เตรียมเรียก 7 ผอ.โรงเรียนภาคอีสานเข้าให้ปากคำโกงสอบครูผู้ช่วยสัปดาห์หน้า คาดทุจริตกันมโหฬารถึง 1 ใน 4 ของจำนวนอัตราบรรจุ
เมื่อวันที่ 2 มี.ค. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงการตรวจสอบกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการร้องเรียนให้ตรวจสอบทุจริตการสอบคัดเลือกตำแหน่งครูผู้ช่วย 2,000 อัตราทั่วประเทศ ว่า ดีเอสไอกำลังเร่งสืบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน เพื่อแจ้งผลกลับไปยังกระทรวงฯพิจารณาดำเนินการต่อไป เนื่องจากเป็นคดีไม่อยู่ในบัญชีแนบท้ายพ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ แต่หากทางกระทรวงฯต้องการให้ดีเอสไอรวบรวมพยานหลักฐานกรณีที่ปรากฎการทุจริต ก็จะต้องนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.)เป็นผู้พิจารณา ในส่วนที่กังวลว่าอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการขอข้อมูลจากในบางพื้นที่ที่ส่อทุจริตเช่นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น ในฐานะดีเอสไอเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย ย่อมมีอำนาจตรวจสอบเต็มที่ ซึ่งเบื้องต้นไม่คิดว่าจะมีการปกปิดข้อมูล เพราะถือเป็นความผิดและมีส่วนร่วมขบวนการ
เมื่อถามถึงกรณีที่ดีเอสไอเคยตรวจทุจริตสอบเข้ารับราชการของกรมราชทัณฑ์และดีเอสไอ จะนำฐานข้อมูลบุคคลต้องสงสัยมาเปรียบเทียบกับกลุ่มที่กระทำความผิดในการสอบครูผู้ช่วยครั้งนี้หรือไม่ นายธาริต กล่าวว่า บุคคลที่กระทำความผิดน่าจะเป็นคนละกลุ่มกัน แต่มีพฤติกรรมใกล้เคียงเท่านั้น
ด้านนายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามทุจริต ดีเอสไอ กล่าวว่า การสอบสวนเชิงลึกให้ได้ตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งขบวนการต้องให้กคพ.รับเป็นคดีพิเศษเพื่อจะได้มีอำนาจเข้าไปสอบสวนเต็มที่ แต่เบื้องต้นได้วางแนวทางการสืบสวนตามประเด็นที่ส่อผิดปกติไว้แล้วคือ กรณีมีรายชื่อผู้เข้าสอบซ้ำกัน 2 พื้นที่ กรณีนำเครื่องมือสื่อสารซุกซ่อนเข้าห้องสอบ และกรณีข้อสอบรั่วทำให้มีการทำโพยข้อสอบให้ผู้เข้าสอบท่องก่อนเข้าห้องสอบ โดยดีเอสไอจะสุ่มตรวจสอบสนามสอบพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน เพราะมีข้อมูลชี้ชัดที่สุด ซึ่งสัปดาห์หน้าจะเชิญ ผอ.โรงเรียน 7 ราย ตามที่มีเบาะแสระบุว่าบุคคลกลุ่มนี้มีพฤติกรรมต้องสงสัยเข้าให้ข้อมูล จากนั้นจะทยอยเชิญบุคคลกลุ่มอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลต่อไป และหากที่สุดแล้วพบการทุจริตทางกระทรวงฯก็จะเป็นผู้พิจารณายกเลิกการสอบหรือไม่และอย่างไรในกรณีมีพยานหลักฐานผิดปกติทั้งระบบหรือทุจริตเพียงบางส่วน
แหล่งข่าวจากกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า แผนประทุษกรรมของขบวนการโกงข้อสอบบรรจุเป็นข้าราชการในทุกสังกัด จะกระทำใน 3 ลักษณะ วิธีการแรกเป็นการส่งมือปืนรับจ้างเข้าไปร่วมสอบแล้วส่งคำตอบผ่านเครื่องมือสื่อสาร ซึ่งวิธีการนี้ผู้สอบต้องเข้ารับการอบรมวิธีใช้เครื่องมือสื่อสารในการเฉลยคำตอบ วิธีการที่ 2 เป็นการเฉลยคำตอบให้ท่องจำก่อนเข้าสอบ 1 วัน วิธีนี้จะกระทำได้ต่อเมื่อข้อสอบรั่ว โดยข้อสอบที่รั่วจะมีราคาชุดละ 1-2 ล้านบาท วิธีการที่ 3 เป็นการส่งบุคคลอื่นเข้าสอบแทน ในส่วนของค่าธรรมเนียมในการเฉลยข้อสอบจะเรียกเก็บเป็น 2 อัตรา กรณีข้อสอบบรรจุเป็นข้าราชการซี 3 เรียกเก็บ 300,000 บาท และข้อสอบบรรจุเป็นข้าราชการซี 2 เรียกเก็บ 200,000 บาท ทั้งนี้จากข้อมูลเบาะแสเบื้องต้นคาดว่าในการสอบครูผู้ช่วยครั้งนี้มีการทุจริตครบทั้ง 3 วิธีการ มีผู้ทุจริตประมาณ 500 คน ซึ่งถือเป็น 1 ใน 4 ของ 2,000 อัตราที่เปิดรับครั้งนี้
ที่ผ่านมาหน่วยราชการจึงพยายามวางระบบเก็บรักษาข้อสอบอย่างเข้มงวด โดยข้อสอบจะถูกส่งไปยังคณะกรรมการคุมสอบในแต่ละสนามสอบผ่านอีเมลล์ พร้อมกำหนดพาสเวิร์ดในการเปิดอีเมลล์ให้คณะกรรมการผู้มีหน้าที่รับผิดชอบเป็นผู้เปิดอีเมลล์ โดยอีเมลล์จะถูกเปิดก่อนการสอบ 1 วัน เมื่อเปิดข้อสอบแล้วกรรมการคุมสอบจะถูกเก็บตัวอยู่ภายในสนามสอบห้ามติดต่อสื่อสารกับบุคคลภายนอกจนกว่าการสอบในวันรุ่งขึ้นจะแล้วเสร็จ แต่จากการตรวจสอบข้อมูลการจัดส่งข้อสอบของ สพฐ.ครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดส่งจากส่งผ่านอีเมลล์ หรือการเรียกให้กรรมการคุมสอบในแต่ละเขตพื้นที่มารับข้อสอบจากส่วนกลาง ไปเป็นการส่งข้อสอบผ่านไปรษณีย์ทำให้ข้อสอบถูกส่งถึงสนามสอบก่อนวันสอบเป็นเวลา 2- 3 วัน จึงมีโอกาสที่ข้อสอบรั่วได้ทั้งในขั้นตอนการจัดส่งและขั้นตอนการเก็บรักษาข้อสอบในสนามสอบเอง
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า จากแฟ้มประวัติบุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยเป็นมือปืนรับจ้างในการเฉลยข้อสอบมีกว่า 10 ราย โดยมีประวัติสมัครสอบแทบทุกสนาม สอบได้คะแนนดีแล้วสละสิทธิ์ และเป็นคนที่มีประวัติเรียนดีโดยเฉพาะสายคณิตศาสตร์ เนื่องจากการสอบแต่ละสนามจะกำหนดสัดส่วนคะแนนคณิตศาสตร์มากที่สุด ยกตัวอย่าง ข้อสอบ 100 ข้อ จะเป็นคณิตศาสตร์ 40 ข้อ ภาษาไทย 25 ข้อ สังคม 25 ข้อ และภาษาอังกฤษ 15 ข้อ ผู้ที่ทำคะแนนได้เกิน 80 ข้อขึ้นไปอยู่ในข่ายสอบได้ โดยวิธีการโกงจะทำเป็นขบวนการตั้งแต่การแยกสมัคร การนำแผนผังห้องสอบจริงมาวิเคราะห์ว่าผู้สอบจะได้ข้อสอบชุดใด การซักซ้อมวิธีรับสัญญาณในการเฉลยคำตอบ เช่น สั่น 1 ครั้ง 2 ครั้ง 3 ครั้ง และ 4 ครั้ง เมื่อมือปืนเข้าทำข้อสอบจะส่งคำตอบแยกเป็นชุดข้อสอบออกมายังขบวนการภายนอก ซึ่งจะประมวลคำตอบแยกตามชุดข้อสอบ แล้วส่งสัญญาณไปให้ผู้สอบอื่นๆ โดยการเฉลยคำตอบข้อสอบ 100 ชุด จะใช้เวลาเพียง 4-5 นาทีเท่านั้น
ที่มา เดลินิวส์ วันที่ 2 มีนาคม 2556