้าไม่อยากเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ ก็ต้องเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง และช่วยป้องกันโรคหัวใจ ซึ่งได้แก่
แอปเปิล - ไฟเบอร์ในแอปเปิลจะช่วยขจัดคอเลสเตอรอลชนิด LDL ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่อันตรายต่อสุขภาพหัวใจ หากมีในปริมาณมากก็อาจอุดตันหลอดเลือดหัวใจ เป็นเหตุให้เกิดโรคหัวใจขึ้นได้ อีกทั้งในแอปเปิลยังมีสารโพลีฟีนอลที่สามารถป้องกันโรคหัวใจได้ด้วย
ป๊อปคอร์น - ลบความคิดที่ว่าป๊อปคอร์นเป็นอาหารขยะออกไปจากสมองด่วนเลยค่ะ เพราะผลวิจัยของสถาบันอาหารและยาได้ออกมาบอกแล้วว่า ป๊อปคอร์นอุดมไปด้วยไฟเบอร์ และสารที่ช่วยการทำงานของโพลีฟีนอล จึงถือว่าเป็นของทานเล่นที่ดีต่อสุขภาพหัวใจมากเลยทีเดียว
ผลไม้จำพวกส้ม - ผลไม้จำพวกส้มที่มีรสเปรี้ยว และมีวิตามินซีสูง จะช่วยแก้ปัญหาเส้นเลือดเปราะ เลือดออกง่าย และภาวะเลือดไหลไม่หยุด นอกจากนี้ยังช่วยให้เลือดหมุนเวียนสะดวก ลดความเสี่ยงภาวะอุดตันในเส้นเลือด สาเหตุของโรคหัวใจ และโรคอัมพาต
ช่วยในการมองเห็น
นอกจากผักบุ้งแล้ว สายตายังต้องการอาหารเหล่านี้เพื่อเป็นตัวช่วยในการมองเห็นด้วยค่ะ
วอลนัท - วอลนัทอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 และอัลฟาลิโนเลนิก หรือ กรด ALA (alpha-linolenic acid ) ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยในการมองเห็น บำรุงสายตา ลดความเสี่ยงเป็นโรคเยื่อบุตาอักเสบ และโรคต้อกระจก
ผักใบเขียวเข้ม - พวกผักใบสีเขียวเข้ม อย่างเช่น คะน้า อุดมไปด้วยสารอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า ซีแซนทีน (zeaxanthin) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในจอตา มีประโยชน์ในการป้องกันและรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับสายตา ทานเป็นประจำก็จะช่วยชะลอการเสื่อมสภาพและลดความเสี่ยงเป็นต้อกระจกได้
ป้องกันมะเร็ง
คงไม่มีใครอยากมีเนื้อร้ายที่เรียกกันว่ามะเร็งอยู่ในร่างกายเราแน่ ๆ ดังนั้นเรามาทานอาหารเหล่านี้เพื่อป้องกันโรคมะเร็งกันก่อนดีไหมคะ
เห็ดชิตาเกะ (เห็ดหอมญี่ปุ่น) - เห็ดชนิดนี้มีทั้งไฟเบอร์สูง และเลนติแนน (Lentinan) ซึ่งช่วยชะลอการเจริญเติบโตของเนื้องอก รวมทั้งมีธาตุสังกะสีสูง ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายอีกด้วย
สตรอเบอร์รี - ผลไม้ตระกูลเบอร์รีชนิดนี้อุดมไปด้วยสาร fisetin ที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และดีต่อสมอง
โยเกิร์ตรสธรรมดา - ผลการศึกษาของวารสารโรคมะเร็งนานาชาติในปี 2011 พบว่า กลุ่มคนที่รับประทานโยเกิร์ตรสธรรมดาเป็นประจำ จะลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งได้ถึง 35% เพราะในโยเกิร์ตอุดมไปด้วยโปรตีน ซึ่งมีส่วนช่วยซ่อมแซมดีเอ็นเอในร่างกายเรานั่นเอง
ต่อสู้โรคเบาหวาน
โรคเบาหวานก็เป็นอีกโรคที่อันตรายต่อชีวิตไม่น้อยไปกว่ามะเร็ง ดังนั้นเราก็ควรกินอาหารที่ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน ดังนี้
บะหมี่โซบะ - บะหมี่โซบะมีแมกนีเซียมสูง ซึ่งแมกนีเซียมก็เป็นสารที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน เพียงแค่รับประทานบะหมี่โซบะปริมาณครึ่งถ้วย ก็จะได้รับแมกนีเซียมครึ่งหนึ่งของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันเลยนะคะ
ถั่วดำ - ในถั่วดำมีสารต่อต้านแป้งที่ร่างกายไม่สามารถต่อต้านเองได้ จึงไม่ทำให้ระดับกลูโคสในเลือดสูงขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้แบคทีเรียชนิดดีและเอนไซม์ในลำไส้มีฤทธิ์ต่อต้านอินซูลินด้วยค่ะ
บำรุงสมอง
มีอาหารหลากหลายชนิดที่ช่วยบำรุงสมองของเรา และอาหารเหล่านี้ก็เช่นกัน
น้ำมันมะกอก - สารโพลีฟีนอลในน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์มีส่วนช่วยป้องกันเซลล์สมองจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคความจำเสื่อม
องุ่นแดง - เรสเวอราทรอล (Resveratrol) ในองุ่นแดง เป็นสารประกอบกลุ่ม Stibenes ซึ่งอยู่ในกลุ่มของโพลีฟีนอลอีกทีหนึ่ง มีสรรพคุณช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (Cardiovascular Disease) ขจัดคราบแอมีลอยด์ บีตา (beta-amyloid plaques) ที่เป็นสาเหตุสำคัญของโรคอัลไซเมอร์
ชาเขียว - ในชาเขียวเองก็มีสรรพคุณช่วยป้องกันการเกิดคราบแอมีลอยด์ บีตา (beta-amyloid plaques) สาเหตุของโรคอัลไซเมอร์เช่นกัน เนื่องจากมีโพลีฟีนอลนั่นเองค่ะ
เพิ่มความอึดตอนออกกำลังกาย
หากรู้สึกเหนื่อยง่าย ออกกำลังกายแป๊ป ๆ ก็ต้องหยุดเพราะรู้สึกไม่ไหว ลองทานอาหารต่อไปนี้ดู เพราะจะช่วยให้คุณอึดและฟิตขึ้นมากเลยทีเดียว
เมล็ดเจีย (Chia Seeds) - เมล็ดเจียมีโปรตีนสูงมาก ขนาดแค่กินเมล็ดเจีย 28.5 กรัม ก็จะได้รับโปรตีนถึง 5 กรัมแล้ว ซึ่งสามารถช่วยฟื้นฟูกกล้ามเนื้อจากอาการอ่อนเพลียหลังออกกำลังกายได้ดีมาก ๆ ค่ะ
กล้วย - จากการทดลองของ Appalachian State University ที่ให้นักปั่นจักรยานกินกล้วยก่อนออกเดินทาง พบว่า นักปั่นจักรยานที่ได้กินกล้วยเข้าไป จะสามารถปั่นจักรยานได้นานกว่านักปั่นจักรยานที่ดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง อีกทั้งสารอาหารในกล้วยยังช่วยเรื่องการย่อยอาหาร และบำรุงหัวใจอีกด้วย
แก้ปัญหานอนไม่หลับ
นอกจากนมที่ช่วยให้นอนหลับสบายขึ้นแล้ว อาหารต่อไปนี้ก็มีส่วนช่วยให้เราหลับง่ายขึ้นด้วยค่ะ
เมล็ดทานตะวัน - ในวันที่แสนวุ่นวาย ลองหยิบเมล็ดทานตะวันมากินเป็นของว่างดูบ้างก็ดี เพราะเมล็ดทานตะวัน 28.5 กรัม จะสามารถให้แมกนีเซียมกับร่างกายได้ถึงครึ่งของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน และยังให้แร่ธาตุกับร่างกาย ซึ่งทั้ง 2 สารอาหารนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อรู้สึกผ่อนคลาย หลับสบายขึ้นนั่นเอง
ข้าวโอ๊ต - หากมีปัญหานอนไม่ค่อยหลับ แนะนำให้กินข้าวโอ๊ตก่อนนอนประมาณ 1 ชั่วโมง เพราะข้าวโอ๊ตจะช่วยปรับระดับกรดอะมิโนทริปโตเฟน (tryptophan) ส่งผลให้สมองผลิตซีโรโทนิน (serotonin) และกระตุ้นให้ร่างกายผลิตเมลาโทนิน (melatonin) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้ร่างกายหลับเป็นเวลา
ปรับการทำงานของลำไส้
สำหรับคนที่มีปัญหาอาหารไม่ย่อย หรือมีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ ลองทานอาหารเหล่านี้ดูนะคะ รับรองว่าจะช่วยแก้ปัญหาลำไส้ให้คุณได้
ขิง - ในแถบเอเชีย เรากินน้ำขิงเพื่อลดอาการคลื่นไส้ และแก้อาการอาหารไม่ย่อยมานมนาน ซึ่งการแพทย์สมัยใหม่ก็สนับสนุนแนวการรักษานี้ และยังบอกด้วยว่า ขิงมีคุณสมบัติปรับการทำงานของลำไส้ให้ดีขึ้น และลดอาการปวดท้องได้ด้วย
เมล็ดควินัว (Quinoa) - แป้งที่ไม่เหมือนใครในเมล็ดธัญพืชชนิดนี้ได้ผ่านการทดสอบและวิจัยของสถาบันเคมีอาหารในปี 2012 มาแล้วว่า มีสรรพคุณช่วยป้องกันแผลในกระเพาะอาหาร สาเหตุของเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ได้
เผาผลาญไขมันส่วนเกิน
นับเป็นข่าวดีของคนกำลังผอมเลยใช่ไหมคะ ที่แค่กินอาหารเหล่านี้ ก็จะช่วยให้การไดเอตของเราประสบผลสำเร็จได้ง่ายขึ้นแล้ว
พริกป่น - ในพริกป่นมีสารแคปสินอยด์ (capsinoids) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยเผาผลาญไขมันในเส้นเลือด โดยได้รับการยืนยันจากอาสาสมัครในการทดลองเมื่อปี 2009 ที่กินน้ำมันสกัดจากแคปสินอยด์วันละ 6 กรัมต่อวัน และพบว่า ในกลุ่มอาสาสมัครเหล่านี้ จะมีปริมาณไขมันน้อยกว่าคนที่ไม่ได้กินน้ำมันสกัลจากแคปสินอยด์ถึง 5 เท่าเลยทีเดียว
เกรปฟรุต - ผู้เชี่ยวชาญได้บอกว่า สารนารินเจนิน (naringenin) ที่มีอยู่ในเกรปฟรุตมีส่วนช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกิน และหากกินก่อนอาหารทุกมื้อ ก็จะช่วยลดขนาดรอบเอวได้ด้วยล่ะ
ถั่วแระ - เมล็ดเล็ก ๆ มัน ๆ ของถั่วแระอุดมไปด้วยไฟเบอร์ โปรตีน ไขมันชนิดดี ที่จะทำให้คุณรู้สึกอิ่มได้นานขึ้น และลดอาการอยากของหวาน ๆ อีกด้วย อย่างนี้บ่าย ๆ ก็จัดถั่วแระเป็นของว่างดีไหมคะ อร่อยแบบไม่อ้วน กินได้เพลิน ๆ ไปเลย
ขอบคุณที่มาจาก กระปุก.คอม
Advertisement
เปิดอ่าน 3,716 ครั้ง เปิดอ่าน 9,613 ครั้ง เปิดอ่าน 12,532 ครั้ง เปิดอ่าน 24,263 ครั้ง เปิดอ่าน 32,827 ครั้ง เปิดอ่าน 17,323 ครั้ง เปิดอ่าน 19,322 ครั้ง เปิดอ่าน 15,823 ครั้ง เปิดอ่าน 14,992 ครั้ง เปิดอ่าน 40,249 ครั้ง เปิดอ่าน 9,326 ครั้ง เปิดอ่าน 18,793 ครั้ง เปิดอ่าน 710 ครั้ง เปิดอ่าน 17,092 ครั้ง เปิดอ่าน 12,988 ครั้ง เปิดอ่าน 17,050 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 11,287 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 19,336 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 12,959 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 12,689 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 13,745 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 1,821 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 19,068 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 20,664 ครั้ง |
เปิดอ่าน 14,726 ครั้ง |
เปิดอ่าน 15,388 ครั้ง |
เปิดอ่าน 15,628 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,740 ครั้ง |
|
|