ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

เยาวชนไทยกินอยู่อย่างไทยตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,151 ครั้ง
Advertisement

เยาวชนไทยกินอยู่อย่างไทยตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

Advertisement

 

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามสืบทอดกันมาอย่างยาวนานวิถีชีวิตของคนไทยนั้นเต็มไปด้วยภูมิปัญญามากมายเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ และเราซึ่งเป็นเยาวชนไทยควรที่จะศึกษาและปฏิบัติเพื่อเป็นการรักษาให้คงอยู่

                เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจในปี พ.ศ.๒๕๔0 ประเทศไทยได้เข้าสู่วิกฤติในด้านเศรษฐกิจ และได้หันมาสนใจในแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกันมากขึ้น ซึ่งแนวเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า ๒๕ ปี ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ และเมื่อภายหลังได้ทรงย้ำแนวทางการแก้ไขเพื่อให้รอดพ้น และสามารถอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช่ให้เรากลับจากประเทศอุตสาหกรรมไปเป็นประเทศเกษตรกรรมอีกครั้ง แต่เป็นแนวปรัชญาในการดำเนินชีวิตให้สามารถดำรงอยู่รอดได้ภายใต้สังคมที่มีความเปลี่ยนแปลงไม่แน่นอน ได้อย่างมีความสุข ความพอเพียงหมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล ไม่ใช่ตระหนี่ถี่เหนียว ความพอเพียงสำหรับหลายๆคนอาจไม่เท่ากันก็ได้ อย่างเช่น นักธุรกิจอาจมีรถยนต์ แต่เราอาจใช้รถจักรยานยนต์ก็ได้ ต้องคำถึงเหตุผลและฐานะของตน มีน้อยก็ควรใช้น้อยอย่าใช้เงินเกินตัว ดังสุภาษิตที่ว่า เห็นช้างขี้อย่าขี้ตามช้าง นอกจากนี้เราควรจะมีเงินออมเก็บด้วยหากมีอะไรเกิดขึ้นมาในอนาคต ซึ่งเราก็ไม่อาจรู้ได้ เราจะได้สามารถมีชีวิตอย่างปกติสุขคือจะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการที่จะมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ทั้งนี้ จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้น เราเยาวชนไทยที่จะเป็นกำลังหลักของชาติต่อไปควรเห็นถึงความสำคัญและสามารถปฏิบัติตาม ในเรื่องนี้ได้อย่างง่ายๆและใกล้ตัว คือการกินอยู่อย่างไทย

                ประเทศไทยเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น มีความอุดมสมบูรณ์ในทรัพยากรธรรมชาติ  พืชพรรณธัญญาหาร ในน้ำมีปลาในนามีข้าว จึงเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรออกสู่ตลาดโลก จากกระแสวัฒนธรรมตะวันตกทำให้พฤติกรรมการกินอาหารของคนไทยเปลี่ยนแปลงไปมาก จากเดิมกินอยู่อย่างไทย มาเป็นกินอยู่แบบฝรั่งมากขึ้น จากที่เคยกินอาหารธรรมชาติที่มีข้าวกล้องและข้าวซ้อมมือ กินพืชผักและผลไม้มาก เปลี่ยนมากินอาหารจำพวกฟาสต์ฟู้ด ซึ่งประกอบไปด้วยเนื้อสัตว์และไขมันมาก พืชผักและผลไม้น้อย ไม่มีเส้นใยอาหาร ประกอบกับวิถีชีวิตที่เร่งรีบมากขึ้น จำเป็นต้องกินอาหารสำเร็จรูป มีสารแต่งสี แต่งกลิ่น ผงชูรส สารกันบูด ส่งผลให้เกิดโรคจากภาวะโภชนาการเกินติดตามมา อาทิ โรคอ้วน คอเลสเตอรอลในเลือดสูง ความดันโลหิตสูงเบาหวานและโรคที่เป็นภัยร้ายแรงอย่างมะเร็งซึ่งกำลังฆ่าคนไทยเป็นจำนวนมาก นอกจากพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไปแล้ว การดำรงชีวิตก็เปลี่ยนไปด้วย คือการเราเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมทำให้เราหวังแต่ผลประโยชน์ มีชีวิตที่รีบเร่ง แข่งขันทำให้เกิดภาวะเครียด รวมถึงการไม่ออกกำลังกาย 

                เราควรหันมากินอยู่อย่างไทยตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง เริ่มจากพฤติกรรมการกิน อาหารไทยนั้นได้ชื่อว่าเป็นอาหารสุขภาพนอกจากจะให้คุณค่าทางโภชนาการที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างครบถ้วนแล้ว ยังให้สรรพคุณทางยาและสมุนไพร ซึ่งแต่เดิมมาคนไทยกินข้ามซ้อมมือ ซึ่งมีวิตามินบีสูง สามารถแก้โรคเหน็บชาและโรคปากนกกระจอกได้ ในปัจจุบันนี้เราหันมากินข้าวขาว ซึ่งมีคุณค่าทางอาหารน้อยกว่าข้าวกล้องคือข้าวที่สีเอาเปลือกออก แต่ไม่ได้ขัดสีรำออก จึงยังคงคุณค่าสารอาหารต่าง ๆข้าวกล้องมีโปรตีนชั้น วิตามินบีสูงมาก เกลือแร่หลายอย่าง อีกทั้งยังมีไขมันที่ดี มีไฟเบอร์ (กากใยอาหาร) กินข้าวกล้องจึงช่วยให้ขับถ่ายได้สะดวก และควรหันมาบริโภคผักพื้นบ้านของไทยซึ่งเป็นอาหารที่หาง่ายและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เรามีผักต่างๆมากมายหลายชนิด  ทำให้คนในสมัยก่อนมีสุขภาพที่ดี อาหารไทยเป็นอาหารที่มีการปรุงรสด้วยเครื่องเทศซึ่งก็มีสรรพคุณเป็นสมุนไพร เช่น พริกช่วยในระบบย่อยอาหาร

                ต่อมาคือการดำรงชีวิต คือการอยู่อย่างพอเพียงตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น หันมาออกกำลังกาย ไม่ทำอะไรเกินตัวดำรงชีวิตอย่างพอควร  พออยู่  พอกิน  สมควรตามอัตภาพและฐานะของตน หันมาในกระแสของการนิยมไทย พยายามให้พึ่งตนเองได้   สามารถดำรงชีวิตอย่างพอดี คือ  ต้องเข็มแข็ง มีจิตสำนึกที่ดี  เอื้ออาทร และนึกถึงประโยชน์ส่วนรวม ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน รู้จักใช้และจัดการทรัพยากรธรรมชาติ รู้จัดใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม และสอดคล้องกับความต้องการ  ตามแนวพระราชดำรัชว่า... "....ความเป็นอยู่ที่ต้องไม่ฟุ้งเฟ้อ  ต้องประหยัดไปในทางที่ถูกต้อง..."  ประกอบอาชีพที่สุจริต ไม่คดโกง ดังพระราชดำรัสว่า  "....ความเจริญของคนทั้งหลาย ย่อมเกิดมาจากการประพฤติชอบ และการหาเลี้ยงชีพของตนเองเป็นหลักสำคัญ..."

                ขอให้เราเยาวชนไทยหันมากินอยู่อย่างไทยหันมามองภูมิปัญญาไทย อย่าคิดว่าเชยหรือล้าสมัยตามแนวพระราชดำรัชว่า“...คนอื่นจะว่าอย่างไรก็ช่างเขาจะว่าเมืองไทยล้าสมัย ว่าเมืองไทยเชย ว่าเมืองไทยไม่มีสิ่งใหม่แต่เราอยู่ อย่างพอมีพอกิน และขอให้ทุกคนมีความปรารถนาที่จะให้เมืองไทยพออยู่พอกิน มีความสงบ ช่วยกันรักษาส่วนร่วม ให้อยู่ที่พอสมควร ขอย้ำพอควร พออยู่พอกิน มีความสงบไม่ให้คนอื่นมาแย่งคุณสมบัตินี้ไปจากเราได้...

พระราชกระแสรับสั่งในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงแก่ผู้เข้าเฝ้าถวายพระพรชัยมงคล

เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาแต่พระพุทธศักราช ๒๕๑๗

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 2737 วันที่ 22 ก.พ. 2552


เยาวชนไทยกินอยู่อย่างไทยตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

วิธีแก้ลืม

วิธีแก้ลืม


เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง
ไม้มงคล

ไม้มงคล


เปิดอ่าน 7,416 ครั้ง
ภัยจากการนอน...กรน

ภัยจากการนอน...กรน


เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง
สื่อการสอนภาษาอังกฤษ(20)

สื่อการสอนภาษาอังกฤษ(20)


เปิดอ่าน 7,172 ครั้ง
..ปฏิบัติเพื่ออะไร...?

..ปฏิบัติเพื่ออะไร...?


เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง
เกาะส่วนตัวน้องปูแดง

เกาะส่วนตัวน้องปูแดง


เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง
เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ

เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ


เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

การฉีดโบท็อก...น่าลอง..หรือน่ากลัว..!!!

การฉีดโบท็อก...น่าลอง..หรือน่ากลัว..!!!

เปิดอ่าน 7,145 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
Apple Tree
Apple Tree
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย

ซดชาเขียววันละ 2 เหยือก หนีตายจากโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
ซดชาเขียววันละ 2 เหยือก หนีตายจากโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย

 27  พฤษภาคม  คล้ายวันชาตกาล 103 ปี หลวงพ่อพุทธทาส
27 พฤษภาคม คล้ายวันชาตกาล 103 ปี หลวงพ่อพุทธทาส
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย

เล่าเรื่องเสภาขุนช้างขุนแผน...ตอนกำเนิดพลายงาม....ของสุนทรภู่
เล่าเรื่องเสภาขุนช้างขุนแผน...ตอนกำเนิดพลายงาม....ของสุนทรภู่
เปิดอ่าน 8,066 ☕ คลิกอ่านเลย

เห็ดหูหนูดำป้องกันหลอดเลือดอุดตัน
เห็ดหูหนูดำป้องกันหลอดเลือดอุดตัน
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย

สพท.สระบุรี เขต 2 เรียกบรรจุครุ รอบ 2
สพท.สระบุรี เขต 2 เรียกบรรจุครุ รอบ 2
เปิดอ่าน 7,147 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

หลักภาษาไทย ฉันทลักษณ์
หลักภาษาไทย ฉันทลักษณ์
เปิดอ่าน 65,384 ครั้ง

เด็กไทยมีไอคิวต่ำลงจริงหรือ?
เด็กไทยมีไอคิวต่ำลงจริงหรือ?
เปิดอ่าน 17,039 ครั้ง

ห.ร.ม. และ ค.ร.น.
ห.ร.ม. และ ค.ร.น.
เปิดอ่าน 80,582 ครั้ง

10 อันดับของคำที่มักออกเสียงผิดบ่อยๆ
10 อันดับของคำที่มักออกเสียงผิดบ่อยๆ
เปิดอ่าน 32,767 ครั้ง

การบวกเมตริก
การบวกเมตริก
เปิดอ่าน 13,746 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ