สพฐ.โยก “ไกร” พ้น สพร.อ้างเปิดทางสอบทุจริตครูผู้ช่วย “ชินภัทร” ย้ำยังไม่มีประเด็นบ่งชี้ว่ามีส่วนเอี่ยวด้วย
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ตนได้ลงนามคำสั่งเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา สั่งย้ายนายไกร เกษทัน ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ (สพร.) ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบจัดสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการครูในตำแหน่งครูผู้ช่วยกรณีที่มีความจำเป็น หรือเหตุพิเศษ ว 12 ครั้งนี้ไปดำรงตำแหน่งผอ.สำนักติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สตผ.) และสลับนายพิธาน พื้นทอง ผอ.สตผ.ไปดำรงตำแหน่ง ผอ.สพร. แทน
“การย้ายครั้งนี้เพื่อแสดงให้เห็นว่า สพฐ.เปิดกว้างในการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีสอบทุจริตครูผู้ช่วยที่เกิดขึ้น เพื่อให้การตรวจสอบข้อมูลดำเนินการได้อย่างโปร่งใส โดยเฉพาะให้การขอเอกสารจาก สพร. ไม่เกิดอุปสรรค ดังนั้น สพฐ.จึงตัดสินใจย้าย นายไกร ออกแต่เป็นการสลับชั่วคราวเท่านั้น และการย้ายครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า นายไกร นั้นมีความผิดขณะเดียวกันยังไม่มีประเด็นใดๆ ทั้งสิ้น ที่ชี้ว่า นายไกร เกี่ยวข้องกับการทุจริตสอบครูผู้ช่วย” นายชินภัทร กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ในขั้นนี้ยังไม่มีการตั้งกรรมการสอบวินัย นายไกร แต่อย่างใด
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 มีนาคม 2556
'ชินภัทร'ย้ายอีกเปิดทางดีเอสไอเชือดทุจริตครูผู้ช่วย
“ชินภัทร” สั่งย้ายสลับตำแหน่ง “ผอ.ไกร” จากสำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลฯ ไปนั่งสำนักติดตามและประเมินผลฯ แล้ว ชี้เพื่อเปิดทางให้ดีเอสไอตรวจสอบโกงครูผู้ช่วยได้สะดวกขึ้น ยันยังไม่ใช่การสรุปเอี่ยวทุจริต ระบุให้รอผลประชุม ก.ค.ศ. วันที่ 22 มี.ค.นี้
วันที่ 13 มีนาคม 2556 นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบทุจริตครูผู้ช่วย กรณีเหตุความจำเป็นพิเศษ (ว12) ว่า เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ลงนามคำสั่ง สพฐ.ให้สลับตำแหน่งภายในชั่วคราวของระหว่างนายไกร เกษทัน ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ (สพร.) กับนายพิธาน พื้นทอง ผู้อำนวยการสำนักติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมีผลตั้งแต่วันนี้จนกว่าจะมีความกระจ่างชัดว่าการตรวจสอบเป็นอย่างไร จึงจะมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่งว่าคำสั่งนี้จะสิ้นสุดเมื่อไร
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวอีกว่า การสลับตำแหน่งของ ผอ.สพร. และ ผอ.สำนักติดตามฯ นั้น ไม่ใช่เป็นการไปสรุปว่ามีความผิดหรือมีความบกพร่องเกี่ยวข้องการทุจริต แต่เพื่อแสดงให้เห็นถึงการเปิดกว้างตรวจสอบข้อมูลด้วยความโปร่งใสและไม่เป็นอุปสรรค รวมทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้มาสอบถามข้อมูลได้อย่างเต็มที่ ตนจึงได้ดำเนินการในส่วนนี้เลยโดยที่ไม่ต้องมีใครมาบอกให้ทำ
นายชินภัทรกล่าวต่อว่า ส่วนการพิจารณายกเลิกการสอบครูผู้ช่วยนั้นต้องให้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากเป็นเรื่องงานบริหารงานบุคคลจะเป็นการพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่จะประชุมในวันที่ 22 มี.ค.นี้ แต่ทั้งนี้ เมื่อทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง สพฐ. มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็จะต้องรวบรวมข้อมูลต่างๆ เสนอประกอบการพิจารณาของที่ประชุม ก.ค.ศ. ร่วมกับข้อมูลของดีเอสไอที่จะนำเสนอในวันที่ 18 มี.ค. ซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานแก่ที่ประชุม ก.ค.ศ.พิจารณาในประเด็นต่างๆ อาทิ การดำเนินการกับบัญชีผู้สอบได้ในพื้นที่ต่างๆ เป็นต้น.
ที่มา ไทยโพสต์ 14 March 2556