นางรัตนา ศรีเหรัญ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่าขณะนี้สำนักงาน ก.ค.ศ.กำลังดำเนินการจัดทำร่างระเบียบ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินวิทยพัฒน์ พ.ศ.... เพื่อเสริมสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของผู้ที่มีผลงาน หรือผลการปฏิบัติงานดีเด่น หรือผู้ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติสมควรได้รับเงินวิทยพัฒน์ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการในลักษณะของการประชาพิจารณ์ ได้ข้อสรุปเบื้องต้นเกี่ยวกับร่างระเบียบ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูฯแล้ว มีรายละเอียดที่สำคัญได้แก่ ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับเงินวิทยพัฒน์จะได้รับเข็มเชิดชูเกียรติ โล่รางวัล เกียรติบัตร และเงินจำนวน 100,000 บาท จำนวน 10 รางวัล เพียงครั้งเดียว โดยได้กำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาผลงานดีเด่น หรือผลการปฏิบัติงานดีเด่น หรือการยกย่องเชิดชูเกียรติ เพื่อให้ได้รับเงินวิทยพัฒน์ อาทิ
1.ผลงานดีเด่น จะต้องเป็นผลงานที่มีคุณประโยชน์ต่อการศึกษาเป็นที่ประจักษ์เป็นผลงานที่เกิดประโยชน์อย่างยิ่งแก่วงการวิชาชีพ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์เป็นผลงานที่แสดงออกทางความคิด มีการสร้างองค์ความรู้ใหม่ มีการนำไปใช้อย่างแพร่หลาย
2.ผลการปฏิบัติงานดีเด่น จะต้องปฏิบัติงานตามหน้าที่ที่ได้ผลดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ ทุ่มเทและเสียสละ เป็นแบบอย่างที่ดี มีจิตวิญญาณของวิชาชีพ มีความเป็นเลิศพิเศษ เป็นต้น
เลขาธิการ ก.ค.ศ.กล่าวต่อว่า ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่จะได้รับพิจารณาให้ได้เงินวิทยพัฒน์ นอกจากจะต้องมีผลงานดีเด่น หรือได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติแล้วยังต้องเป็นผู้ที่มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ และต้องไม่ถูกลงโทษทางวินัย หรืออยู่ระหว่างดำเนินการทางวินัย หรือไม่เคยถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษในคดีอาญา เว้นแต่เป็นความผิดที่กระทำโดยประมาทหรือลหุโทษ อย่างไรก็ตาม สำหรับการออกร่างระเบียบ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูฯ ได้รับเงินวิทยพัฒน์อาศัยอำนาจตามมาตรา 19(4) และมาตรา 75 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ทั้งนี้ตนจะขอดูร่างระเบียบดังกล่าวนี้ก่อน จากนั้นจะนำเสนอให้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาวิสามัญเกี่ยวกับการเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และจากนั้นนำเสนอที่ประชุม ก.ค.ศ.พิจารณาเห็นชอบต่อไปโดยอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้อีก
ด้านนางสุพร คมขำ ผู้อำนวยการภารกิจกองทุนและสวัสดิการทางการศึกษา สำนักงาน ก.ค.ศ. กล่าวว่า การผลักดันเรื่องนี้ได้ดำเนินการมาก่อนหน้านี้แล้วและมีความคาดหวังว่าภายในปีนี้น่าจะผลักดันร่างระเบียบ ก.ค.ศ.ฉบับดังกล่าวออกมาให้สำเร็จเพื่อจะได้เป็นขวัญและกำลังใจแก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งได้มีการสอบถามเรื่องนี้กันมาโดยตลอดว่าเมื่อไรจะดำเนินการเสร็จ
(ที่มา:มติชนรายวัน 17 เมษายน 2556)