เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ (ว๑๒)
รมว.ศธ. กล่าวถึงกรณีการสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ (ว๑๒) ซึ่งก่อนหน้านี้พบว่ามีรายชื่อผู้สอบรายหนึ่งปรากฏชื่อเข้าสอบพร้อมกันในสองจังหวัด คือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ขอนแก่น เขต ๓ และ สพป.ศรีสะเกษ เขต ๓ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะเดียวกันสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ก็ได้รับรายงานเพิ่มเติมว่าเกิดปัญหาในลักษณะเดียวกันที่ สพป.นครปฐม เขต ๑
ดังนั้น จึงได้มอบให้ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไปตรวจสอบว่าได้บรรจุแต่งตั้งไปแล้วหรือไม่ เพราะหากบุคคลที่ไปสมัครสอบ ๒ แห่ง หลักฐานเบื้องต้นก็ต้องคิดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอยู่แล้ว ดังนั้นหากมีการสอบแทนกัน บุคคลนั้นๆ ก็ไม่มีสิทธิ์ได้รับการบรรจุแต่งตั้ง ซึ่งจะต้องไปดูกระบวนการสอบด้วยว่าส่วนใดไม่ถูกต้อง ก็ต้องไปตรวจสอบในส่วนนั้น และต้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ก่อน ภายหลังจากที่ได้รับข้อมูลเอกสารหลักฐานการทุจริตสอบบรรจุข้าราชการครูทั่วประเทศจากนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศธ. ไปแล้ว เพื่อให้ทาง DSI ดำเนินการสืบสวนหาผู้กระทำผิด ซึ่งจะต้องดูการทุจริตเป็นจุดๆ ไป เพราะการจะยกเลิกการสอบหรืออะไรก็ตาม จำเป็นจะต้องมีเหตุผล เพราะอาจจะมีผู้โต้แย้งไปถึงศาลปกครองได้อีก
ส่วนการพิจารณาหลักเกณฑ์การสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในตำแหน่งครูผู้ช่วย ซึ่งจะสอบภายในเดือนเมษายนนี้ ไม่ว่าจะเป็นระบบการให้ส่วนกลางดำเนินการจัดทำข้อสอบและประมวลผลการสอบ โดยให้เขตพื้นที่การศึกษาไปดำเนินการในการบริหารการสอบ หรือระบบกระจายให้เขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้ดำเนินการจัดสอบเองทั้งหมด รมว.ศธ.กล่าวว่า ทุกระบบมีปัญหาแตกต่างกันออกไป ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) จะได้พิจารณาในเร็วๆ นี้
ที่มา http://www.moe.go.th/websm/2013/feb/076.html