ยิ่งสอบยิ่งลึก โกงสอบครูผู้ช่วยเป็นขบวนการใหญ่ โยงใยเป็นเครือข่าย พบสาเหตุข้อสอบรั่วต้นฉบับถูกขายในราคา 2 ล้าน หลังจากนั้นก๊อบปี้ต่อๆ กันจนมีมูลค่าหลักร้อยล้าน แถมมีการปรับเปลี่ยนผังเลขที่นั่งสอบ คาดมีระดับบิ๊กใน สพฐ.รู้เห็นแน่นอน ด้าน "ชินภัทร" จับตาผู้สอบผ่านมีคะแนนสูงผิดปกติ คาดมีจำนวนหนึ่ง แต่ไม่ถึงหลักพันคน ถูกสันนิษฐานไว้ก่อนน่าจะเข้าข่ายโกงสอบ เผยส่งข้อมูลให้ดีเอสไอ 6 มี.ค.นี้ ส่วนจะสอบใหม่หรือไม่ รอผลตรวจสอบให้ครบทุกฝ่ายก่อน
ต่อเนื่องจากการตรวจสอบทุจริตสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการครูในตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีมีความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ (ว12) ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มอบเอกสารหลักฐานให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ช่วยตรวจสอบอีกทางนั้นนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่มีการทุจริตการสอบคัดเลือกตำแหน่งครูผู้ช่วย 2,000 อัตราทั่วประเทศ ว่ามีชื่อผู้สมัครเข้าสอบทั้ง 2 แห่ง ขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ทำการตรวจสอบในเรื่องนี้อยู่ ว่าสุดท้ายแล้วเรื่องทั้งหมดมีใครเข้าไปเกี่ยวข้อง และมีกระบวนการที่ไม่ถูกต้องอย่างไร พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีมวยล้มอย่างแน่นอน เพราะมีการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา ปัญหานี้เดิมเกิดจากสมัยที่นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช เป็น รมว.ศธ. ที่มีการเปลี่ยนจากการสอบในระดับเขต มาเป็นการสอบระดับส่วนกลาง
ด้านนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศธ. กล่าวยอมรับว่า ระบบการศึกษาไทยกำลังปฏิรูปหลักสูตรการศึกษา เน้นการพัฒนาโดยเฉพาะครูผู้สอน ส่วนกรณีพบการทุจริตการสอบบรรจุครูผู้ช่วยจำนวน 2,000 อัตรา ขณะนี้ทางดีเอสไอได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2 สัปดาห์ สำหรับครูที่ถูกบรรจุแล้ว หากพบว่ามีการทุจริตก็จะดำเนินการถอดถอนในภายหลัง ขณะนี้ได้มีชะลอโดยการสั่งการให้แต่ละโรงเรียนที่จะรับครูลูกจ้างชั่วคราวระงับการจ้างไว้ก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีดังกล่าวอาจมีบุคคลระดับสูงในกระทรวงเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ นายเสริมศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้มีความเป็นไปได้ โดยจะต้องมีการตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อให้การสอบครั้งต่อไปมีความเป็นธรรม
ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้เตรียมบุคลากรและเจ้าหน้าที่เพื่อให้ปากคำและให้ข้อมูลกับดีเอสไอ ในวันที่ 6 มี.ค.นี้ นอกจากนี้ยังได้เตรียมคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรให้ดีเอสไอในประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องการส่งมอบข้อสอบจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง หรือไปในเขตพื้นที่การศึกษา
ส่วนกรณีก่อนหน้านี้ที่นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศธ. ระบุว่า เรื่องดังกล่าวอาจมีผู้เข้ากระบวนการทุจริตเกือบ 1 พันคน จากอัตราที่บรรจุ 2 พันอัตรานั้น ประเด็นนี้ สพฐ.มีข้อมูลอยู่แล้ว ทั้งยังเตรียมเสนอนายพงศ์เทพ รมว.ศธ. ในเร็วๆ นี้ด้วย โดยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นการพิจารณาจากการแจกแจงความถี่ของคะแนนผู้เข้าสอบ ซึ่งปกติแล้วการสอบแต่ละครั้งจะมีการกระจายของคะแนนเป็นค่าปกติ ทั้งการสอบครูผู้ช่วยส่วนใหญ่ก็จะมีการกระจายตัวแบบปกติของคะแนน แต่การสอบคัดเลือกดังกล่าวมีค่าคะแนนที่แสดงการกระจายตัวในระดับที่สูงกว่าปกติ บ่งบอกถึงความผิดปกติของคะแนน โดยคะแนนที่ผิดปกตินี้มีไม่ถึงพันคน โดยกลุ่มผู้ผ่านการคัดเลือกที่มีคะแนนสูงกว่าปกติ เบื้องต้นอาจสามารถสันนิษฐานได้ว่าเข้าข่ายที่จะทุจริต ซึ่ง สพฐ.มีรายชื่อทั้งหมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม การจะยกเลิกผลการสอบครูผู้ช่วยครั้งนี้หรือไม่นั้น ต้องนำข้อมูลการตรวจสอบของหลายฝ่ายมาพิจารณาร่วมกัน ทั้งของดีเอสไอ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ สพฐ. คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดที่ รมช.ศธ.แต่งตั้ง อย่างไรก็ดี มีความคืบหน้าการตรวจสอบของคณะกรรมการเหล่านี้ ทั้งข้อมูลของดีเอสไอพบว่ามีการแอบนำเครื่องมือสื่อสารเข้าไปในห้องสอบ มีกรณีการปรับผังที่นั่งของเขตพื้นที่การศึกษาที่ สพฐ.กำหนดให้จัดตามเลขที่สอบ ซึ่งตรงนี้ต้องดูว่ามีการจัดที่นั่งสอบตามผังหรือไม่ แต่จากข้อมูลแจ้งว่ามีการไปปรับผังที่นั่งใหม่
ด้านแหล่งข่าวระดับสูง ศธ.กล่าวว่า วันที่ 6 มี.ค. ทางดีเอสไอจะเดินทางมาสอบข้อมูลกับผู้บริหาร สพฐ. 4 ราย ได้แก่
นายชินภัทร ภูมิรัตน,
นายอนันต์ ระงับทุกข์ รองเลขาธิการ กพฐ.,
นายสุเทพ ชิตยวงษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. และ
นายไกร เกษทัน ผอ.สำนักระบบบริหารงานและบุคคลและนิติการ
ทั้งนี้ ตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องดังกล่าวยังไงต้องมีคนในที่อาจมีตำแหน่งงานสูงรู้เห็นแน่นอน เพราะมีกรณีข้อสอบหลุดรั่ว โดยจากข้อมูลพบว่าข้อสอบถูกขายเริ่มต้นฉบับละ 2 ล้านบาท ให้กลุ่มคนบางกลุ่ม จากนั้นกลุ่มคนดังกล่าวก็ไปสำเนาและขายต่อๆ กันจนมีมูลค่าเป็นหลักร้อยล้านบาท แต่เรื่องนี้คิดว่านายชินภัทรไม่น่าจะมีส่วนรู้เห็น เพราะนั่งในตำแหน่งอีกไม่กี่เดือนก็เกษียณอายุราชการแล้ว คงไม่น่าหาเรื่องใส่ตัว
อย่างไรก็ตาม เพราะกรณีข้อสอบรั่วดังกล่าว ทำให้คะแนนสอบครูผู้ช่วยปีนี้ในบางเขตพื้นที่การศึกษาสูงกว่าการสอบแต่ละปีประมาณ 20% อย่างปกติแต่ละเขตพื้นที่ฯ จะมีผู้สอบบรรจุผ่านได้คะแนนสูงสุดอยู่ที่ 70-80 คะแนนจากเต็ม 100 แต่ปีนี้บางเขตพื้นที่ที่ส่อว่ามีทุจริตจะมีผู้สอบบรรจุผ่านทำคะแนนได้สูงสุด 90 คะแนน ซึ่งตรงนี้จะเด่นมาก.
ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 6 มีนาคม 2556