ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

มติ ครม. 21 พฤษภาคม 2556 ที่เกี่ยวข้องกับ ศธ. 5 เรื่อง


ข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ 22 พ.ค. 2556 เวลา 09:03 น. เปิดอ่าน : 11,286 ครั้ง
Advertisement

มติ ครม. 21 พฤษภาคม 2556 ที่เกี่ยวข้องกับ ศธ. 5 เรื่อง

Advertisement

สรุปมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2556 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ 5 เรื่อง คือ
- อนุมัติร่างกฎ ก.พ.อ. การได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา

-รับทราบการติดตามงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล (ในส่วนของ ศธ. คือ กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กองทุนตั้งตัวได้ และจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้แก่โรงเรียน)

-รับทราบแผนปฏิบัติการตามแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านเด็กปฐมวัย

-รับทราบผลการพิจารณาคำร้องที่ขอให้เสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย

-แต่งตั้ง นายซูการ์โน มะทา ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

►อนุมัติร่างกฎ ก.พ.อ. การได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา

ครม.มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎ ก.พ.อ. การได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยสาระสำคัญของร่างกฎ ก.พ.อ. คือ กำหนดให้สายงานจิตวิทยาคลินิก เป็นตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะมีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่ง

ข้อเท็จจริง

คณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) ได้กำหนดมาตรฐานกำหนดตำแหน่งข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาของกลุ่มประเภทวิชาชีพเฉพาะไว้จำนวน 29 วิชาชีพเฉพาะตามกฎ ก.พ.อ. โดยมาตรฐานกำหนดตำแหน่งดังกล่าวไม่ได้กำหนดสายงานจิตวิทยาคลินิก แต่เนื่องจากมีข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาหลายแห่งที่มีคณะแพทย์ศาสตร์และโรงพยาบาลให้บริการด้านสุขภาพที่ดำรงตำแหน่งนักจิตวิทยาและมีคุณวุฒิทางจิตวิทยาคลินิก พร้อมทั้งมีใบประกอบโรคศิลปะสาขาจิตวิทยาคลินิกตลอดรวมถึงปฏิบัติหน้าที่ความรับผิดชอบหลัก ตามมาตรฐานวิชาชีพจิตวิทยาคลินิกของสำนักงาน ก.พ.

ดังนั้น ก.พ.อ. จึงเห็นสมควรให้กำหนดมาตรฐานกำหนดตำแหน่งสายงายจิตวิทยาคลินิกเพิ่มขึ้นอีก 1 สายงาน และกำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ระดับชำนาญการขึ้นไปของสายงานจิตวิทยาคลินิก เป็นตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะที่มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่ง ตามแนวทางเดียวกับข้าราชการพลเรือนสามัญ ซึ่งการกำหนดตำแหน่งนักจิตวิทยาคลินิกเป็นตำแหน่งที่มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่ง มีผลให้ต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้น 951,600 บาท

นอกจากนี้ ก.พ.อ. ในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคลข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ได้มีมติเห็นชอบมาตรฐานกำหนดตำแหน่งสายงานจิตวิทยาคลินิก และกำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ระดับชำนาญการขึ้นไปของสายงานจิตวิทยาคลินิก ซึ่งเป็นตำแหน่งวิชาชีพเฉพาะมีสิทธิได้รับเงินเดือนประจำตำแหน่ง ในการประชุมครั้งที่ 6/2555 เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2555

►รับทราบการติดตามงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล (ในส่วนของ ศธ. คือ กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กองทุนตั้งตัวได้ และจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้แก่โรงเรียน)

ครม.มีมติรับทราบการติดตามงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ด้านสังคมและคุณภาพชีวิต ในส่วนของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์) ประจำเดือนมีนาคม 2556 ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์) เสนอดังนี้

1. ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน

1.1 กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี งานสนับสนุนการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินการจ้างเจ้าหน้าที่ประสำนักงานกรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่ประจำจังหวัด และอยู่ระหว่างดำเนินการจ้างเหมาเอกชนบันทึกข้อมูลใบสมัครสมาชิกกองทุนฯ ที่ได้รับมาจาก สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) นอกจากนี้ได้ดำเนินการงานประชาสัมพันธ์กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และดำเนินงานยุทธศาสตร์และพัฒนาศักยภาพกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแล้ว เช่น จัดประชุมคณะกรรมการและยุทธศาสตร์กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ดำเนินโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเพิ่มศักยภาพคณะกรรมการกองทุนฯ ระดับตำบลและเจ้าหน้าที่จังหวัด (เพิ่มเติม) จัดกิจกรรมกองทุนฯ เนื่องในวันสตรีสากล ประจำปี 2556 เป็นต้น

2. กองทุนตั้งตัวได้

2.1 ศธ.ได้ดำเนินการดังนี้ เห็นชอบการกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาสถาบันการศึกษาที่สามารถขอจัดตั้งเป็น ABI (Authorized Business Incubator) และมอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนตั้งตัวได้จัดทำ TOR การจัดตั้ง ABI เพื่อประกาศใช้ต่อไป
2.2 กระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการบ่มเพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ให้มีศักยภาพในการประกอบธุรกิจ (กองทุนตั้งตัวได้) วงเงิน 1,300 ล้านบาท โดยมอบงบประมาณให้ ศธ.ไปดำเนินการทั้งหมด

3. พัฒนาระบบประกันสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า การคุ้มครองสิทธิ การบริการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ การสร้างความมั่นคงทางการเงินการคลังของหน่วยบริการ

4. จัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้แก่โรงเรียน

4.1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดประชุมหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดซื้อแท็บเล็ตทั้ง 10 หน่วยงาน และเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติการจัดซื้อประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอ ครม.เพื่อพิจารณา
4.2 กระทรวงศึกษาธิการได้แต่งตั้งได้คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการ จัดการเรียนการสอนโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช) เป็นประธาน ซึ่งได้มีการจัดทำแผนการประกวดราคาซื้อด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
4.3 สพฐ. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการประกวดราคาการจัดซื้อเครื่องแท็บเล็ต ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ซึ่งได้มีการพิจารณาร่าง TOR จัดซื้อแท็บเล็ตด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้กับ 9 หน่วยงาน ขณะนี้ ร่าง TOR เสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการขออนุมัติ TOR เพื่อจัดซื้อ
4.4 ขณะนี้มีหน่วยงาน 9 หน่วยงาน ที่มีหนังสือมอบอำนาจให้ สพฐ. ดำเนินการจัดซื้อแทน (ยกเว้น อปท.)
4.5 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สถาบันการพลศึกษา ได้มอบอำนาจให้ สพฐ.ดำเนินการจัดหาด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ และในช่วงเดือนมีนาคม 2556 ได้ดำเนินการประชุมคณะกรรมการจัดทำ TOR และอยู่ในระหว่างกระบวนการตรวจสอบการจัดทำ TOR

►รับทราบแผนปฏิบัติการตามแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านเด็กปฐมวัย

ครม.มีมติรับทราบแผนปฏิบัติการตามแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านเด็กปฐมวัย พ.ศ.2555–2559 เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปดำเนินการให้บังเกิดผลต่อการพัฒนาเด็กปฐมวัยตามนโยบายรัฐบาลด้านเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2555–2559 ประกอบด้วยโครงการ/แผนงานใน 4 ยุทธศาสตร์ ดังนี้

1. ยุทธศาสตร์ที่ 1 เด็กทุกคนได้รับบริการในการพัฒนาเต็มศักยภาพ ประกอบด้วย 91 โครงการ/แผนงาน เช่น โครงการจัดทำบัตรประชาชนเด็กแรกเกิด ถึง 6 ปี โครงการพัฒนาระบบการจดทะเบียนการเกิด โครงการส่งเสริมโภชนาการและอนามัยแม่และเด็กบนพื้นที่สูง โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันและอาหารเสริมนมสำหรับเด็กปฐมวัยในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน การส่งเสริมการเจริญเติบโตโภชนาการของเด็กปฐมวัยในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน การส่งเสริมการเจริญเติบโตโภชนาการของเด็กปฐมวัยในศูนย์เด็กเล็ก คลินิกเด็กสุขภาพดี โครงการพัฒนาการดีเริ่มที่นมแม่อย่างมีส่วนร่วม โครงการส่งเสริมพัฒนาเด็กปฐมวัยอย่างมีส่วนร่วม โครงการพัฒนาสวัสดิการแรงงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ใช้แรงงาน โครงการพัฒนาเด็กปฐมวัยอย่างมีส่วนร่วม โครงการพัฒนาสวัสดิการแรงงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ใช้แรงงาน โครงการพัฒนาเด็กปฐมวัยบุตรผู้ใช้แรงงาน ศูนย์เด็กเล็กน่าอยู่คู่นมแม่ มุมนมแม่ในศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 68 แห่ง เป็นต้น

2. ยุทธศาสตร์ที่ 2 ไอโอดีนกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย ประกอบด้วย 30 โครงการ/แผน เช่น โครงการควบคุมและป้องกันโรคขาดสารอาหารไอโอดีน ปี 2556 โครงการเฝ้าระวังโรคขาดสารไอโอดีนแบบบูรณาการ โครงการบริหารจัดการและสร้างความเข้มแข็งภาคีเครือข่ายโครงการสื่อสารสาธารณสุขเพื่อปรับพฤติกรรมการบริโภคผลิตภัณฑ์ไอโอดีน โครงการยกระดับมาตรฐานการผลิตเกลือบริโภค ใช้มาตรการบังคับกำหนดให้การใช้เกลือ (โซเดียมคลอไรด์) ต้องใช้เกลือ (โซเดียมคลอไรด์) เสริมสร้างไอโอดีนเป็นส่วนผสมในกรผลิตอาหารสัตว์ ถ่ายทอดความรู้ประโยชน์ของเกลือ (โซเดียมคลอไรด์) เสริมไอโอดีนให้ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ เฝ้าระวังปริมาณไอโอดีนในอาหารไก่ไข่ รณรงค์การใช้เครื่องปรุงรสที่มีส่วนประกอบของสารไอโอดีนในการประกอบอาหารให้แก่เด็ก เป็นต้น

3. ยุทธศาสตร์ที่ 3 การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย ประกอบด้วย 73 โครงการ/แผน เช่น โครงการส่งเสริมเด็กไทยให้รักการอ่าน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันพระราชสมภพ 2 เมษายน เป็นวันหนังสือเด็กแห่งชาติ การประชุมสัมมนาผู้ปกครองของเด็กที่รับบริการที่สถานรับเลี้ยงเด็กเอกชน การฝึกอบรมแก่ผู้ปฏิบัติงานด้านเด็กปฐมวัยในสถานรองรับเด็กเอกชน (สถานรับเลี้ยงเด็ก สถานสงเคราะห์เด็ก สถานแรกรับ สถานพัฒนาและฟื้นฟู) การส่งเสริมจัดมุมความรู้สำหรับผู้ปกครองในสถานรับเลี้ยงเด็กเอกชน กิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กปฐมวัยในชุมชนด้อยโอกาส เสริมทักษะชีวิตของครอบครัว ส่งเสริมสวัสดิภาพเด็กปฐมวัยในชุมชน โครงการพัฒนาพ่อแม่ ผู้ปกครองเด็กปฐมวัย โครงการให้ความรู้ครูปฐมวัย โครงการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนในโรงเรียนเอกชน โครงการพัฒนาบุคลากรและผู้เกี่ยวข้องกับการศึกษาในโรงเรียนอนุบาลเอกชน เป็นต้น

4. ยุทธศาสตร์ที่ 4 กลไกการดำเนินงานพัฒนาเด็กปฐมวัย ประกอบด้วย 10 โครงการ/แผนงาน เช่น การประชุมคณะกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ การประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาเด็กปฐมวัย เด็กไทย สูง – สมส่วน สมองดี แข็งแรง การตรวจติดตามประเมินผลการจัดการศึกษาโรงเรียนเอกชนประเภทสามัญเอกชน โครงการวิจัยเพื่อติดตามสภาวการณ์เด็กปฐมวัยในถิ่นทุรกันดาร โครงการวิจัยและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัยในถิ่นทุรกันดาร โครงการวิจัยและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัยในถิ่นทุรกันดาร โครงการพัฒนาระบบส่งต่อข้อมูลและเชื่อมต่อการทำงานเพื่อส่งเสริมพัฒนาการและเชาว์ปัญญาเด็กไทย เป็นต้น

►รับทราบผลการพิจารณาคำร้องที่ขอให้เสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย

ครม.มีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (สม.) เสนอ โดยให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รับข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ รวมทั้งความเห็นของกระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยอยู่ในกรอบของกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัดต่อไป

ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย

1. ศธ.ควรมีการกำหนดนโยบายในการพัฒนาด้านการจัดการศึกษาโดยครอบครัวให้มีความชัดเจน เพื่อเป็นการส่งเสริมการจัดการศึกษาตามอัธยาศัยและเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่สนใจ รวมทั้งควรมีการเชื่อมโยงการศึกษาทั้ง 3 ระบบ คือ การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเพื่อเป็นการพัฒนาระบบการศึกษาตามอัธยาศัยของประเทศไทยให้มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพต่อไป

2. สพฐ.ควรเร่งรัดในการจัดทำคู่มือการดำเนินงานการจัดการศึกษาโดยครอบครัวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ ต้องคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมีแนวปฏิบัติเป็นไปในแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ ซึ่งต้องมีการทำความเข้าใจในเชิงระบบให้ตรงกันทั่วประเทศ โดยหลังจากที่ได้มีการใช้คู่มือฯ ดังกล่าวแล้ว ควรมีการรับฟังปัญหาจากการใช้คู่มือฯ และการประเมินผลร่วมกันของผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการปรับปรุงคู่มือฯ ให้มีความทันสมัยและเหมาะสมกับการจัดการศึกษาโดยครอบครัว และเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ซึ่งกันและกันซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมและเป็นระบบต่อไป

3. สพฐ.ควรเร่งรัดการดำเนินการตามที่ได้จัดทำแผนพัฒนาการศึกษาโดยครอบครัวเป็น 2 ระยะ คือ การดำเนินงานระยะยาว และการดำเนินงานในปีงบประมาณถัดไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามประเด็นปัญหาที่ได้มีการวิเคราะห์และได้กำหนดเป้าหมายเพื่อการจัดทำแผนงานการพัฒนาระบบการจัดการศึกษาโดยครอบครัวไว้แล้ว

4. สพฐ. ควรเร่งประสานงานและหารือ ไปยังหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหาประเด็นการเรียนวิชาทหารเรือการเรียนรักษาดินแดน (รด.) โดยเฉพาะปัญหาการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้มีการกำหนดหลักเกณฑ์และให้สิทธิกับผู้เรียนจากการศึกษาโดยครอบครัว ผู้เรียนจากการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) ผู้เรียนจากการศึกษาทางเลือก และผู้เรียนจากการศึกษาตามอัธยาศัย ในการสมัครเป็นนักศึกษาวิชาทหาร ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 71 บัญญัติว่า “บุคคลมีหน้าที่ป้องกันประเทศ รักษาผลประโยชน์ของชาติ และปฏิบัติตามกฎหมาย” เพื่อเป็นกำลังของชาติโดยรัฐสามารถเกณฑ์กำลังพลมาใช้ป้องกันประเทศยามศึกสงคราม ทั้งนี้ การสมัครเป็นนักศึกษาวิชาทหารเพื่อให้ผู้ที่สนใจได้รับการฝึกวิชาทหารและพร้อมที่จะเป็นกำลังสำรองรับใช้ชาติในยามศึกสงคราม

5. สพฐ.ควรมีการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ผู้จัดการศึกษาโดยครอบครัวผู้ที่เกี่ยวข้อง และประชาชนทั่วไปได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการศึกษาโดยครอบครัวและเป็นการส่งเสริมให้มีความเข้าใจตรงกัน รวมทั้งการจัดอบรมและให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนและเป็นการปรับทัศนคติในเรื่องการจัดการศึกษาโดยครอบครัว

6. สพฐ.ควรหารือไปยังกรมบัญชีกลางและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายงบประมาณ งบเงินอุดหนุนการจัดการศึกษาโดยครอบครัวของผู้ที่ร้องที่ 2 (ตามคำร้องที่ 162/2555) เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป รวมทั้งควรมีการหารือเพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจนต่อไปในอนาคตเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของครอบครัวที่จะได้รับเงินอุดหนุนการศึกษารายหัวสำหรับผู้เรียน และเงินอุดหนุนสำหรับการจัดการศึกษาโดยครอบครัว

7. สพฐ.ควรมีการชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้จัดการศึกษาโดยครอบครัว เพื่อให้ครอบครัวและผู้เรียนจากการจัดการศึกษาโดยครอบครัวได้มีความรู้ ความเข้าใจในบทบาทอำนาจหน้าที่ และการดำเนินงานของ สพฐ. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันและเกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างผู้จัดการศึกษาโดยครอบครัว ผู้เรียนจากการจัดการศึกษาโดยครอบครัว และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีและการมีทัศนคติที่ดีต่อกันในการดำเนินงานต่อไปในอนาคต

 

►แต่งตั้งข้าราชการการเมือง

ครม.มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายซูการ์โน มะทา ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2556 เป็นต้นไป

 

ที่มา http://www.moe.go.th/websm/2013/may/163.html


มติ ครม. 21 พฤษภาคม 2556 ที่เกี่ยวข้องกับ ศธ. 5 เรื่องมติครม.21พฤษภาคม2556ที่เกี่ยวข้องกับศธ.5เรื่อง

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

การประชุมเพื่อยกระดับผลการทดสอบ PISA

การประชุมเพื่อยกระดับผลการทดสอบ PISA

เปิดอ่าน 8,264 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
สานฝัน วันทีน สู่นักจัดรายการโทรทัศน์รุ่นใหม่
สานฝัน วันทีน สู่นักจัดรายการโทรทัศน์รุ่นใหม่
เปิดอ่าน 4,493 ☕ คลิกอ่านเลย

ผลการประชุม Super Board ด้านการศึกษา เมื่อวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2559
ผลการประชุม Super Board ด้านการศึกษา เมื่อวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2559
เปิดอ่าน 21,597 ☕ คลิกอ่านเลย

รมว.ศธ.ประชุมผู้บริหาร สพฐ.
รมว.ศธ.ประชุมผู้บริหาร สพฐ.
เปิดอ่าน 9,045 ☕ คลิกอ่านเลย

เผยมติ ครม.ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ (25 ก.ค. 55)
เผยมติ ครม.ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ (25 ก.ค. 55)
เปิดอ่าน 11,679 ☕ คลิกอ่านเลย

นโยบาย ICT เพื่อการศึกษา
นโยบาย ICT เพื่อการศึกษา
เปิดอ่าน 7,431 ☕ คลิกอ่านเลย

มาตรฐานตำแหน่งและเงินเพิ่มพิเศษ ของครู-ผู้บริหารสถานศึกษา
มาตรฐานตำแหน่งและเงินเพิ่มพิเศษ ของครู-ผู้บริหารสถานศึกษา
เปิดอ่าน 6,962 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

99 ประโยคภาษาอังกฤษ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
99 ประโยคภาษาอังกฤษ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
เปิดอ่าน 96,684 ครั้ง

ปิดเทอมเพิ่มทักษะประสบการณ์อยู่ที่บ้านได้ความรู้คู่เพลิดเพลิน แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ เที่ยวไป เรียนไปกับ สสวท.
ปิดเทอมเพิ่มทักษะประสบการณ์อยู่ที่บ้านได้ความรู้คู่เพลิดเพลิน แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ เที่ยวไป เรียนไปกับ สสวท.
เปิดอ่าน 13,669 ครั้ง

เตือนกินเค็มจัดเป็นมะเร็งกระเพาะ ยังทำให้ความดันโลหิตถีบตัวขึ้นสูง
เตือนกินเค็มจัดเป็นมะเร็งกระเพาะ ยังทำให้ความดันโลหิตถีบตัวขึ้นสูง
เปิดอ่าน 11,875 ครั้ง

ชมด่วน คลิป หมาเดาะบอลขั้นเทพ
ชมด่วน คลิป หมาเดาะบอลขั้นเทพ
เปิดอ่าน 15,132 ครั้ง

ข้อห้ามของคนอกหัก
ข้อห้ามของคนอกหัก
เปิดอ่าน 23,732 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ