หลายๆ ท่านคงกังวลเรื่องการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าว่าควรจะใช้ผลิตภัณฑ์ไหนดีที่เหมาะกับใบหน้าของเรา ตามหลักวิชาการแล้ว จุดประสงค์ในการล้างหน้าก็เพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกไป เช่น ฝุ่นละออง เขม่ารถยนต์ หรือเชื้อโรคที่ปลิวมาเกาะไขมันบนใบหน้า และแน่นอน ถ้าจะล้างสิ่งสกปรกเหล่านั้นออกไป ผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้นั้นจะต้องชำระเอาไขมันส่วนหนึ่งออกไปด้วย
สบู่โดยทั่วไปส่วนใหญ่มีฤทธิ์เป็นด่าง ค่า พี เอช มากว่า 8 ซึ่งจะสามารถชำระไขมันและสิ่งสกปรกออกไปได้ แต่อย่าลืม ผิวหน้าเราก็จะขาดสมดุลย์ อ่อนแอ แห้ง หยาบกร้านเช่นกัน ดังนั้นสบู่ที่ดีควรชำระสิ่งสกปรกได้ดี และไม่ดึงเอาไขมันบนใบหน้ามากไป ลาโนลิน เลซิติน ในทางเภสัชศาสตร์ มีสารทำความสะอาดล้วน ๆ คือ ซินเดท ซึ่งไม่ใช่สบู่ มีค่าพี เอช ใกล้เคียงผิวหนัง กำจัดสิ่งสกปรกได้ดี และทำลายผิวน้อยที่สุด
การล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้แต่งหน้า และเป็นผดผื่น แต่ถ้าผิวหน้ามัน แต่งหน้า คงต้องใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าล้างสิ่งสกปรกออกได้ดี และไม่ดึงไขมันออกมากจนเกินไป ค่าพี เอช ประมาณ 5-7 ดีที่สุด โดยรวมควรเป็นสบู่เหลวมากกว่าสบู่ก้อน แต่จะเป็นผลิตภัณฑ์ไหนคงต้องพิจารณาฉลากหรือสอบถามแพทย์ เภสัชกร
ส่วนใหญ่มากกว่า 50 % ของคนไข้ที่มาพบแพทย์มักจะมาด้วยเรื่องสิว และมากกว่า 80% ของคนไข้เหล่านั้นก็จะอยู่ในช่วงวัยหนุ่มสาวและน้อยกว่า 5% จะพบหลังอายุ 35 ปี พอเริ่มเข้าวัยรุ่นฮอร์โมนจะกระตุ้นให้เกิดสิว เริ่มด้วยสิวอุตตัน เปลี่ยนเป็นสิวอักเสบ และก็สิวหนอง และก็ทิ้งรอยดำกับแผลเป็นหลุม
แสงแดดแรง ๆ สารเคมี ฝุ่นละออง และอากาศที่แห้ง ก็มีส่วนทำให้เกิดสิวได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นถ้าเราเข้าใจสาเหตุและกระบวนการเกิดสิว คงจะสามารถป้องกันการเกิดสิวรวมทั้งหลุมและรอยดำที่จะเกิดขึ้น ไม่ต้องช้ำใจ ไม่ต้องเสียเงินเสียเวลามาก ๆ ในการรักษารอยดำและหลุม รวมทั้งไม่ต้องเสี่ยงกับการรักษาสิวที่ไม่ถูกวิธี นอกจากจะไม่หายแล้วยังอาจจะเพิ่มปัญหาอื่น ๆ บนใบหน้าอีกด้วย
วิธีการรักษารอยดำและแผลเป็นจากสิว รอยดำ แผลเป็นนูน และแผลหลุม เป็นปัญหาหนักใจของคนส่วนใหญ่ เพราะใช้เวลารักษานาน และใช้งบประมาณมากกว่าที่จะรักษาสิวตั้งแน่เนิ่น ๆ คือตั้งแต่ระยะสิวอุดตัน และระยะสิวอักเสบ ซึ่งจะหายได้เร็วกว่า
รอยสิวดำ แพทย์ยังไม่ถือว่า เป็นแผลเป็นเหมือนหลุมหรือรอยนูน ปกติทิ้งไว้สัก 5-6 เดือน ก็พอจะจางหายไปเองได้ แต่ถ้าต้องการให้หายเร็ว ต้องใช้ยาครีมที่มี กรดวิตามิน เอ อาจจะร่วมกับทำการผลัดผิวด้วย AHA ด้วย ก็จะทำให้รอยดำสิวจางหายได้เร็วกว่าเดิม
ส่วนรอยนูนกับหลุมสิว ถ้าทิ้งไว้ก็อยู่กับเราไปตลอดชีวิต แผลเป็นนูนที่เกิดตามหลังสิวอักเสบมักเกิดบริเวณจมูก, คาง, และขมับ แพทย์จะพิจารณาให้ยาทาและฉีดยาเข้าที่รอยนูนให้ยุบ การรักษาแผลเป็นนูนเนี่ย ต้องปรึกษาแพทย์โดยตรง เพราะเครื่องสำอางทั่วไป ช่วยให้นูนนุ่มขึ้นเท่านั้น แทบจะไม่สามารถทำให้ยุบได้เลย
สำหรับรอยหลุมสิว การรักษาเริ่มตั้งแต่ เพียงแค่ทายาครีมกระตุ้นการผลัดผิวชั้นหนังกำพร้า พร้อมกับกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่และกระตุ้นชั้นหนังแท้ ต่อมาก็ร่วมกับการผลัดผิวด้วย AHA เพิ่มเติมด้วยเทคนิค แต้มน้ำยา TCA กระตุ้น ถ้าเป็นมากๆ อาจพิจารณากรอผิวหน้าด้วยเครื่องกรอ หรือ เลเซอร์ก็ได้ วิธีการต่างๆ แพทย์จะต้องตรวจและให้ข้อแนะนำ เพื่อความเหมาะสมของคนไข้แต่ละรายไป จากหลักฐานงานวิจัย ไม่มีเครื่องสำอางใดทาแล้วรักษาหลุมสิวได้ สำหรับไอออนโตโฟเรสิส ผลงานวิจัยยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าช่วยได้จริงหรือไม่
ขอบคุณที่มาจาก สนุกดอทคอม