"พงศ์เทพ"ป้อนชื่อทุจริตครูใส่มืออ.ก.ค.ศ. ยันเพียงพอตัดสินใจ"ฟัน"/"ดีเอสไอ"เตรียมแกะรอยควานหาข้อสอบรั่ว
"พงศ์เทพ" ชี้เป้ามอบรายชื่อผู้สอบครูผู้ช่วยรายไหนทุจริตให้ อ.ก.ค.ศ.ฟันแล้ว ยันเพียงพอแก่การตัดสินใจ ย้ำ สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 อย่าอ้างไม่มีหลักฐานเอาผิด "ภาณุวัฒน์" ถามมีชื่อสอบสองที่ ใครในโลกทำกันอย่างนี้ ไม่ทุจริตหรือ ด้าน "ชินภัทร" หอบหลักฐาน 600 หน้าให้ดีเอสไอสอบ "ธานินทร์" เผยปฐมบทต้องแกะรอยให้ได้ ข้อสอบรั่วยังไง
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหลายคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา จะส่งเรื่องการพิจารณายกเลิกการสอบคัดเลือกครูผู้ช่วย กรณีจำเป็น หรือเหตุพิเศษ ว12 ที่มีปัญหาทุจริตมาให้ ก.ค.ศ.พิจารณา ว่าคงไม่มีปัญหา ถ้าคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่ฯ ได้ไปตรวจสอบข้อมูลได้เพียงพอ แต่คิดว่ายังไม่อยากตัดสินใจเอง ทาง ก.ค.ศ.ก็จะตัดสินใจให้ได้ แต่ว่าขณะนี้ข้อมูลคะแนนที่ทางสำนักงาน ก.ค.ศ.ส่งไปให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ นั้น ไม่ใช่ดูแค่ว่าคะแนนเป็นเช่นไร และส่งเรื่องกลับมาที่ ก.ค.ศเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ศธ.ได้ส่งตัวเป้าไปให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ไปแล้วว่าใครได้คะแนนสูงผิดปกติบ้าง และสามารถเรียกคนเหล่านี้มาสอบได้ หรืออาจจะเรียกคนที่ได้คะแนนสูงมาทำข้อสอบก็ได้ จะได้ดูว่าทำได้อย่างไร และจะดูได้ว่าเก่งจริงหรือไม่เก่ง ซึ่งจะได้เป็นข้อมูลที่เพียงพอต่อการตัดสินใจ ซึ่งการที่ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ จะส่งเรื่องมาให้ ก.ค.ศ.ตัดสินนั้นมีวิธีการที่จะดำเนินการได้อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณี ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 ระบุว่ากรณีของนายภานุวัฒน์ ไชยวงค์ ผู้ที่ผ่านการสอบครูผู้ช่วยที่ สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 ยังไม่มีข้อมูล หลักฐานที่จะวินิจฉัยได้ว่ามีการทุจริต นายพงศ์เทพกล่าวว่า เรื่องนี้มีข้อมูลต่างๆ ที่สืบสวนออกมาแล้ว ลองคิดดูว่าหากไปสมัครสอบสองที่แล้วทำใบสมัครสอบคัดเลือกหาย คงไม่มีใครที่ไหนในโลกทำ จะเอาใบสมัครคนอื่นไปสอบเพื่ออะไร และกรณีแบบนี้ทราบว่ามีหลายเขตพื้นที่ด้วย
"ผมเชื่อว่าหลาย อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ จะดำเนินการเพื่อที่จะดูว่าผู้ที่สอบบรรจุครูผู้ช่วยได้สอบมาได้ด้วยตนเองหรือไม่ ซึ่งจุดที่สำคัญจะต้องช่วยกันสกัดคนที่ไม่ได้สอบมาด้วยความรู้ความสามารถ แต่อาจจะไปรู้ข้อสอบมา หรือรู้เฉลยมา ซึ่งวิธีการตรวจสอบน่าจะตรวจสอบกันได้ และให้ถือว่าเป็นการช่วยเหลือกันทำงานและตรวจสอบเรื่องนี้"
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เดินทางเข้าพบนายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามทุจริต กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้ปากคำในคดีทุจริตการสอบครู และกล่าวก่อนการเข้าปากคำต่อพนักงานสอบสวนว่า วันนี้ตนได้เตรียมเอกสารและหลักฐานกว่า 600 หน้ามาให้ดีเอสไอ เกี่ยวข้องใน 7 ประเด็น ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับสพฐ. อยู่ 4 ประเด็น ประกอบด้วย การกำหนดหลักเกณฑ์ให้ส่วนกลางเป็นผู้ออกข้อสอบแทนเขตพื้นที่การศึกษา, การจัดจ้างบริษัท จันวาณิชย์ ซีเคียวริตี้ พริ้นติ้ง จำกัด เป็นผู้จัดพิมพ์ข้อสอบ, การให้บริษัท ไปรษณีย์ไทย เป็นผู้จัดส่งข้อสอบไปยังเขตพื้นที่การศึกษา และการเผยแพร่เฉลยคำตอบของข้อสอบ ว่าในส่วน 4 ประเด็นนี้ทาง สพฐ.นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง และมั่นใจในพยานหลักฐานว่าจะสามารถชี้แจงกับพนักงานสอบสวนได้ แต่ในส่วนรายละเอียดนั้นยังไม่ขอเปิดเผย เนื่องจากมีจำนวนมาก
นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทุจริต ดีเอสไอ เปิดเผยก่อนการเข้าสอบปากนายชินภัทรว่า ประเด็นการสอบปากคำในวันนี้มุ่งเน้นไปในเรื่องของหลักเกณฑ์ในการจัดสอบแบบรวมศูนย์ที่ส่วนกลางมีกระบวนการขั้นตอนอย่างไร ซึ่งนายชินภัทร ในฐานะผู้รับผิดชอบโดยตรง จะต้องชี้แจงเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ให้ส่วนกลางเป็นผู้รับผิดชอบจัดการสอบ แทนเขตพื้นที่ฯ ไปจัดการสอบเอง และภายหลังกำหนดหลักเกณฑ์การสอบแล้ว มีการตั้งคณะกรรมการกี่ชุดเข้าไปดูแลรับผิดชอบ ตั้งแต่ขั้นตอนการคัดเลือกข้อสอบ การออกข้อสอบว่าข้อสอบรั่วหรือไม่ การเฉลยข้อสอบรั่วมีหรือไม่ จนกระทั่งการจัดพิมพ์ข้อสอบ ซึ่งหากได้ข้อมูลในส่วนนี้แล้วทางดีเอสไอก็จะทยอยเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาสอบปากคำ
ส่วนกรณีดังกล่าวจะโยงไปถึง รมว.ศธ.ด้วยหรือไม่ จะต้องสอบถามนายชินภัทรก่อนว่า รมว.ศธ. ในฐานะประธาน ก.ค.ศ. ได้เข้าไปมีส่วนในการมอบหมายสั่งการและเข้าไปล้วงลูกการสอบครั้งนี้ด้วยหรือไม่
นายธานินทร์กล่าวอีกว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่าการทุจริตสอบครูทำกันเป็นขบวนการ และเริ่มจากส่วนกลางเป็นหลัก โดยข้อสอบจำนวน 200 ข้อ อาจมีการเฉลยข้อสอบเล็ดลอดออกมาด้วยตั้งแต่ต้น ดังนั้นดีเอสไอจึงเตรียมเชิญนายพิษณุ ฟองศรี อดีตรองคณะบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี และนายชอบ ลีชอ อดีตผู้ตรวจราชการ ศธ. มาเป็นที่ปรึกษาในการทำคดี และช่วยวิเคราะห์คะแนนของผู้เข้าสอบทั้งหมดกว่า 9 พันคน ซึ่งมีการบรรจุไปแล้ว 240 คน ว่าผู้ที่ได้คะแนนสูงมันมีความผิดปกติหรือไม่ ซึ่งจะทำให้ชี้ได้ว่าใครได้คะแนนมาด้วยความสามารถ และใครทุจริตการสอบครั้งนี้
ภายหลังการให้ปากคำของนายชินภัทร นายธานินทร์เปิดเผยว่า นายชินภัทรได้ให้ข้อมูลครอบคลุมตามประเด็นที่ซักถามทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมาดีเอสไอไม่รู้ว่าในการจัดสอบครั้งนี้มีการตั้งคณะกรรมการชุดใดในการดำเนินการบ้าง หลังจากนี้เมื่อได้ข้อมูลคณะกรรมการชุดต่างๆ แล้วในสัปดาห์หน้าดีเอสไอต้องเชิญผู้เกี่ยวข้องในส่วนอื่นๆ ทั้งเจ้าหน้าที่ควบคุมคลังข้อสอบ เจ้าหน้าที่ที่นำข้อมูลออกมาทำข้อสอบ บริษัท จันวาณิชย์ ซีเคียวริตี้ พริ้นติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดพิมพ์ข้อสอบ บริษัท ไปรษณีย์ไทย เข้าให้ปากคำ ตลอดจนต้องลงไปตรวจสอบสถานที่ในการจัดเก็บข้อสอบทุกขบวนการทุกพื้นที่ ว่ามีความรัดกุมในการจัดเก็บแค่ไหน โดยเฉพาะในพื้นที่ว่ามีการตั้งคณะกรรมการดูแลข้อสอบอย่างไร มีจุดใดที่อาจเป็นช่องโหว่ให้สามารถนำไปเฉลยคำตอบได้หรือไม่.
ที่มา ไทยโพสต์