ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

สร้างความสุขความสำเร็จในชีวิตด้วย ?ทักษะการรู้จักตนเอง?..สู่ลูก


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,138 ครั้ง
Advertisement

สร้างความสุขความสำเร็จในชีวิตด้วย ?ทักษะการรู้จักตนเอง?..สู่ลูก

Advertisement

 
สร้างความสุขความสำเร็จในชีวิตด้วย “ทักษะการรู้จักตนเอง”  
 
 
            นักปราชญ์ชาวจีนผู้หนึ่งเดินทางโดยรถม้าไปตามถนน เมื่อถึงทางเข้าหมู่บ้านหนึ่ง รถม้าได้หยุดลงเนื่องจากมีเด็กคนหนึ่งนั่งเล่นกลางถนนขวางทางเดินรถ   นักปราชญ์ชะโงกหน้าไปเพื่อขอให้เด็กน้อยหลีกทางให้ เด็กน้อยจึงถามว่าท่านเป็นใคร นักปราชญ์ตอบกลับอย่างภาคภูมิใจว่าตนคือมหาปราชญ์ผู้ล่วงรู้ทุกสิ่งในโลกและได้เขียนตำราต่าง ๆ มากมายกว่าร้อยเล่ม เมื่อได้ฟังเช่นนั้นเด็กน้อยจึงถามกลับว่า “ถ้าเช่นนั้น ลุงรู้หรือไม่ว่าบนท้องฟ้านั้นมีดาวกี่ดวง” นักปราชญ์ตอบกลับว่าช่วยถามอะไรที่มันใกล้ตัวกว่านี้ได้หรือไม่ เด็กน้อยตอบว่าก็ได้ผมจะขอถามเรื่องที่ใกล้ตัวลุงก็แล้วกัน “ขนคิ้วและผมบนหัวของลุงมีกี่เส้นครับ” ฝ่ายนักปราชญ์เมื่อได้ฟังคำถามแล้วจึงรีบให้สารถีถอยรถกลับทันที พร้อมจากหนูน้อยไปโดยไม่พูดอะไรอีกเลย .
 
              นิทานปรัชญาจีนเรื่องนี้ให้ข้อคิดที่ซ่อนอยู่ว่า แม้เราจะคิดว่ามีความรู้มากมาย เก่งสารพัดอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่เราพลาดและหลงลืมไป ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องสำคัญในชีวิตนั่นคือการไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเรานั่นเอง 
 
              การที่พ่อแม่จำนวนมากต่างพยายามส่งเสริมลูกของตนอย่างสุดกำลังในการพัฒนาศักยภาพความสามารถด้านต่าง ๆ สนับสนุนในเรื่องการศึกษาหาความรู้ในสาขาต่าง ๆ ทั้งในและนอกระบบ เพื่อปูพื้นฐานในวัยเยาว์ให้ลูกเติมโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในอนาคตนั้นนับว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับโลกยุคใหม่ที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง และในโลกยุคความรู้คืออำนาจในปัจจุบัน  อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ส่วนใหญ่กลับหลงลืมและละเลยในการสอนลูกไปอย่างน่าเสียดายนั่นคือการสอนให้ลูก “รู้จักตนเอง”
 
              การรู้จักตนเอง เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ดูเหมือนไม่น่าจะสลักสำคัญอะไรที่เราจะต้องมานั่งเรียนรู้ทำความเข้าใจ แต่ทว่ากลับมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เปรียบได้กับเส้นผมบังภูเขา ที่ทำให้คนจำนวนมากที่แม้มีความรู้มากมายท่วมหัวแต่เอาตัวไม่รอด เนื่องจากสิ่งหนึ่งที่เขาไม่รู้เลยนั่นคือการรู้จักตัวของเขาอย่างถ่องแท้นั่นเอง  
 
              ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้วการรู้จักตนเองนับเป็นพื้นฐานสำคัญที่เราควรเรียนรู้เป็นอันดับแรกสุดในชีวิต  เนื่องจากการรู้จักตนเองจะนำไปสู่
 
 
              ...การมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการดำเนินชีวิต เนื่องจากรู้ว่าตนมีความถนัดความชอบและความสามารถในด้านใด  ดังนั้นจึงรู้ว่าตนควรจะเรียนอะไร ประกอบอาชีพอะไร ควรแสวงหาความรู้อะไรเพิ่มเติม
 
              ...การรู้จักวิธีเฉพาะตัวที่ตนถนัดในพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในด้านต่างๆ ของตนเองให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  อาทิ   รู้เทคนิคการเรียนหนังสือของตนว่าควรใช้วิธีใด จึงประสบผลสำเร็จ เช่น รู้ตัวว่าความจำไม่ดี จึงต้องใช้วิธีจดอย่างละเอียดและทบทวนบทเรียนอย่างสม่ำเสมอ 
 
              ...จุดอ่อนในชีวิตได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที   อาทิ เมื่อเรารู้ตัวว่าเป็นคนใจร้อน เมื่อมีเหตุการณ์ที่เรารู้ว่าหากอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้อาจนำไปสู่การใช้ความรุนแรงได้ ดังนั้นเราจึงเลือกที่จะแยกตัวออกมามานั่งสงบสติอารมณ์เพื่อคิดหาวิธีการแก้ไขที่ดีที่สุด  
 
              ...การพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากรู้ว่าปัญหานั้นมีสาเหตุมาจากตนหรือไม่ และรู้ว่าตนเองควรปรับอารมณ์เช่นใดเมื่อยามเผชิญปัญหาและควรหาวิธีการใดที่เหมาะสำหรับตนเองมากที่สุดในการแก้ปัญหานั้นให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี
 
              ...การค้นพบความสุขที่แท้จริงในสิ่งที่ตนเลือกทำ เนื่องจากรู้ว่าอะไรที่ทำแล้วจะทำให้คนเองมีความสุขได้ 
 
              ...นำไปสู่การเรียนรู้จักและเข้าใจผู้อื่นได้มากยิ่งขึ้น อันเป็นการลดปัญหาความขัดแย้งและนำไปสู่มิตรภาพที่ดีตามมา 
 
              ตรงกันข้ามกับผู้ที่ไม่รู้จักตนเอง ซึ่งมักใช้ชีวิตโดยปล่อยไปตามกระแสสังคม เลียนแบบทำตามคนรอบข้างโดยขาดจุดยืนที่ชัดเจน เช่น  แสวงหาความสุขในชีวิตด้วยการไปเที่ยวเตร่กับเพื่อน เสพยา เข้าแก๊งซิ่งมอเตอไซค์ (เด็กแว๊นท์) เลือกคณะที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยตามค่านิยมขณะนั้นหรือเลือกตามเพื่อน สุดท้ายเขาจึงไม่สามารถพบกับความสุขที่แท้จริงในชีวิตได้และนำไปสู่ปัญหามากมายตามมา นอกจากนี้คนที่ไม่รู้จักตนเองยามเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปัญหา โดยมากแล้วมักจะไม่ดูว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นมาจากตนเองหรือไม่ แต่มักโทษเหตุการณ์หรือโทษผู้อื่นเอาไว้ก่อน   จึงเป็นการยากที่จะแก้ปัญหาให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี
 
              ทักษะการรู้จักตนเองจึงเป็นทักษะสำคัญที่เราทุกคนต้องเรียนรู้และฝึกฝน เนื่องจากการรู้จักตนเองนั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่นั่งอยู่เฉยๆแล้วจะสามารถรู้ขึ้นมาได้เองแต่ต้องผ่านกระบวนการบ่มเพาะผ่านประสบการณ์ต่างๆ การลองผิดลองถูก ความผิดหวัง เจ็บปวด ความผิดพลาดล้มเหลวต่างๆ เพื่อที่จะตกเป็นผลึกทางปัญญาในการรู้จักตนเอง รวมทั้งผ่านการปฏิสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้างซึ่งถือเป็นกระจกสะท้อนชั้นดีให้เราได้เรียนรู้จักตนเอง โดยยิ่งรู้จักตนเองเร็วเท่าไรยิ่งเป็นการได้เปรียบในการออกสตาร์ทไปสู่เป้าหมายชีวิตได้เร็วเท่านั้น รวมทั้งยังเป็นรากฐานสำคัญในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและประสบความสำเร็จท่ามกลางปัญหาและแรงกดดันต่างๆ
 
              การฝึกฝนทักษะการรู้จักตนเองจึงควรเริ่มตั้งแต่วัยเยาว์โดยพ่อแม่เป็นบุคคลสำคัญแรกสุดในการช่วยลูกค้นหาตนเอง โดยเริ่มจาก
 
              เปิดโอกาสที่หลากหลาย  พ่อแม่ควรสร้างโอกาสที่หลากหลายในการให้ลูกได้เรียนรู้ทดลองทำในสิ่งต่าง ๆ ให้มากที่สุด อาทิ การทำงานบ้าน กิจกรรมต่าง ๆ ที่ลูกสนใจ โดยพ่อแม่ทำหน้าที่เป็นผู้เป็นผู้สนับสนุน อำนวยความสะดวกในการให้ลูกได้เรียนรู้จากประสบการณ์ต่าง ๆ  อย่างไรก็ตามกิจกรรมดังกล่าวพ่อแม่ควรคัดกรองว่าเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์และปลอดภัยสำหรับลูก อาทิ การทำงานอาสาสมัครต่าง ๆ การเข้าค่ายพักอาสาพัฒนา การเข้าค่ายกีฬา ไม่ใช่ตามใจลูกทุกเรื่อง เช่น ลูกขอไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากแก๊งซิ่งมอเตอร์ไซค์ หรือขอไปเที่ยวกลางคืนหาประสบการณ์ทางเพศ (ขึ้นครู) เป็นต้น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ไม่สร้างสรรค์และอาจเกิดอันตรายกับลูกได้
 
              ให้อิสระในความคิดและการตัดสินใจ พ่อแม่ไม่ควรเป็นนักเผด็จการที่คอยบงการชีวิตลูกไปทุกเรื่อง อาทิ พ่อแม่อยากเรียนแพทย์ แต่สอบไม่ติด จึงฝากความหวังไว้กับลูก พยายามสร้างแรงกดดันและปลูกฝังความคิดให้ลูกต้องสอบเข้าคณะแพทย์ให้ เพื่อทำความฝันของพ่อแม่ให้เป็นจริง โดยไม่คำนึงว่าลูกจะชอบหรือมีความถนัดในด้านนี้หรือไม่ พ่อแม่ที่ปรารถนาให้ลูกรู้จักตนเองจึงควรเปิดโอกาสให้ลูกได้สามารถตัดสินใจในการเลือกสิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง โดยพ่อแม่มีหน้าที่คอยชี้แนะอยู่ห่าง ๆ ถึงข้อดี ข้อเสีย ประโยชน์ หรือโทษ ที่ลูกจะได้รับผ่านการตัดสินใจนั้น ๆ   ซึ่งหากพ่อแม่เห็นว่าการตัดสินใจของลูกเป็นไปในทางที่ไม่ถูกต้องและอาจนำไปสู่อันตรายได้ พ่อแม่สามารถใช้อำนาจในการยับยั้งการกระทำดังกล่าวได้ โดยชี้แจงถึงเหตุผลให้ลูกได้เข้าใจ 
 
              เป็นกระจกสะท้อนให้ลูกเห็นตนเอง พ่อแม่ต้องทำหน้าที่เป็นกระจกเงาสะท้อนให้ลูกได้เห็นตนเองในมุมต่าง ๆ ทั้งจุดอ่อน จุดแข็ง จุดดี จุดด้อย   โดยหลักการสำคัญ คือ
 
              ...การสะท้อนภาพที่ถูกต้อง เนื่องจากความจำกัดของอายุและประสบการณ์จึงทำให้ลูกของเราอาจไม่สามารถเห็นตนเองได้ชัดเจนมากนัก ดังนั้นจึงอาจมองภาพตนเองไปอย่างบิดเบี้ยวผิดจากความเป็นจริง หรืออาจรู้จักตัวเองอย่างผิด ๆ ผ่านคำพูดของคนรอบข้าง เพื่อนฝูง ครู อาจารย์ ซึ่งอาจทำให้ลูกมองตนเองด้อยค่า เกิดเป็นปมด้อยในจิตใจ  โดยมีงานวิจัยยืนยันว่าหากพ่อแม่ปล่อยให้ลูกมีความเข้าใจที่ผิด ๆ เกี่ยวกับตัวเองในเรื่องต่าง ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นความจริง และหากไม่มีการรีบปรับความเข้าใจที่ผิด ๆ นั้นโดยเร็วสิ่งที่ลูกเข้าใจเกี่ยวกับตนเองผิด ๆ นั้นจะกลับกลายเป็นความจริงในที่สุด
 
              ตัวอย่างเช่น ลูกอาจโดนครูที่โรงเรียนต่อว่าเรื่องผลการสอบวิชาคณิตศาสตร์ ที่ลูกสอบตก ว่าเป็นเด็กหัวทึบ ทั้ง ๆ ที่พ่อแม่เห็นลูกพยายามอย่างเต็มที่แล้วในวิชานี้ ในกรณีดังกล่าวพ่อแม่ควรทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนให้ลูกเห็นในมุมที่ถูกต้องและให้กำลังใจว่าลูกมีจุดแข็งที่พ่อแม่ภาคภูมิใจในเรื่องของความตั้งใจจริง ความขยันหมั่นเพียร แต่อย่างไรก็ตามที่ผลการเรียนออกมาเช่นนี้อาจเพราะลูกไม่ถนัดในวิชาดังกล่าว และให้ลูกพยายามต่อไปอย่าท้อถอย อย่างไรก็ตามหากพ่อแม่ไม่มีการปรับความเข้าใจในการมองตนเองของลูกในเรื่องนี้ ลูกจะตอกย้ำตัวเองเสมอว่าเป็นคนหัวทึบ และเขาจะไม่มีวันประสบความสำเร็จในชีวิตการเรียนได้เลย
 
              ...กระตุกให้ลูกได้คิดวิเคราะห์ตนเอง โดยการหมั่นสังเกตพฤติกรรม อารมณ์ของลูก ในสภาวะต่าง ๆ หรือจากเหตุการณ์ต่าง ๆ และเริ่มตั้งคำถามออกไปให้ลูกได้เรียนรู้เกี่ยวกับตนเองแทนการโทษผู้อื่น หรือโทษสถานการณ์  
 
              ตัวอย่างเช่น เมื่อลูกทำข้อสอบได้คะแนนไม่ดี แล้วโทษว่าเพราะครูสอนไม่รู้เรื่อง หรืออ้างว่ายังมีเพื่อนที่เรียนแย่กว่าเขาอีก พ่อแม่ควรกระตุกให้ลูกได้คิดว่าเราไม่ควรไปเปรียบเทียบกับคนที่เรียนแย่กว่าหรือโทษว่าครูสอนไม่รู้เรื่องพร้อมกับให้ลูกวิเคราะห์ตัวเองถึงจุดอ่อนจุดแข็งเช่นลูกมีจุดอ่อนเรื่องระเบียบวินัย การบริหารเวลาในการอ่านหนังสือหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาพ่อแม่ไม่เห็นว่าลูกจะตั้งใจอ่านหนังสือหรือทบทวนบทเรียนเลยแต่มาเร่งอ่านตอนใกล้สอบ ดังนั้นในการสอบครั้งต่อไปลูกต้องวางแผนการเรียนให้ดีและขยันให้มากกว่านี้ เป็นต้น
 
              ....การสอนและเตือนสติ พ่อแม่เป็นผู้ที่เห็นชีวิตของลูกใกล้ชิดที่สุด และมีความสามารถในการเข้าใจความเป็นตัวตนของเขามากที่สุดซึ่งในความเป็นเด็กลูกเองยังไม่สามารถที่จะแยกแยะทำความรู้จักกับพฤติกรรมหรืออารมณ์ต่าง ๆ ที่ตนแสดงออกมาได้ โดยพฤติกรรมบางอย่างของลูกหากพ่อแม่ปล่อยปละละเลยไม่สั่งสอนเตือนสติแต่เนิ่น ๆ พฤติกรรมนั้น ๆ อาจบ่มเพาะเป็นนิสัยแย่ ๆ ที่ติดตัวลูกไปจนโต และยิ่งโตยิ่งแก้ยากเข้าทำนองไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก ดังนั้นพ่อแม่จึงต้องสั่งสอนและเตือนสติลูกทันทีในพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ พร้อมชี้ให้ลูกเห็นถึงความร้ายแรงและหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน    
 
              ตัวอย่างเช่น พ่อแม่เห็นว่าลูกมีอุปนิสัยเป็นคนเจ้าอารมณ์   โกรธง่าย พ่อแม่ควรพูดคุยกับลูกถึงจุดอ่อนข้อนี้ว่าจะส่งผลเสียอย่างไรกับชีวิตของเขาในระยะยาว พร้อมทั้งหาวิธีการร่วมกันในการฝึกฝนให้ลูกรู้เท่าทันอารมณ์ของตนเอง ไม่ตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างผิด ๆ โดยใช้อารมณ์ความรู้สึกนำหน้า    อาทิ สอนให้ลูกหลีกเลี่ยงต่อสถานการณ์ที่มากระตุ้นอารมณ์โกรธ สอนลูกให้ตอบสนองอย่างถูกต้องเมื่อโกรธ โดยการเดินไปหาที่เงียบ ๆ สงบสติอารมณ์ ก่อนแล้วค่อยมาพูดคุยกัน ท้าทายลูกให้ทำลายสถิติตนเองให้โกรธช้าลง เช่น แต่เดิมเมื่อพบเหตุการณ์ที่ไม่สบอารมณ์จะโกรธขึ้นมาทันที  ครั้งต่อไปควรฝึกให้โกรธช้าลง เป็นต้น 
 
            การเรียนรู้จักตนเองอย่างถ่องแท้นับเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่สำคัญมากยิ่งกว่าการเรียนรู้ใดๆ การเรียนรู้จักตนเองเป็นกระบวนการเรียนรู้ระยะยาวตลอดทั้งชีวิต อันนำมาซึ่งความสุขและเป็นรากฐานของความสำเร็จในชีวิต โดยพ่อแม่เป็นบุคคลสำคัญผู้เปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้จักตนเองและเป็นกระจกบานแรกที่สะท้อนให้ลูกได้เห็นอย่างถูกต้องว่าว่าตัวตนที่แท้จริงของเขานั้นเป็นเช่นไร

...........

 

                                  ขอบคุณที่มาข้อมูล วันที่ : 14 พฤษภาคม 2551 นิตยสาร/หนังสือพิมพ์ : แม่และเด็ก

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1712 วันที่ 21 ก.พ. 2552


สร้างความสุขความสำเร็จในชีวิตด้วย ?ทักษะการรู้จักตนเอง?..สู่ลูกสร้างความสุขความสำเร็จในชีวิตด้วย?ทักษะการรู้จักตนเอง?..สู่ลูก

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ชายปากว่า ตาขยิบเป็นไง?

ชายปากว่า ตาขยิบเป็นไง?


เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง
วันเกิดบอกความเจ้าชู้ได้

วันเกิดบอกความเจ้าชู้ได้


เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง
เมาค้าง...!! ทำไงดีล่ะ...??

เมาค้าง...!! ทำไงดีล่ะ...??


เปิดอ่าน 7,409 ครั้ง
ยากจริงหรือ คศ.3

ยากจริงหรือ คศ.3


เปิดอ่าน 7,171 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

คำคมน่าคิดจาก FW

คำคมน่าคิดจาก FW

เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
เวลาทำบุญ....อธิษฐานตามนี้.....ที่ทำให้เกิดผลดีแก่ตัวเรา
เวลาทำบุญ....อธิษฐานตามนี้.....ที่ทำให้เกิดผลดีแก่ตัวเรา
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย

วันมหาสงกรานต์ เทพีสงกรานต์ นางสงกรานต์ ตำนานสงกรานต์
วันมหาสงกรานต์ เทพีสงกรานต์ นางสงกรานต์ ตำนานสงกรานต์
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย

สมุนไพรฝากคนอ้วน
สมุนไพรฝากคนอ้วน
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย

เกาะในฝัน ?Summer Holiday? (2)
เกาะในฝัน ?Summer Holiday? (2)
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย

คุณมีอาการ...เหล่านี้ไหม??...>>>
คุณมีอาการ...เหล่านี้ไหม??...>>>
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย

ดอกไม้สวย..เพลงเพราะๆ...มอบแด่>ทุกๆท่าน
ดอกไม้สวย..เพลงเพราะๆ...มอบแด่>ทุกๆท่าน
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

9 วิธีเด็ด แก้หลับเวลากวดวิชา
9 วิธีเด็ด แก้หลับเวลากวดวิชา
เปิดอ่าน 12,122 ครั้ง

7 วิธี ใช้เงินอย่างประหยัดเมื่อไปเรียนต่างประเทศ
7 วิธี ใช้เงินอย่างประหยัดเมื่อไปเรียนต่างประเทศ
เปิดอ่าน 7,840 ครั้ง

เด็กนอนเป็นเวลาปัญญาดี ยิ่งนอนตั้งแต่หัวค่ำยิ่งหัวไวยิ่งกว่าเพื่อน
เด็กนอนเป็นเวลาปัญญาดี ยิ่งนอนตั้งแต่หัวค่ำยิ่งหัวไวยิ่งกว่าเพื่อน
เปิดอ่าน 16,639 ครั้ง

ซึ้งมาก! บัณฑิตจุฬาฯ ก้มกราบพ่อพนง.ขับรถเก็บขยะทั้งชุดครุย พร้อมเล่าเรื่องประทับใจ
ซึ้งมาก! บัณฑิตจุฬาฯ ก้มกราบพ่อพนง.ขับรถเก็บขยะทั้งชุดครุย พร้อมเล่าเรื่องประทับใจ
เปิดอ่าน 13,115 ครั้ง

เด็กกับ"ดนตรี"และ"ศิลปะ"
เด็กกับ"ดนตรี"และ"ศิลปะ"
เปิดอ่าน 15,246 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ