นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ ๓/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๖ ณ ห้องประชุมราชวัลลภ โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยผู้บริหารฝ่ายการเมือง คือ นายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์/นางฉวีวรรณ คลังแสง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประแสง มงคลศิริ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ศาสตราจารย์ ธเนศวร์ เจริญเมือง ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ ดร.วรกร คำสิงห์นอก ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมประชุมกับผู้บริหารองค์กรหลักและหน่วยงานในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีสาระสำคัญสรุปดังนี้
► รับทราบสรุปวงเงินและคำของบประมาณรายจ่ายฯ ปี ๒๕๕๗ ของ ศธ. ๖๕๓,๘๗๔ ล้านบาท
ที่ประชุมรับทราบสรุปวงเงินและคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่ง ศธ.ได้เสนอวงเงินไปให้สำนักงบประมาณพิจารณาในภาพรวมแล้ว เมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ จำนวนทั้งสิ้น ๖๕๓,๘๗๔.๔๓๖๗ ล้านบาท ประกอบด้วยงบประมาณรายจ่ายจำนวน ๖๔๔,๔๙๐.๓๓๔๓ ล้านบาท และงบประมาณกองทุนและเงินทุนหมุนเวียน จำนวน ๙,๓๘๔.๑๐๒๔ ล้านบาท เพื่อการดำเนินงาน ตามภารกิจหลักสำคัญที่เป็นความจำเป็นพื้นฐาน นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการต่อเนื่อง นโยบายการศึกษาของรัฐบาล ยุทธศาสตร์ประเทศของรัฐบาล และจุดเน้นการขับเคลื่อนนโยบายด้านการศึกษาของ ศธ. ที่เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๗ ของรัฐบาล
@ งบประมาณรายจ่าย ๖๔๔,๔๙๐.๓๓๔๓ ล้านบาท ประกอบด้วย
- สป. ๖๖,๙๙๔ ล้านบาท
- สกศ. ๓๕๒ ล้านบาท
- สพฐ. ๓๕๕,๑๔๖ ล้านบาท
- สอศ. ๒๗,๕๗๓ ล้านบาท
- สกอ. ๑๘๘,๒๔๘ ล้านบาท
- หน่วยงานในกำกับฯ และองค์การมหาชน ๖,๑๗๓ ล้านบาท คือ
- สสวท.๒,๕๘๐ ล้านบาท
- สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ๓๕๘ ล้านบาท
- สกสค. ๑,๐๘๕ ล้านบาท
- โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ๓๔๖ ล้านบาท
- สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา ๙๗ ล้านบาท
- สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ ๑,๖๗๘ ล้านบาท
@ งบประมาณกองทุนและเงินทุนหมุนเวียน ๙,๓๘๔.๑๐๒๔ ล้านบาท
ทั้งนี้ รมว.ศธ.ได้ย้ำให้ทุกส่วนราชการ หน่วยงานในกำกับฯ และองค์การมหาชน บันทึกข้อมูลรายละเอียดและวงเงินคำขอดังกล่าวลงในระบบคำของบประมาณอิเล็กทรอนิกส์ e-Budgeting ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๗ ระดับกระทรวง และระดับกรมด้วย เพื่อนำส่งข้อมูลไปยังสำนักงบประมาณต่อไป
►รับทราบปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีฯ พ.ศ.๒๕๕๗
ที่ประชุมรับทราบปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๗ ตามมติ ครม. ๒๑ มกราคม ๒๕๕๖ ดังนี้
๙ เมษายน ๒๕๕๖ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบรายละเอียดงบประมาณ พร้อมหลักเกณฑ์การปรับปรุงงบประมาณ ปี ๒๕๕๗
๑๐-๑๗ เมษายน ๒๕๕๖ ทุกส่วนราชการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณ ตามหลักเกณฑ์ที่ ครม.ให้ความเห็นชอบ และส่งสำนักงบประมาณ
๓๐ เมษายน ๒๕๕๖ ครม.ให้ความเห็นชอบการปรับปรุงงบประมาณ
๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณและเอกสารประกอบงบประมาณเพื่อนำเสนอสภาผู้แทนราษฎร
๒๙-๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ วาระที่ ๑
๑๔-๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๖ สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ วาระที่ ๒ และ ๓
๒ กันยายน ๒๕๕๖ วุฒิสภาสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ
๙ กันยายน ๒๕๕๖ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๗ ขึ้นทูลเกล้าถวายฯ เพื่อประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
►รับทราบรายงานความก้าวหน้าโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุน รุ่นที่ ๔
ที่ประชุมรับทราบ สป.ศธ.ได้รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานตามโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุน รุ่นที่ ๔ ซึ่งมติ ครม.เมื่อวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๕๖ ได้เห็นชอบในหลักการให้จัดสรรทุนเป็น ๒ ประเภท คือ ทุนประเภท ๑ สำหรับผู้ที่เรียนดี มีคะแนนเฉลี่ยสะสมระดับ ม.ปลาย ไม่ต่ำกว่า ๓.๐๐ มีความประพฤติดี แต่มีรายได้น้อย ครอบครัวมีรายได้ไม่เกิน ๒ แสนบาทต่อปี จำนวน ๙๒๘ ทุน ให้ไปศึกษาใน ๓๕ ประเทศ และทุนประเภท ๒ สำหรับผู้ที่เรียนดี มีคะแนนเฉลี่ยสะสมระดับ ม.ปลายไม่ต่ำกว่า ๓.๐๐ มีความประพฤติดี ให้ไปศึกษาในสาขาวิชาที่ขาดแคลนด้านวิทยาศาสตร์ จำนวน ๙๒๘ ทุน
จากการรับสมัครผู้รับทุนทั้ง ๒ ประเภท ระหว่างวันที่ ๒๘ มกราคม - ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ มีผู้สมัครรับทุนรวมทั้ง ๒ ประเภทจำนวนประมาณ ๒๐,๐๐๐ คน แบ่งเป็นทุนประเภท ๑ มีผู้สมัครจำนวน ๖,๕๘๒ คน และทุนประเภท ๒ จำนวนกว่า ๑๔,๐๐๐ คน (รอรับรายงานเพิ่มอีก ๓ เขตพื้นที่การศึกษา) โดยกลุ่มนักเรียนที่สมัครสอบส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองลงมาคือ ภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคกลาง ตามลำดับ
การดำเนินงานขั้นตอนต่อไป จะมีการสอบข้อเขียนในวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๖ ซึ่งจะจัดสอบในศูนย์สอบแต่ละจังหวัดๆ ละ ๑ แห่ง ยกเว้นบางจังหวัด คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และตาก มีศูนย์สอบ ๒ แห่ง โดยจะประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านข้อเขียนในวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๖ สอบสัมภาษณ์ในวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๖ และประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์ได้รับทุนในวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๖ จากนั้นจะมีการปฐมนิเทศระหว่างวันที่ ๑๙-๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๖ และการเตรียมความพร้อมของผู้รับทุนด้านภาษาและวัฒนธรรมของประเทศที่ผู้รับทุนเลือกไปศึกษาในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ๒๕๕๖ ซึ่งผู้รับทุนทุกรายจะเริ่มเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ ตั้งแต่เดือนกันยายน ๒๕๕๖ เป็นต้นไป
►รับทราบผลการประชุมระดับภูมิภาคด้านการศึกษาเพื่อปวงชน ครั้งที่ ๑๓
ที่ประชุมรับทราบ สป.ศธ.ได้รายงานผลการประชุมระดับภูมิภาคผู้ประสานงานระดับชาติด้านการศึกษาเพื่อปวงชน ครั้งที่ ๑๓ (13th Regional Meeting of National EFA Coordinators : The Big Push) จัดโดยสำนักงานยูเนสโก กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ ๒๖-๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ที่โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค กรุงเทพฯ (รายละเอียดติดตามได้ในข่าวสำนักงานรัฐมนตรี ๘๕/๒๕๕๖)
►รับทราบข้อมูลการประเมินระดับนานาชาติของ PISA ปี ๒๕๕๕
ที่ประชุมรับทราบ สพฐ.ได้นำเสนอข้อมูลที่ธนาคารโลกได้สรุปผลวิเคราะห์และให้ข้อเสนอแนะข้อมูลจากผลการประเมินในระดับนานาชาติของประเทศไทย คือ PISA (2000-2009) และ TIMSS (1999-2007) ออกเผยแพร่ในเดือนมกราคม ๒๕๕๕ โดยใช้ชื่อเรื่อง Learning Outcomes in Thailand, What Can We Learn from International Assessments? ซึ่งผลคะแนนระดับนานาชาติจะมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้ภาครัฐ ประชาชน และระบบการศึกษาของประเทศ ต้องเร่งปรับปรุงคุณภาพการศึกษาของประเทศอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนขาดทักษะที่จำเป็นในการแข่งขันทางสังคมและประชาคมระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ รมว.ศธ.และ รมช.ศธ. ได้ฝากให้ที่ประชุมรับทราบและดำเนินการในประเด็นต่างๆ คือ
♦การสอบบรรจุครูผู้ช่วย ซึ่งจะต้องรอผลสอบสวนจาก DSI ให้เสร็จสิ้นก่อน จึงเห็นควรเลื่อนการประชุม ก.ค.ศ.ในวันที่ ๑๓ มีนาคมนี้ออกไปก่อน อย่างไรก็ตาม รมว.ศธ.ย้ำว่าการสอบบรรจุครูผู้ช่วยควรจะต้องดำเนินการจัดสอบให้เสร็จสิ้นโดยเร็วภายในเดือนเมษายน ๒๕๕๖ เพื่อไม่ให้โรงเรียนเอกชนประสบปัญหาการขาดแคลนครู กรณีที่ครูเอกชนได้รับการบรรจุแต่งตั้งเป็นครูผู้ช่วย โดยจะมีการให้มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับของสังคม มาดำเนินการจัดสอบ โดย รมว.ศธ.ย้ำว่าต้องป้องกันการทุจริตในกระบวนการสอบแข่งขันอย่างรัดกุมมากขึ้น ไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก
♦กองทุนตั้งตัวได้ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานเปิดตัวโครงการกองทุนตั้งตัวได้ไปแล้ว ขอให้ สกอ.เร่งดำเนินการ โดยเชิญคณะกรรมการบริหารกองทุนตั้งตัวได้ มาร่วมประชุมเพื่อดำเนินการขับเคลื่อนกองทุน พร้อมทั้งให้ สกอ.รายงานผลความคืบหน้าการดำเนินการเป็นระยะด้วย
♦เชิญข้าราชการ นักเรียนนักศึกษา และประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมชมนิทรรศการ Thailand 2020 "ก้าวใหม่เชื่อมไทยสู่โลก การลงทุนของประชาชน...เพื่อประชาชน" ระหว่างวันที่ ๘-๑๒ มีนาคม ๒๕๕๖ ณ อาคาร B (อาคารรัฐประศาสนภักดี) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถนนแจ้งวัฒนะ จ.นนทบุรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับเชิญเป็นประธานเปิดงานในวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๗.๓๐ น. โดยมีกิจกรรมสำคัญในงาน เช่น การสัมมนาหัวข้อ "ยุทธศาสตร์การลงทุนเพื่ออนาคตประเทศไทย" และ "การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ๒ ล้านล้าน... ประเทศชาติและประชาชน ๔ ภาคได้อะไร" พร้อมทั้งมีการจำหน่ายสินค้า OTOP ระดับ ๕ ดาว ร้านธงฟ้าราคาประหยัด เป็นต้น
♦การจัดงานรำลึกคุรุวีรชนชายแดนใต้ ครั้งที่ ๕ ที่โรงแรมซีเอส ปัตตานี ในวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๖ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
♦มาตรการประหยัดพลังงาน รมว.ศธ.ย้ำให้ทุกท่านได้ใส่ใจดูแลเรื่องการประหยัดพลังงาน ซึ่งนอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของประเทศแล้ว จะช่วยรักษาด้านสิ่งแวดล้อมด้วย
♦การลงโทษนักเรียนโดยใช้ไม้เรียวเฆี่ยนตีนักเรียน ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้นำคลิปวีดิโอให้ รมว.ศธ.ดูกรณีที่ครูผู้ช่วยรายหนึ่งใน จ.ชลบุรี ทำโทษนักเรียนโดยใช้ไม้เรียวตีเด็กนักเรียนอย่างรุนแรง จากการที่นักเรียนรายนั้นไม่ได้ทำรายงานส่งตามเวลาที่กำหนด ซึ่งมีการออกข่าวทางโทรทัศน์ช่อง ๗ ด้วยว่า ครูรายนั้นได้รับการว่ากล่าวตักเตือนจากสถานศึกษา และรายงานให้เขตพื้นที่การศึกษาทราบเท่านั้น จึงขอให้ สพฐ.ได้พิจารณาดำเนินการกรณีดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้ครูกระทำรุนแรงต่อนักเรียน ซึ่งสถานศึกษาหรือหน่วยงานต้นสังกัดไม่ควรปล่อยปละละเลยกรณีครูกระทำการลงโทษนักเรียนด้วยวิธีการที่รุนแรง และยุติเรื่องเพียงแค่ว่ากล่าวตักเตือนครูเท่านั้น
ที่มา http://www.moe.go.th/websm/2013/mar/084.html