พริกหวานมีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมถึงหกเหลี่ยม เนื้อหนา มีหลายสีทั้งเขียว แดง เหลือง ส้ม และสีช็อกโกแล ต มีรสชาติหวานไม่เผ็ด สามารถรับประทานสดในสลัดหรือนำมาผัดกับผักชนิดต่าง ๆ ให้สีสันน่ารับประทาน มีคุณค่าทางวิตามิน เอ, บี1, บี2 และซี มีสารแคบไซซินช่วยยับยั้งอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือดโรคต้อกระจกและโรคมะเร็ง
มีคุณค่าทางโภชนาการสูงในพริกหวาน 100 กรัม จะให้พลังงาน 22 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย โปรตีน 0.8 กรัม ไขมัน 0.3 กรัม คาร์โบไฮเดรต 4.0 กรัม แคลเซียม 9 มิลลิกรัม โพแทสเซียม 2.5 มิลลิกรัม ไทอะมิน 0.10 มิลลิกรัม ไรโบฟลาวิน 0.05 มิลลิกรัม วิตามินซี 65 มิลลิกรัม มีเบตาแคโรทีนสูง มีวิตามินซี เหล็ก และโพแทสเซียม พริกหวานสีเหลืองจะมีวิตามินมากกว่าพริกหวานสีส้มถึง 4 เท่า ส่วนในสีเขียว 100 กรัมก็จะมีวิตามินซี 100 กรัม
ช่วยกระตุ้นทางการทำงานของกระเพาะอาหารทำให้ระบบการย่อยอาหารดีขึ้น ช่วยเจริญอาหาร บำรุงธาตุ ขับเหงื่อ ขับลม ขับเสมหะ แก้อาเจียน แก้หิด กลากเกลื้อน และสามารถลดความดันโลหิตได้ เพราะทำให้หลอดเลือดอ่อนตัวและช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดเป็นไปได้ดี.
ขอบคุณที่มาจาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์